16 ธ.ค. 2024 เวลา 04:02 • การศึกษา

สมองไม่ระเบิด ด้วยเทคนิคขี้เกียจ(เชิงกลยุทธ์)

คุณเคยเหนื่อยไหม? อ่านหนังสือเป็นสิบชั่วโมง แต่ผลลัพธ์เท่ากับอ่านไป 10 นาที
การเรียนรู้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำ แต่ทำไมบางคนดูเหมือนเรียนแค่แป๊บเดียวก็เข้าใจ ในขณะที่บางคนอ่านจนตาแทบหลุด แต่สมองยัง "ว่างเปล่า" เหมือนพัดลมไม่มีไฟ? วันนี้ผมจะเล่าถึงเทคนิค "เรียนแบบขี้เกียจเชิงกลยุทธ์" ที่ไม่ใช่การหนีเรียนหรือปล่อยตัวเองไปเรื่อยเปื่อย แต่คือการ "ฉลาดเรียน" ให้สมองใช้พลังน้อย แต่ได้ผลลัพธ์สุดปัง!
1. อ่านน้อยแต่จำได้มาก: หลักการ 80/20
เชื่อไหมว่าในวิชาที่คุณเรียน มีแค่ 20% ของเนื้อหาที่ทำให้คุณสอบผ่านหรือใช้งานได้จริง ส่วนอีก 80% เป็น "น้ำ" ที่เอาไว้เพิ่มปริมาณหนังสือ
เทคนิคขี้เกียจ:
หาสาระสำคัญของเรื่องที่เรียนก่อน เช่น สรุปย่อในหนังสือ, หัวข้อใหญ่, หรือสไลด์สรุปท้ายบท
จดเฉพาะ "ใจความสำคัญ" เท่านั้น
2. เรียนผ่านภาพ: สมองขี้เกียจ รักภาพมากกว่าตัวหนังสือ
สมองเราประมวลผลภาพได้เร็วกว่าตัวหนังสือถึง 60,000 เท่า การเรียนที่ต้องจดโน้ตยาว ๆ จึงเป็นการ “ใช้พลังสมอง” เปลืองโดยไม่จำเป็น
เทคนิคขี้เกียจ:
เปลี่ยนสิ่งที่เรียนเป็น Mind Map หรือแผนภาพเชื่อมโยงความคิด
ใช้ไฮไลท์สีต่าง ๆ แบ่งเนื้อหาสำคัญ สมองจะจำสีและภาพได้ดีขึ้น
ลองดู: แทนที่จะจดลิสต์คำศัพท์ภาษาอังกฤษ 100 คำ ให้วาดภาพหรือหาไอคอนสื่อความหมาย คุณจะจดจำได้สนุกและนานกว่าเดิม
3. ฟังซ้ำแทนอ่านซ้ำ: ใช้เสียงทำงานแทนตา
เวลาขี้เกียจอ่าน แต่ยังต้องจำเนื้อหา ผมแนะนำให้ "ฟัง" เพราะสมองไม่ต้องทำงานหนักเท่าการอ่าน และยังเหมาะกับการเรียนรู้แบบผ่อนคลาย
เทคนิคขี้เกียจ:
ฟัง Podcast หรือ Audiobook ในหัวข้อที่เรียน
อัดเสียงตัวเองอ่านสรุปบทเรียน แล้วเปิดฟังซ้ำก่อนนอนหรือระหว่างทำกิจกรรม
ลองดู: คุณลองฟังบทเรียนสั้น ๆ ในหัวข้อที่อยากจำซ้ำ ๆ สมองจะซึมซับข้อมูลโดยไม่ต้องพยายามมาก
4. เรียนเฉพาะตอนสมองสด: ไม่ต้องนั่งเรียนทั้งวัน
การนั่งเรียน 6 ชั่วโมงติดกัน ไม่ได้ทำให้คุณเก่งขึ้น แต่มันทำให้สมอง “มึน” ไปต่างหาก เพราะสมองคนเราโฟกัสได้จริง ๆ แค่ครั้งละ 25-50 นาที
เทคนิคขี้เกียจ:
ใช้ เทคนิค Pomodoro (เรียน 25 นาที พัก 5 นาที)
เรียนช่วงเช้า เพราะสมองสดที่สุด และจัดการเรื่องยากให้เสร็จก่อน
คำถาม: คุณอยากเรียนแบบเหนื่อยลากสังขารทั้งวัน หรือเรียนแบบเน้น ๆ แค่ 2-3 ช่วง แต่เข้าใจจริง?
5. หาตัวช่วย: ให้เทคโนโลยีเรียนแทนคุณ
ขี้เกียจเชิงกลยุทธ์ไม่ได้แปลว่าต้องทำทุกอย่างเอง ใช้เครื่องมือที่มีอยู่รอบตัวให้เป็นประโยชน์
เทคนิคขี้เกียจ:
ดูคลิปสรุปบทเรียนใน YouTube แทนการอ่านทั้งหมด
ใช้แอปพลิเคชันช่วยทบทวน เช่น Anki สำหรับท่องศัพท์
ถาม AI เช่น ChatGPT ให้สรุปใจความสั้น ๆ ให้คุณ
ลองคิด: การได้บทสรุป 10 นาที แทนการอ่านหนังสือ 3 ชั่วโมง ไม่ดีกว่าหรือ?
สรุป: อย่าเรียนให้เหนื่อย แต่เรียนให้ “ฉลาด”
การเรียนแบบขี้เกียจเชิงกลยุทธ์คือการเลือกใช้พลังสมองอย่างคุ้มค่า โฟกัสเฉพาะสิ่งที่สำคัญ และตัด “ความพยายามเกินจำเป็น” ออกไป เพราะในยุคนี้ “ใครฉลาดเรียนกว่า คนนั้นชนะ” ไม่ใช่แค่คนที่ทุ่มเทแบบหัวปักหัวปำ
คำถามทิ้งท้ายสำหรับคุณ:
คุณอยากเป็นคนที่เรียนทั้งวันแต่จำอะไรไม่ได้ หรือคนที่ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง แต่จำได้ทุกอย่างที่สำคัญ?
ทางเลือกอยู่ที่คุณ แล้วคุณล่ะ พร้อมจะ "ขี้เกียจให้ฉลาด" แล้วหรือยัง?
โฆษณา