เมื่อวาน เวลา 15:39 • ปรัชญา
เรื่องของเดรัจฉานวิชา ชื่อมันก็บอกว่า เป็นเดรัชฉาน นำพาจิตไปสู่สถานที่ทุกข์ ตกอบายภูมิ
คราวนี้ เราก็ต้องมาแยกแยะให้ถูกในเรื่องพิธีกรรมที่ดีๆนั้น ก็มี เช่นพิธีบวชพระในโบสถ์ นั่นก็เป็นเรื่องราวของพิธีกรรม ในทางพระพุทธศาสนา .ที่กระทำกันในโบสถ์นั้นอย่างนี้ ที่เป็นเรื่องราวของความนอบน้อม กระทำไปเพื่อ ..ที่เค้าสะสมบุญกุศลบารมี ทำไปเพื่อลดละ ความโลภโกรธหลง ความยึดถืออารมณ์ ต่างๆออกไป นั่นจะเป็นเรื่องของสิ่งที่เรียก นำพากายพายจิตไปหาผู้มีธรรม หมดกินเลสตัณหา
เห็นครั้งหนึ่ง ไปร่วมงานบวช ไปนั่งฟังพระ เห็นมีแสงสว่าง ส่ิองลงมาเป็นวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6เมตร ..เป็นแสงสีขาวเหมือนสปอร์ตไฟลท์ส่องลงมา ตรงบริเวณที่เค้ากำลังทำพิธีบวช เรื่องนี้เราเคยถามพระ ..พระท่านก็บอกว่า ให้ไปลองสังเกต ผิวพรรณขิงพระบวชใหม่ ที่กำลังก้าวเท้าออกจากโบสถ์นั้นเป็นอย่างไร นั่นก็พระท่านรับศีลมาบริสุทธิ์ ยังไม่ทำผิดอะไร พอเดินทักญาติโยม เผลอสติไปกับอารมณ์ ผิวพรรณก็จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงหมองคล่ำไป..
แล้วโบสถ์ที่บวชพระนั้น ..โบสถ์ที่เค้าไม่มีเครื่องหมายของความยึดยึด โบสถ์ที่เค้าสร้างขึ้นมาบริสุทธิ์ ถวายต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ..ไม่มีมนทินแห่งความโลภโกรธหลง ไม่มีสีดำๆเข้าไปในโบสถ์ สิ่งนั่นแหละ เวลาพระมาบวข ท่านก็ได้รับสิ่งที่ดีๆ
.เรื่องราวของแสงที่ส่องมา .เราก็สอยถามพระ .ถึงที่มาที่ไป ..ท่านก็อธิบายให้ฟัง ส่วนในเรื่องพิธีกรรมไสยศาสตร์ นั้นมันเป็นสีดำไปหมด .
เรื่องราวของไสยศาสตร์ นั้นพระที่สอนเรา ท่านก็ให้เราเรียนรู้จักขึ้นมา โดยเรียนรู้จากคนที่มีเรื่องราวไสยศาสตร์หลงใหล แล้วก็มาทำพิธีกรรม..พิธีสร้างกรรม ..ให้เราได้เรียนรู้จัก ว่ามันเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง .เราไม่ได้เป็นคนทำ หากเราไปสัมผัสเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นที่ตัวเรา เราจะได้รู้จักแก้ไขเป็น แล้วเรียงราวเหล่านี้ มันก็พัวพัน ในสิ่งที่สัมผัสเกิดเป็นอารมณ์นึกคิด .เหมือรกัน ..มันทำให้กาย ไม่สบายเนื้อสบายตัว จิตอาศัยในกายก็ไม่มีความสุขไปตามกาย
1
พิธีกรรมอีกแบบหนึ่ง เป็นการเรียกร้องหากรรมให้มากขึ้น มีผู้ที่ส่งเสริมให้ ได้อิทธิฤทธิ์โลกีย์ ให้หลงดี ..เค้าเรียกว่า ท่านพญามาร ท่านส่งเสริม ..แล้วยังมีบริวารมากมายก่ายกอง ที่จะช่วยสงเสริมให้เพิ่มพูนกรรมมากาขึ้น เหมือนดึงจิตพาไปทางนรก . เรื่องราวของไสยศาสตร์ ก็นำทางโลกีย์ นักเลงอันธพาล ไม่เกรงอกเกรงใจ ไม่ต้องกลัวใค แม่แต่พ่อแม่ .ก็ยังไม่รู้จัก ก็นำพากายพาใจไปทางอบายมุข ให้เพิ่มพูนมากขึ้น ..
ความน่ากลัวของไสยศาสตร์ ..เมื่อจิตออกจากร่าง ยังตามเสียบจิตลงนรกอเวจี แล้วคุ้มกันมั้ย กับการมีกายมนุษย์ชั่วขณะหนึ่ง ..ไปหลงใหลเรื่องราวเหล่านั้น แล้วจิตต้องไปสถานที่ทุกข์ยาวนาน .เป็นหมื่อปีแสนปี
ทางนั้น เหมือนว่า พระพุทธเจ้าท่านช่วยชีทางไปหาสถานที่สุข ด้วยสร้างบุญกุศลบารมี ตามรอยที่ทางได้ทำเป็นแบบิย่างไว้ ส่วนอีกทางหนึ่ง ..เค้าก็มีสิ่งหลอกล่อมากมายในโลก ให้จิตนั้นเข้าประตูไป เค้าไปง่าย .แต่ออกยาก
โฆษณา