ชาว Perfectionist ต้องอ่าน! เมื่อกับดักของความสมบูรณ์แบบ กลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของความสำเร็จ
พร้อม 4 วิธีปรับสมดุล ไม่ให้ทิ้งตัวตน แต่ทำงานกับคนอื่นได้ง่ายขึ้น
เคยเจอกรณีแบบนี้มั้ย? บางครั้งทีมของคุณดูจะไม่เข้าใจมาตรฐานที่คุณตั้งไว้ งานไม่เสร็จตามเวลา หรือแม้แต่มีคนแนะนำคุณว่า "แค่ 80% ก็พอแล้ว" แต่คุณยังคงรู้สึกว่ามันยังไม่ดีพอ
การมีมาตรฐานสูงไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้ามันเริ่มทำร้ายทั้งตัวคุณและทีม นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาต้องทบทวนแล้ว 🤔
[สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าคุณกำลังติดกับดักความสมบูรณ์แบบ]
ลองนึกถึงสถานการณ์ที่คุ้นเคย การประชุมที่ควรจะจบใน 1 ชั่วโมงกลับยืดเยื้อเป็น 2-3 ชั่วโมง เพราะคุณต้องการให้ทุกคนเข้าใจทุกรายละเอียด โปรเจกต์ที่วางแผนไว้ 3 เดือนกลับกลายเป็น 6 เดือน เพราะยังไม่พอใจกับผลลัพธ์ ทีมของคุณเริ่มแสดงอาการเหนื่อยล้า บางคนถึงขั้นลาออก และที่น่ากังวลที่สุด คุณเองก็เริ่มรู้สึกหมดไฟ
[ความสมบูรณ์แบบกำลังทำร้ายความสำเร็จของคุณอย่างไร? 💭]
การไล่ตามความสมบูรณ์แบบ 100% นั้นมีต้นทุนที่สูงกว่าที่คุณคิด ลองพิจารณาสิ่งที่คุณต้องแลกมา
⏰ เวลา: ชั่วโมงทำงานที่ยาวนานเกินจำเป็น อาจถูกใช้ไปกับการแก้ไขรายละเอียดปลีกย่อยที่ลูกค้าอาจไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำ
🔋พลังงาน: แทนที่จะใช้พลังงานไปกับการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ หรือพัฒนาทักษะที่จำเป็น คุณกลับทุ่มเทมันไปกับการขัดเกลารายละเอียดที่อาจไม่ส่งผลต่อภาพรวม
🎲 โอกาส: ขณะที่คุณยังวนเวียนอยู่กับการทำให้งานหนึ่งสมบูรณ์แบบ โอกาสใหม่ๆ ที่อาจสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่กว่าก็ผ่านเลยไป
[🎯 4 วิธีปรับสมดุลให้กับมาตรฐานของคุณ]
1️⃣ หยุดและทบทวน สละเวลา 15-30 นาทีต่อสัปดาห์เพื่อตั้งคำถามสำคัญกับตัวเอง
🟢 มาตรฐานที่ตั้งไว้ยังสอดคล้องกับเป้าหมายองค์กรหรือไม่?
🟢 คุณเคยสื่อสารมาตรฐานเหล่านี้กับทีมอย่างชัดเจนหรือเปล่า?
🟢 วัฒนธรรมองค์กรเปลี่ยนไปจากตอนที่คุณตั้งมาตรฐานเหล่านี้หรือไม่?
🟢 อะไรคือ "ดีพอ" สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน?
ตัวอย่างเช่น ในบริษัทที่เติบโตเร็ว บางครั้งการส่งมอบงานที่ "ดีพอ" แต่ทันเวลา อาจมีคุณค่ามากกว่างานที่สมบูรณ์แบบแต่ล่าช้า
2️⃣ เรียนรู้ที่จะยืดหยุ่น เพราะความสำเร็จไม่ได้เกิดจากคนคนเดียว ลองถามตัวเองว่า
🟢 ทีมของคุณเข้าใจวิสัยทัศน์ของคุณมากแค่ไหน?
🟢 คุณมี "เครดิต" กับทีมมากพอที่จะขอให้พวกเขาทำงานหนักขึ้นหรือไม่?
🟢 เสียงตอบรับเวลาคุณให้ฟีดแบ็คเป็นอย่างไร?
มีกรณีศึกษาที่น่าสนใจของผู้จัดการคนหนึ่งที่มักให้ทีมทำงานถึงเที่ยงคืนเพื่อแก้ไขรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในข้อเสนอ เมื่อเธอเริ่มสังเกตเห็นว่าทีมหมดแรงจูงใจ เธอตัดสินใจปรับเปลี่ยนมาตรฐาน ผลลัพธ์คือ งานยังคงมีคุณภาพดี แต่ทีมมีความสุขและประสิทธิภาพมากขึ้น
3️⃣ พิจารณาความเหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กร บางครั้งปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่มาตรฐานของคุณ แต่เป็นเรื่องของความเข้ากันได้กับองค์กร ลองพิจารณา
🟢 ผลการประเมินบอกอะไรคุณบ้าง?
🟢 ฟีดแบ็คจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานสอดคล้องกันหรือไม่?
🟢 งานที่คุณทุ่มเทตรงกับสิ่งที่องค์กรให้ความสำคัญหรือเปล่า?
4️⃣ จัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ เมื่อเกิดความเห็นต่าง อย่ารีบด่วนตัดสินว่าใครถูกใครผิด
🟢 หยุดและรับฟังมุมมองของอีกฝ่าย
🟢 เชื่อในเจตนาดีของเพื่อนร่วมงาน
🟢 มองหาจุดร่วมที่จะนำไปสู่เป้าหมายเดียวกัน
🟢 ยอมรับว่าไม่จำเป็นต้องชนะทุกการโต้แย้ง
[🌟 บทเรียนสำคัญ ปรับมุมมองเรื่องความสมบูรณ์แบบ]
ความสมบูรณ์แบบที่แท้จริงอาจไม่ใช่การทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แต่เป็นการรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ "ดีพอ" คือคำตอบที่ใช่ การปรับมาตรฐานไม่ใช่การลดคุณภาพ แต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนให้กับทั้งตัวคุณและทีม
ผู้นำที่ประสบความสำเร็จมักเป็นคนที่รู้จักปรับมาตรฐานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยไม่สูญเสียคุณภาพของงานที่สำคัญจริงๆ การรู้จักเลือกว่าอะไรต้องสมบูรณ์แบบ และอะไรแค่ดีพอ คือทักษะที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการบริหารทีมยุคใหม่
เขียนโดย: ภคณัฐ ทาริยะวงศ์
#FutureTrends #FutureTrendsetter #FutureTrendsWorkAndLife
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
