15 ธ.ค. เวลา 12:27 • ข่าวรอบโลก

สรุปสถานการณ์ “สงครามยูเครน” อัพเดทถึง 13 ธ.ค. 2024

ในแง่ของ “สถานการณ์ในสนามรบ” “ความพยายามในการเจรจา” “ความขัดแย้งเกี่ยวเนื่องในซีเรีย”
ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมากองทัพรัสเซียขยายพื้นที่สุทธิ 232 ตารางไมล์ในยูเครน ซึ่งเทียบเท่ากับเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยสถาบันเพื่อการศึกษาด้านสงคราม (ISW) [1]
เครดิตภาพ: ISW
ในความคืบหน้าล่าสุดสำหรับการรายงานภาคพื้นดิน พบว่ากองทัพรัสเซียอยู่ห่างจากเมืองสำคัญอย่างโปครอฟสค์ในโดเนตสค์ทางตะวันออกของยูเครนไม่ถึง 2 ไมล์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2024 ตามรายงานของกลุ่ม DeepState OSINT ของเคียฟ เมืองโปครอฟสค์ตั้งอยู่ริมถนนสายหลักที่เชื่อมระหว่างเมืองต่างๆ หลายเมือง ซึ่งสร้างแนวป้องกันที่ปกป้องส่วนหนึ่งของภูมิภาคโดเนตสค์ทางตะวันออกที่ยูเครนยังคงยึดเป็นที่มั่นไว้ได้อยู่ [2]
“นายพลโอเล็กซานเดอร์ ซิร์สกี” ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครน กล่าวเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า จำเป็นต้องทำ “การตัดสินใจที่นอกกรอบ” เพื่อเสริมกำลังการป้องกันของยูเครนในภาคตะวันออก ตามรายงานของนิวยอร์กไทมส์ [3]
การเรียกร้องของนายพลซิร์สกีให้ “ตัดสินใจทำนอกกรอบ” ทำให้เรานึกถึงสถานการณ์ที่คล้ายกันของ “นายพลวาเลรี ซาลุจนี” (ตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ยูเครนคนก่อนหน้าซิร์สกี) ซึ่งเขาระบุว่ากองทัพยูเครนจะต้องใช้สิ่งใหม่ๆ เหมือนกับดินปืนที่จีนประดิษฐ์ขึ้นเมื่อสมัยก่อน เพื่อให้ได้ประสบความสำเร็จในสนามรบ [4]
1
นายพลโอเล็กซานเดอร์ ซิร์สกี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครน เครดิตภาพ: Ukrainska Pravda
13 ธันวาคม 2024 กองบัญชาการของรัสเซียได้ตัดสินใจยิงโจมตีทางอากาศด้วยขีปนาวุธพิสัยใกล้และปล่อยโดรนโจมตีรวมกันประมาณ 300 ครั้ง เพื่อเอาคืนที่เคียฟใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีฐานทัพในเมือง Taganrog ของรัสเซียเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมก่อนหน้านั้น ตามรายงานทางเคียฟกองกำลังป้องกันของยูเครนได้ยิงสกัดกั้นขีปนาวุธ 81 จากทั้งหมด 94 ลูก และโดรน 80 จากทั้งหมด 193 ลำที่รัสเซียยิงใส่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนในช่วงเช้าของวันที่ 13 ธันวาคม [5]
การโจมตีครั้งใหญ่ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 12 ต่อภาคพลังงานของยูเครน ตามรายงานของ RBC.ua [6] ตามรายงานของ IAEA ระบุว่าทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 5 แห่งจากทั้งหมด 9 แห่งของยูเครนลดกำลังการผลิตลง [7]
เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวกับ NYT ว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนมากกว่า 40% ถูกทำลายและถูกยึดครองโดยรัสเซียก่อนปลายเดือนพฤศจิกายน และจะใช้เวลา 3-4 ปีในการฟื้นฟูโรงไฟฟ้าขึ้นมาใหม่ การที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธพิสัยใกล้ที่เคยใช้มาก่อนในการโจมตีตอบโต้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม อาจบ่งชี้ว่าในตอนนี้รัสเซียเลือกที่จะยกระดับการโจมตีทางอากาศในเชิงปริมาณมากกว่าเชิงคุณภาพ [8]
เครดิตภาพ: Florent via Adobe Stock
WSJ รายงานว่าโครงร่างแผนความพยายามของทรัมป์ในการยุติสงครามในยูเครนเริ่มปรากฏให้เห็นเป็นครั้งแรก แม้ว่าทรัมป์จะยังไม่ได้เลือกแผนใดโดยเฉพาะสำหรับยูเครน แต่เขาต้องการให้ยุโรปแบกรับภาระส่วนใหญ่ในการสนับสนุนเคียฟต่อไป โดยให้กองกำลังยุโรปดูแลเรื่องหลังการหยุดยิง ตามรายงานของสื่อฉบับดังกล่าว จะไม่มีกองกำลังทหารสหรัฐเข้ามายุ่งเกี่ยวในยูเครน [9]
ตามวิสัยทัศน์ของ “ทรัมป์” ในระหว่างการประชุมกับ “มาครง” และ “เซเลนสกี” ที่กรุงปารีสเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา (ร่วมพิธีเปิดอาสนวิหารนอเทรอดามหลังปฏิสังขรณ์เสร็จจากเหตุไฟไหม้) ทรัมป์ยังกดดันให้ยุโรปทำมากขึ้นไปอีกเพื่อโน้มน้าวให้จีนกดดันรัสเซียให้ยุติความขัดแย้ง ทั้งสามหารือถึงการใช้มาตรการกำแพงภาษีศุลกากรกับจีนเป็นเครื่องต่อรองหากปักกิ่งไม่เห็นด้วย
1
หลังการประชุมกันที่ปารีส ทรัมป์ได้โพสต์บน Truth Social ว่า “เซเลนสกีและยูเครนต้องการทำข้อตกลงและยุติความบ้าคลั่งนี้ พวกเขาสูญเสียทหารไปถึง 400,000 นายและพลเรือนอีกมากมาย ควรมีการหยุดยิงทันทีและเริ่มการเจรจา ชีวิตมากมายถูกละเลยโดยไม่จำเป็น ครอบครัวมากมายถูกทำลาย และหากเป็นแบบนี้ต่อไป อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่โตและเลวร้ายยิ่งกว่านี้ ผมรู้จักวลาดิเมียร์เป็นอย่างดี นี่คือเวลาที่เขาจะต้องลงมือทำ จีนสามารถช่วยได้ โลกกำลังรออยู่!” [10]
เครดิตภาพ: JULIEN DE ROSA / AFP
จากคำกล่าวของ “ สี จิ้นผิง” เมื่อ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ในการประชุมกับ “ดมิทรี เมดเวเดฟ” รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย ผู้นำจีนอาจได้ยินคำเรียกร้องเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมของทรัมป์ ซึ่งเชิญ สี จิ้นผิง เข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของเขาในเดือนหน้า แต่ผลลัพธ์ล้มเหลว (ไม่ไป) สีพูดไว้ดังนี้
“เกี่ยวกับวิกฤตในยูเครน จีนเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในหลักการสำคัญ 3 ประการอย่างต่อเนื่อง คือ การควบคุมพื้นที่ขัดแย้งไม่ให้ขยายตัว ป้องกันไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียด และห้ามปรามฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ให้โหมกระพือไฟสงคราม จีนจะยึดมั่นในจุดยืนที่มั่นคงและดำเนินการร่วมกับกลุ่มองค์กรระหว่างประเทศต่อไปเพื่อสร้างเงื่อนไขที่ส่งเสริมการยุติวิกฤตทางการเมือง” สี จิ้นผิงถูกอ้างคำพูดโดยสถานีโทรทัศน์จีนที่กล่าวในการประชุมกับเมดเวเดฟที่กรุงปักกิ่ง
ในรายงานการประชุมเมดเวเดฟยืนยันว่า จีนซึ่งเปิดเผยแผนสันติภาพ 12 ประการสำหรับยูเครนเมื่อปีที่แล้ว [11] “ได้ระบุแนวคิดของจีนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่เป็นไปได้” เขายินดีกับแนวคิดสันติภาพของ สี จิ้นผิง โดยกล่าวว่า “เราสนับสนุนข้อเสนอเหล่านี้”
นอกจากนี้ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ปรากฏว่า รัสเซียอาจยินดีกับมาตรการสันติภาพอย่างน้อยหนึ่งมาตรการของทรัมป์เช่นกัน แต่เมื่อถูกถามถึงแนวคิดในการส่งกองกำลังยุโรปเข้ามายังยูเครนหลังจากข้อตกลงหยุดยิงได้ข้อสรุปลงนามกัน เพื่อให้แน่ใจว่ายูเครนจะปฏิบัติตาม “ดมิทรี เปสคอฟ” โฆษกเครมลินกล่าวว่า “เราสามารถหารือเรื่องนี้ได้ในระหว่างการเจรจา และควรหารือด้วย” ตามรายงานของ Korrespondent.net [12]
4
ภาพถ่ายเมื่อ 12 ธันวาคม 2024 เครดิตภาพ: Xinhua
ทางการรัสเซียใช้เวลาทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาในการพยายามบรรเทาผลกระทบต่อมอสโกจากการล่มสลายของรัฐบาลอัสซาดในซีเรียอย่างรวดเร็วและน่าประหลาดใจ แม้ว่าปูตินจะเรียกร้องให้หาสาเหตุว่าทำไมหน่วยข่าวกรองของรัสเซียจึงไม่สังเกตเห็นภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อการปกครองของอัสซาดจนกระทั่งสายเกินไป [13]
แต่เจ้าหน้าที่ของรัสเซียได้เข้าพบเจรจากับตัวแทนของกลุ่ม HTS ที่ยึดซีเรียมาจากอัสซาด เพื่อพยายามโน้มน้าวให้พวกเขายังปล่อยให้รัสเซียคงฐานทัพเรือและกองทัพอากาศไว้ในดินแดนของซีเรียซึ่งตอนนี้กลุ่ม HTS ได้เป็นคนควบคุมดินแดนส่วนใหญ่ของซีเรียไว้อยู่ ตามรายงานของบลูมเบิร์ก [14]
ปูตินปรากฏตัวต่อสาธารณะหลายครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่เลือกที่จะไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับซีเรียในที่ใดๆ แม้ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเองที่ได้ให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่อัสซาด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปูตินเคยบอกกับอัสซาดว่าจะไม่มีทหารรัสเซียเข้ามาช่วยรักษาสถานภาพของรัฐบาลเขาในซีเรียอีกแล้ว [15]
ภาพถ่ายเมื่อปี 2017 เครดิตภาพ: Mikhail Klimentyev, Kremlin Pool Photo via AP
เรียบเรียงโดย Right Style
15th Dec 2024
  • เชิงอรรถ:
<ภาพปก: ทหารยูเครนบริเวณแนวตั้งรับบริเวณใกล้กับเมือง Kurakhovo ในภูมิภาคโดเนตสค์ ภาพถ่ายวันที่ 4 ธันวาคม 2024 เครดิต: Diego Herrera Carcedo/Anadolu/Getty Images>
โฆษณา