ฝึกละความคิดอกุศลให้ไว ใจไม่ทุกข์ ปัญหาไม่เกิด

ความคิดอกุศลในความหมายของคนยุคปัจจุบัน มักจะนิยมใช้กันในความหมายถึง ความคิดที่อยากทำร้ายคนอื่น ความคิดอยากด่าคนอื่น หรือ คิดโลภเพ่งเล็งทรัพย์ผู้อื่น หรือแม้แต่คิดเรื่องใต้สะดือกับคนอื่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำว่าความคิดอกุศลครอบคลุมความหมายละเอียดกว่านั้น
#อกุศล #เจริญสติ
ภาษาพระจะเรียกความคิดอกุศลว่า อกุศลจิต คือ ความคิดที่โง่เขลา ความคิดที่ไม่ฉลาด ยกตัวอย่างเช่น เวลาเราดูข่าวนักการเมืองละทิ้งหน้าที่หรือฉ้อโกงเงินภาษี เราก็มักจะตำหนิหรือต่อว่าด่าทอออกมาโดยอัตโนมัติ เวลาได้ยินได้ฟังข่าวสารบ้านเมืองที่ไม่ดี ก็ไปคอมเม้นต์วิพากษ์วิจารณ์ในทำนองตำหนิติเตียน สรุปก็คือเรามักจะใช้อารมณ์เข้าร่วมทันทีที่เรารับรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆมาด้วยตาหูและใจของเรา บางคนเป็นเอามากก็ถึงขั้นไปมีปากมีเสียงกับผู้อื่น กลายเป็นอยู่ดีไม่ว่าดี ชักศึกเข้าบ้านตัวเองซะงั้น
ทุกท่านทราบไหมครับว่าทุกเมื่อที่เราตำหนิติเตียนหรือคิดปรามาสติติงผู้อื่น เมื่อนั้นอกุศลได้เกิดขึ้นในใจของเราแล้ว การรับรู้เรื่องราวต่างๆด้วยตาหูจมูกลิ้นกายและใจ แล้วใช้จิตไปทำปฏิกิริยาออกมาเป็นอารมณ์ต่างๆ ทั้ง ชอบ ไม่ชอบ พอใจ ไม่พอใจ หมั่นไส้ ไม่ได้ดั่งใจ แค้นใจ คาดโทษ ชิงชัง ล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างกรรมที่เรียกว่า "มโนกรรม" ทั้งสิ้น
ฟังๆดูแล้ว เหมือนจะไม่สมเหตุสมผลและดูเหมือนเป็นเรื่องไม่จริงใช่มั้ยล่ะครับ เพราะแค่การคิดเฉยๆ จะไปเป็นกฎเป็นกรรมอะไรขึ้นมาได้อย่างไร แล้วมันจะส่งผลอะไรนักหนากะอีแค่การคิด นี่แหละครับเป็นจุดที่คนมักจะพลาดเพราะไม่เคยฝึกสติ ด้วยความเร็วของจิตที่ไปตั้งอยู่ในอารมณ์อกุศลนั้นๆ ก็เลยทำให้จิตเผลอไปสร้างภพขึ้นมา ภาษาพระเรียกส่งจิตออกนอก คือออกนอกกาย ออกนอกลมหายใจ ออกนอกสติ ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆจนชินโดยไม่ฝึกคุมสติ จิตก็จะสร้างนิสัยที่เสี่ยงต่อการไปเกิดในที่ที่ไม่ดี เรียกว่าสั่งสม "อนุสัย"
อนุสัย เป็นความเคยชินที่มักจะแสดงออกมาโดยอัตโนมัติ เพราะเจ้าของอนุสัยไม่เคยฝึกละทิ้งการเอาอารมณ์ไปร่วมในเรื่องราวต่างๆ ลองสังเกตตัวเองดูนะครับว่าคุณเป็นคนที่พอเห็นใครคอมเม้นต์ฺอะไรไม่ตรงใจก็ไปพิมพ์โต้ตอบเขาเลยหรือไม่ ได้เห็นได้ฟังข่าวอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจก็ไปแสดงความคิดเห็นรุนแรงหรือค่อนขอดหรือเปล่า จิตที่เป็นอนุสัยเช่นนี้ทำให้เรามีความเสี่ยงในภพชาติ คือหากแก้ไขอนุสัยไม่ได้ อุปาทานในเรื่องลบๆจะสะสมเยอะ ทำให้เมื่อสิ้นชีวิตลง ก็จะได้ไปอุบัติในภพใหม่ที่เป็นไปในทางลบเช่นกัน
เช่น คนที่ชอบไปมีอารมณ์ร่วมกับข่าวลบจนติดเป็นนิสัยประจำตัว เมื่อตายไป แน่นอนว่าย่อมมีที่ไปเป็นภพภูมิของ นรก กำเนิด เดรัจฉาน และเปรตวิสัย ซึ่งเป็นภพภูมิของผู้ที่ชอบสร้างสมอกุศลอย่างสม่ำเสมอ แม้อนุสัยจะไม่ใช่อกุศลหนักที่ถึงขั้นได้รับโทษทัณฑ์สาหัสขั้นสุด แต่การไปเกิดในอบายภูมิย่อมไม่ใช่เรื่องน่ายินดีแม้แต่นิดเดียว แค่การสะสมอกุศลในใจบ่อยครั้งยังทำให้ตายตกไปเกิดในทุคติได้ขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงคนที่คิดชั่วทำชั่วเป็นอาจิณเลยครับ ว่าตอนมีชีวิตอยู่จะหาความสุขที่แท้จริงได้ไหมหรือตายแล้วจะได้ไปเกิดที่ไหน
แอดมินอุทธังโสโตอกนิษฐคามี แห่งเพจเฟซบุ๊ค "ธรรมะแฟนตาซี"
โฆษณา