รายงานพิเศษ/บินอย่างองอาจดั่งอินทรีย์ (เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับ1252)
มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
-อุบาสิกา คุณรัญจวน อินทรกำแหง
"ผู้เด็ดเดี่ยวอย่างนกอินทรีย์"
“ถ้าเราเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม หรือ เรื่องกฏแห่งเหตุปัจจัยที่ได้กระทำย่อมไม่มีสิ่งใดเป็นเรื่องบังเอิญ...! “
ศิษย์ผู้รับใช้ดูแลอุบาสิกา คุณรัญจวน อินทรกำแหง มา 27 ปี จนถึงนาทีสุดท้าย เล่าเรื่องอันน่าปีติ หลังจากที่ท่านเดินทางไปร่วมพิธีลอยอังคารคุณแม่รัญจวน กลางแม่น้ำโขง จ.นครพนม เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา
ท่ามกลางคณะศิษย์จากทุกสารทิศ และคณะภิกษุสงฆ์ครูบาอาจารย์นำโดย พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าหนองไผ่ จ.สกลนคร และกัลยาณมิตรทางธรรม อุบาสก อุบาสิกา
ศิษย์ผู้รับใช้ 27 ปี – นาทีสุดท้าย กล่าวว่า ทุกคนที่ได้สัมผัสการจัดงานฯด้วยตนเอง ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า งานอันเกี่ยวกับพิธีปลงสรีระสังขารของท่านอาจารย์คุณรัญจวนนั้นก็ช่างงดงามอย่างพอเหมาะพอดีทั้งในเบื้องต้น ท่ามกลาง และในท้ายที่สุดเป็นที่น่าอัศจรรย์
#งามตั้งแต่แรกสวดพระอภิธรรม ณ วัดสระเกศ ที่มีพระเถรานุเถระและคณะศิษย์ พร้อมประชาชนทั่วประเทศ เดินทางมาร่วมงานด้วยจิตศรัทธาอย่างคับคั่งโดยมิได้มีการออกการ์ดเชิญใดๆ บรรยากาศเป็นไปอย่างสงบ สง่า งดงาม เรียบง่าย
#ต่อมาเมื่ออัฐิและอังคารท่านเดินทางมาถึงจังหวัดสกลนคร
ก็มีเหตุให้พอดีกับคณะของสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ฯ พระมหาเถระผู้อร่ามในธรรม พร้อมด้วยพระเถรานุเถระสายพระอาจารย์มั่นอีกหลายรูป กำลังจะเดินทางขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ
ดังนั้น ในทันที่ที่อัฐิคุณแม่ท่านลงจากเครื่องบินมาถึงสนามบินสกลนคร สมเด็จพระมหามุนีวงศ์และคณะพระเถรานุเถระ จึงได้เมตตาทำพิธีแผ่เมตตาและสวดบังสุกุลให้ในทันที
#และเมื่อถึงช่วงสุดท้ายแห่งพิธีการ ตามที่ท่านสั่งไว้ให้นำอัฐิและอังคารไปลอยในแม่น้ำโขง ความงามในที่สุดก็พลันปรากฏ...
“กล่าวคือ...ทางคณะศิษย์มิได้เจาะจงมาก่อน แต่ทางฝ่ายกัปตันเรือที่ลอยอังคารได้ล่องเรือไปถึงจุดกึ่งกลางระหว่างวัดมหาธาตุ และวัดโอกาส อันเป็นจุดลอยอังคารฯ
ซึ่งที่วัดมหาธาตุนั้น มีพระธาตุนคร ซึ่งเป็นพระธาตุประจำคนเกิดวันเสาร์ ซึ่งท่านก็เกิดวันเสาร์พอดี และ
ชื่อวัด"โอกาส" ก็ช่างตรงกับสิ่งที่ท่านให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และพูดเสมอๆว่า
เราควรให้"อภัย"ให้"โอกาส"แก่ตนเองและผู้อื่นเสมอๆในการแก้ไขและพัฒนาตนให้ยิ่งๆขึ้นไปจนถึงที่สุด และท่านย้ำเสมอว่า ครูที่ดีคือผู้ให้"โอกาส" สร้าง"โอกาส"ให้แก่ศิษย์
จึงน่าคิด น่าน้อมพิจารณาจริงๆ ถึงชื่อของวัดที่ชื่อวัดโอกาส อันเป็นบริเวณที่อัฐิอังคารท่านคืนสู่ธรรมชาติกลางสายน้ำใสเย็น หน้าองค์เจดีย์พระธาตุนคร อันเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของท่าน
“อีกทั้งวันลอยอังคารนั้นก็ช่างพอดีที่ตรงกับวันพฤหัสบดีอันเป็นวันครูโดยแท้
ปิดฉากสุดท้ายในการคืนธาตุขันธ์สู่ธรรมชาติอย่างงดงาม สมดังเหตุปัจจัยตามกุศลกรรมอันพิสุทธิ์ที่ท่านได้บำเพ็ญต่อตนเองและเพื่อนมนุษย์มาตลอดชีวิตของความเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ทั้งทางโลก และทางธรรมอย่างแท้จริง”
ดัง ความหมายของคำว่า "ครู” ที่ท่านอาจารย์รัญจวน เขียนไว้ใน บทความเรื่อง “ครูคือผู้สร้างโลก” ตอนหนึ่งว่า
“ครูคือผู้เป็นที่พึ่ง ,
ครูคือผู้เปิดประตูคอก ซึ่งเจ้าประคุณท่านอาจารย์สวนโมกข์ (หมายถึงท่านอาจารย์พุทธทาส) ท่านใช้คำพูดว่า ครูเป็นผู้เปิดประตูคอก ที่ขังสัตว์ ไว้ในความมืด ให้ได้ออกไปสู่แสงสว่าง หรือ
เป็นผู้เปิดประตูคุกแห่งอวิชชา ให้สัตว์ออกมา เสียจากความโง่เขลา
ครูคือผู้ฝึก
ครูคือผู้ให้แสงสว่าง ให้ความรู้แก่ศิษย์อย่างทั่วถึง ทั้งวิชาการทางโลก และวิชชาอันเป็นปัญญาด้านใน
ดังนั้น
ครูจึงต้องศึกษา ฝึกฝน อบรมตนเองให้พร้อมทั้งวิชาและวิชชา
"วิชา"นั้นเรียนรู้จาก ตำรา ครูอาจารย์ และ ประสบการณ์ได้ แต่
"วิชชา"จะเกิดขึ้นได้ ต้องมาจากการศึกษาด้านใน ด้วยการหมั่นมองดู ใคร่ครวญ ถึงสิ่งอันเป็นสัจธรรม และ
ครูคือผู้นำทางจิตวิญญาณ ที่จะนำพาศิษย์ไปในทิศทางที่ถูกต้อง ด้วยการพัฒนาจิตให้เกิดสัมมาทิฏฐิ มีความคิด ความเห็นที่ถูกตรง อันจะนำไปสู่การคิด พูด และทำในสิ่งที่ถูกต้อง
“ฉะนั้น
ความเป็นครูจึงเป็นของหนัก
ครูที่แท้จริงจึงเป็นผู้ควรแก่การเคารพสักการะ
ควรแก่การบูชา
เป็น ปูชนียบุคคล ผู้เป็นที่พึ่ง และผู้นำ ทางจิตวิญญาณแก่สังคม”
ท่านอาจารย์รัญจวน สมเป็นครูที่แท้ ที่ไม่เพียงแต่สอนผู้อื่น หากเกิดจากการฝึกตนจนสอนตนเองได้ จึงถ่ายทอดความรู้อันเป็นสัมมาทิฐิ แก่ศิษย์ต่อไปอย่างไม่เลือกปฏิบัติตลอดชีวิตการเป็นอนาคาริกาของท่าน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2559
ที่หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ หรือ สวนโมกข์ กรุงเทพ โดยกลุ่มมาตาภาวนา ได้จัดปฏิบัติภาวนาบูชาพระคุณแม่ โดยน้อมนำธรรมบรรยายเรื่อง “นกอินทรีย์เลี้ยงลูก “ ของคุณแม่รัญจวน มาปฏิบัติบูชารำลึกถึงพระคุณท่าน ณ ลานหินโค้ง ซึ่ง
ในงานพระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าหนองไผ่ จ.สกลนคร และ พระอาจารย์สุชาติ ปัญญาทีโป เจ้าอาวาสวัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี 2 มหาเถระเจ้าอธิการแห่ง 2 อาราม ที่ท่านอาจารย์รัญจวนได้พำนักปฏิบัติธรรมอยู่ด้วย ได้เมตตามางานร่วมและให้โอวาท และหลักการปฏิบัติธรรม
ดังตอนหนึ่ง พระอาจารย์สุธรรมกล่าวว่า
“อาตมาเชื่อว่า
ผู้ที่มาปฏิบัติบูชา ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่คุ้นเคยกับคุณแม่รัญจวน ล้วนเป็นผู้ที่มุ่งมั่น แสวงหาอรรถ หาธรรม
อาตมามีความเชื่อ จากการสัมผัสด้วยตัวเองว่า ..
ถ้าบุคคลใดก็ตาม
ได้เข้ามาใกล้ชิดกับคุณแม่รัญจวนแล้ว จะเป็นเหตุให้เสื่อมศรัทธาในพระศาสนานั้นเป็นไปไม่ได้ ล้วนแต่จะเพิ่มพูนความศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่งๆ ขึ้นไป”
หลังจากพระเถระทั้งสองท่านให้โอวาทแก่ผู้ปฏิบัติธรรมจบลง ผู้เข้าร่วมงานได้ปฏิบัติภาวนา ณ ลานหินโค้ง สำรวมจิตเพื่ออุทิศกุศลแด่ท่านอาจารย์รัญจวน ซึ่งท่านได้คืนสู่ธรรมชาติ ณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
และในวันที่ 28 พฤษภาคม 2559 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิด 95 ปีของท่านอาจารย์รัญจวน 25 วันหลังจากละสังขาร กลุ่มมาตาภาวนา หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ หรือ สวนโมกข์กรุงเทพ จัดปฏิบัติภาวนา บูชาพระคุณแม่ขึ้นหนึ่งวันหนึ่งคืน คือตั้งแต่บ่ายโมงของวันที่ 28 ไปจนถึงหกโมงเย็นของวันที่ 29 พฤษภาคม ซึ่งท่านผู้อ่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คุณจิรภัทร์ โทร.08-9023-2815 (ช่วงกลางวัน)
แม้ปูชนียบุคคลที่ได้รับการยกย่องว่า "มหาอุบาสิกา" และ "แม่ทัพธรรมหญิง" ที่มีจริยวัตรงดงาม อ่อนน้อมถ่อมตน สงบเย็น และมีคุณูปการในการเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ โดยกล่าวประกาศไตรสรณคมน์อันเป็นที่พึ่ง ด้วยเสียงอันดังอย่างชัดเจน ก่อนจะค่อยๆแผ่วลง จนเหลือท่าทีของการกำหนดจิตอยู่ภายใน แล้วดับไปอย่างสงบ สบาย สง่างามสมเป็นแม่ทัพธรรมหญิงท่านหนึ่งในพระพุทธศาสนา
แม้ธาตุขันธุ์ของท่านได้จากไป
แต่หลักธรรมคำสอนของท่านที่เป็นดั่งพญานกอินทรีย์ ยังคงอยู่ที่จะส่งผ่านพลังมุ่งมั่นอาจหาญในธรรมไปยังลูกๆ นกอินทรีย์ที่มีใจเด็ดเดี่ยว มุ่งสู่ทางพ้นทุกข์ได้นำมาปฏิบัติอย่างเต็มกำลัง
แก้ไขข้อความ ใน รายงานพิเศษเรื่อง “ ขันติและโสรัจจะ ธรรมะจากอุบาสิกา คุณรัญจวน “ โดย ผู้รับใช้ 27 ปี-นาทีสุดท้าย ในล้อมกรอบ “รางวัลแห่งความดีงาม” ข้อความที่ถูกต้อง ดังนี้
ในปีพ.ศ.2512 เมื่อท่านอายุ48ปี “พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการ(กระทรวงศึกษาธิการ ในปัจจุบัน)ประทานเมตตาทำเรื่องทูลขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นตติยจุลจอมเกล้าให้ โดยที่คุณแม่ท่านไม่ทราบเรื่องราวมาก่อน ด้วยท่านมุ่งหน้าทำแต่ความดีอย่างสุจริตใจโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ
และตลอด27ปีที่รับใช้ใกล้ชิด ก็จะเห็นว่าท่านได้รับแต่สิ่งดีๆอันเลิศทั้งหลาย ตอบกลับคืนสู่ท่านโดยยุติธรรม สถิตสถาพรไม่เสื่อมสูญดังเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกันตราบจนวาระสุดท้าย นับเป็นเครื่องยืนยันสัจธรรมในพระพุทธพจน์ที่ว่า
"ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม" นั่นเอง.
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
