19 ธ.ค. 2024 เวลา 08:15 • ท่องเที่ยว

Hainan Airlines Review (Part1) เปิดประสบ...(การณ์/ภัย) บินจีนครั้งแรก

เรื่องนี้เราขอเม้ายาวหน่อยนะ จะแบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ตอนนะคะ เริ่มด้วยบทความนี้ เปิดประสบ...(การณ์/ภัย) บินจีนครั้งแรก และ ผจญภัยในดินแดนลับแล เปลี่ยนเครื่องที่ปักกิ่ง
สืบเนื่องมาจากเรากำลังหาตั๋วเครื่องบินไป-กลับจากอังกฤษ(แมนเชสเตอร์)-ไทย แล้วเจอว่าช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาราคาตั๋วแรงมากกกกก ปกติเราใช้สายการบินแพะสีม่วง แต่ครั้งนี้เราเปิดเช็คแบบโดยภาพรวมของสายการบินเครือตะวันออกกลางและยุโรปพบว่าราคาตั๋วแค่เที่ยวเดียวก็ปาไป 500-600 ปอนด์แล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นช่วงสิ้นปีด้วย ที่ทำให้ราคาตั่วค่อนข้างแพง
และด้วยความโชคดีหรือความงกของเราและเพื่อนที่ทำให้เราพบกับสายการบินของประเทศจีน ซึ่งราคาตั๋วไปกลับอยู่ที่ 600 นิดๆ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 26,000 บาท ณ วันที่จ่าย) และตรงนี้ก็คือจุดเริ่มต้นของการเปิดประสบ...การณ์/ภัย ของเรากับเพื่อน ด้วยสายการบินจีนครั้งแรก
เริ่มต้นจากหลังจองที่เราพยายามหารีวิวของสายการบินนี้ว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วเราแทบหาข้อมูลภาษาไทยไม่ได้เลย ส่วนภาษาอังกฤษก็พอมีบ้าง แต่ก็ไม่เยอะ ใจเราก็เริ่มลุ้นล้ะว่ามันจะไปทางประสบภัยมากกว่าประสบการณ์มั้ย จนสุดท้ายเราไปถามเพื่อนคนจีน เขาก็บอกว่าสายการบินนี้ดี เขาก็ใช้ประจำ เราก็เริ่มอุ่นใจขึ้นมานิดนึง
หลังจากขุดคุ้ยรีวิวทั้งไทยทั้งเทศจนสาแก่ใจก็ถึงวันเดินทางจริง เราเพิ่งรู้ตัวว่า เราลืมเช็คอินออนไลน์ไป เลยไปต่อแถวรอเช็คอินแบบปกติ ซึ่งเป็นความโชคดีของเราที่เจอพี่กราวคนไทยที่ดูแลดีมาก แต่แล้วภัยที่หนึ่งก็ได้เริ่มต้น ก็คือเรากับเพื่อนใช้เวลาเช็คอินค่อนข้างนาน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรรึป่าว แต่ว่าเจ้าหน้าที่ที่เคาเตอร์เช็คอินบอกให้เราตามพี่กราวคนไทยไปเซ็นเอกสารฉบับหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาด้านในคือ(ตามที่พี่กราวอธิบาย) เรายินยอมให้ทางสนามบินที่จีนเปิดกระเป๋าเดินทางของเราได้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า
เรากับเพื่อนก็ เอิ่มมม...กันไป คือยังไงเอ่ยยย เอาแบบนี้เลยหรออ แต่พี่กราวก็บอกเพิ่มว่า ปกติไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก ถ้าเขาสแกนกระเป๋าแล้วไม่เจออะไรน่าสงสัย หรือถ้ามีเขาก็จะโทรแจ้งเราก่อน ตามเบอร์ที่เรากรอกไว้ในเอกสาร (เพราะงั้นเราควรเปิดโรมมิ่งเอาไว้ กรณีฉุกเฉิน กระเป๋าเราจะได้ไม่ตกหล่นกลางทาง)
ของน่าสงสัยที่ว่าก็คือพวกของที่ห้ามเอาใส่กระเป๋าโหลด เช่น แบตเตอร์ ขวดสเปรย์ ซึ่งแน่นอนจ่ะ กระเป๋าเพื่อนเรามีสเปรย์น้ำแร่ ก็ได้ฤกษ์รื้อกระเป๋ามันตรงนั้นเลย แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ คือพี่กราวใจดีมาก แถมสติ้กเกอร์ priority ให้เราสามารถใช้ลัดคิวตอนแสกนของได้ พี่เขาบอกว่าปกติอันนี้จะเป็นของ business class แต่เห็นเป็นคนไทยเหมือนกันเลยแถมให้ เราก็แบบขอบคุณค่าาาาา
พอผ่านเข้ามาก็เดินช้อปปิ้ง หาอาหารรองท้องกันไป รีวิวที่เราเช็คมา เขาว่าอาหารค่อนข้างดี แต่ส่วนตัวเราเป็นคนเมาเครื่องบินหนักมาก ตอนที่ใช้บริการแพะม่วง เรากินอะไรบนเครื่องไม่ได้เลย จนหลังๆมาเราจะเลือกอาหารเป็น Fruit Platter ที่มีแค่ผลไม้อย่างเดียว แต่ครั้งนี้เราลืมจ้าา ก็เลยได้ถือโอกาสลองกินอาหารบนเครื่องบินอีกครั้งในรอบ 2 ปี ในใจคือแอบลุ้นว่าจะรอดมั้ย กลัวอ้วกอยู่เหมือนกัน แต่ก็เตรียมยาแก้เมาพร้อมเอาไว้ก่อนแล้ว
และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง ไฟล์ทแรกของเราเป็น HU754 บินจากสนามบินแมนเชสเตอร์ไปลงที่ปักกิ่ง เวลาบินรวม 10 ชั่วโมง 5 นาที ด้วยเครื่อง Airbus A330-800neo เป็นเครื่องลำใหญ่ ที่นั่งตรงชั้นประหยัดมี 8 ที่นั่งต่อแถว แบ่งเป็น 2-4-2 ส่วนตัวเราให้คะแนนเครื่องคือ 10/10 ตอนแรกเห็นแล้วรู้สึกเหมือนจะแคบ แต่พอนั่งจริงๆแล้วรู้สึกสบายมาก เมื่อยก้นน้อยกว่าที่คิด นั่งแล้วไม่ค่อยปวดหลัง พื้นที่ใต้ที่นั่งก็มีเหลือเฟือ (สำหรับสาวขาสั้นอย่างเรา) และดูมีพื้นที่มากพอให้เพื่อ(ขายาว)ของเรายืดขาได้แบบไม่อึดอัด
ส่วนการขึ้นลง เราคิดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเลยนะ อาจจะเพราะเป็นเครื่องลำใหญ่ด้วย เลเวลความเมาคือ เราค่อยกินยาแก้เมาหลังกินข้าวมื้อแรกก็ยังรอด เราว่าเขาบินได้ดีมากนะ ถ้าเทียบจากมนุษย์ที่เคยอ้วกบนเครื่องบิน เพราะได้กลิ่นอาหารจากอาหารของคนข้างๆ
ของยังชีพจากสายการบิน
ของที่ทางสายการบินเตรียมให้ก็จะมีผ้าห่ม หูฟัง ใบเมนูอาหาร และถุงยังชีพ ข้างในก็จะมีที่อุดหู ถุงเท้า แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ก็เหมือนๆกับสายการบินอื่น หน้าจอก็มีเกมส์ มีหนังให้ดูตามปกติ หนังส่ส่วนใหญ่เป็นหนังเอเชียและจีนเอง กลุ่มดิสนีย์ก็พอมีบ้าง แต่ไม่เยอะ แฮรี่มีแค่ตอนเดียว
แต่ที่เราชอบคือมีเพลงให้ฟังด้วยจ้าา แล้วส่วนมากก็จะเป็นเพลงจีน อันนี้เราว่าฮาดี เหมือนเปิดโลกอ่ะ เราก็กดเลือกเล่นไปเรื่อยๆ แล้วบังเอิญไปเจอชื่อเพลง Buddha Jumping Over the Wall ก็คือเราตั้งค่าหน้าจอเป็นภาษาอังกฤษ มันเลยออกมาเป็นแบบนี้ เราเองก็ไม่รู้ว่าถ้าตั้งค่าเป็นภาษาจีนจะได้ความหมายเหมือนกันมั้ย แต่เราว่านี่มันขั้นกว่าของพระกระโดดกำแพงของไทยแล้วนะ มาเป็นบุดด้าเองเลย
บริเวณที่นั่ง
และใช่ค่ะ มันถึงเวลาของภัยที่สอง เมื่อถึงเวลาเสริฟอาหาร คือเราเปิดใบเมนูมามีแต่ภาษาจีนจ้าา ก็คือเอาแล้วไง ภาษาจีนเราก็นะ เด็กสามขวบอาจจะพูดได้ดีกว่าเราเลย แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เปิดไปอีกหน้า จะมีภาษาอังกฤษให้อยู่จ้าา อันนี้เป็นภัยที่สองแบบออเดริฟ ก่อนจะเข้าภัยของจริงมาดูอาหารก่อน มื้อแรกเราเลือกเป็นข้าวราดไก่ kung pao เต็ม 10 เอาไป 100 เลยย
จากคนที่เลิกกินข้าวบนเครื่องบนอย่างเรา เขาทำให้เรากินข้าวหมดเกลี้ยงได้อ่ะ รสชาติก็เผ็ดเค็ม กินแล้วไม่เลี่ยน ส่วนเรื่องน้ำมันของอาหารจีนนั้น ก็นะ เยิ้มๆไปเลยจ้า ส่วนขนมปังที่มาคู่กันคงเตรียมมากลัวคนไม่อิ่ม เพิ่มคาร์บเน้นๆไปเลย ตัวเนื้อขนมปังเราว่าโอเค ไม่ได้แข็งมาก แต่ก็ไม้ได้ว้าวอะไร ที่จริงเขาก็เสริฟมาคู่กับเนย แต่เราไม่เป็น lactose-intolerant เลยไม่ได้กินเนยกับของที่เสริฟมาอย่างอื่น ได้แค่กินแซลมอนกับชิมสลัดไปคำเดียว ก็ไม่ได้ว้าวอะไร
ข้าวไก่ Kung Pao
แต่ความพีคคือเขาเสริฟอาหารก่อนน้ำนานมาก นานแบบเรากินข้าวกับขนมปังหมดแล้ว ยังไม่เสริฟน้ำเลยอ่ะ ก็คือฝืดคอกันไปเลย พอถึงเวลาเสริฟน้ำ ก็ถึงเวลาของช่วงภัยที่ 2 คือแอร์พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ทำให้สื่อสารค่อนข้างยาก เขาพูดได้แค่มีเมนูอะไรตอนเสริฟอาหาร หรือคำง่ายๆ เท่านั้นอ่ะ
ถ้าต้องการอาหาร เครื่องดื่มง่ายๆ เช่น ชา กาแฟ น้ำผลไม้ ไวน์ ก็จะไม่มีปัญหาอะไร ความบันเทิงมันจะเริ่มต้นเมื่อเราอยากได้อะไรที่ซับซ้อนขึ้นมาหน่อย อย่างเช่นว่า เราเจอเครื่องดื่มอันนึง สีโรสโกลด์ ดูดีน่าสนใจมาก แล้วเราก็ชี้และถามว่ามันคืออะไร เขาจะเริ่มตอบไม่ได้ แต่ก็จะพยายามอธิบาย โดยการขอใบเมนูมาเปิดเทียบภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ
ใบเมนู
และชี้ให้เราดู ซึ่งเครื่องดื่มอันนั้นคือ mocktail ที่ชื่อว่า Gold Coast หรือ 黄金海岸 (Huangjin Haian) อันนี้คือดี ถ้ามีโอกาส เราแนะนำให้ลอง รสชาติจะหวานหอม เครื่องดื่มอีกอย่างที่แนะนำคือน้ำมะพร้าว มันเป็นน้ำมะพร้าวที่จริงใจ ไม่หวานตะโหนอ่ะ
และด้วยความพยายามของเราที่อยากรู้ว่า Gold coast คืออะไร (ปกติเราไม่ใช่สายดื่ม) เลยพยายามถามจากแอร์อีกครั้ง ตอนหลังจากที่เขาว่างจากการเสริฟอาหาร และผลลัพธ์คือ ไม่รู้เรื่องจ้าาา เราอยากถามว่าใส่อะไรบ้าง แต่พวกนางเขาใจว่าเราจะขอเพิ่มซึ่งมันหมดแล้ว เราก็แบบไม่ใช่จ้าา สักพักเข้าใจว่าเราถามว่าจะเสริฟอาหารอีกรอบเมื่อไหร่แทน จนสุดท้ายเป็นเราถามว่าภาษาจีนของ Gold coast คืออะไร และหาได้ที่สนามบินมั้ย และก็ใช่จ่ะ เราได้มาแค่คำตอบแรก เพราะคำถามที่สอง สื่อสารกันไม่ได้ 55555555
หลังจากที่เราลุกมาเข้าห้องน้ำและถามแอร์ เราก็เจอขุมทรัพย์ขนมที่ตั้งอยู่โซนห้องน้ำ ก็มีพวกข้าวพอง ขนมกรุบกรอบ แล้วก็น่องไก่แบบทั้งน่อง แอร์เขาก็บอกว่าหยิบได้เลยจ้าา เราก็แอบงง เพราะปกติเคยเจอแต่เขาจะเดินมาเสริฟ นี่ต้องเดินมาหยิบเองตรงท้ายเครื่องบิน เราหยิบข้าวพองมาชิมก็โอเคนะ ที่จริงอยากลองน่องไก่
ขุมทรัพย์ท้ายเครื่องบิน
แต่ตอนเดินมาอีกรอบน้องน่องหมดไปล้ะ อดลองเลย อ้อ อีกอย่างที่ต้องชมก็คือชาที่เสริฟเสริฟบนเครื่องบินดีมากๆ หอม ไม่ขม สมแล้วที่เป็นสายการบินของต้นกำเนิดชา ชามะลิคือเลิศมาก หอมไปสามบ้านแปดบ้าน ส่วนไวน์แดงที่เพื่อนเราลอง เพื่อนบอกอย่าหาลอง เปลืองลิ้นจ้าาา
พองีบ กินขนม และงีบไปอีกรอบ ก็ถึงเวลาอาหารมื้อที่สอง คราวนี้เราเลือกเป็นผัดหมี่เหลืองหน้าไก่ รสชาติผ่าน แต่เส้นไม่ผ่าน เละมาก เหมือนแช่น้ำมาสามวันสามคืน ขนมปังก็เหมือนเดิม แต่คราวนี้มาพร้อมกับแยมสตอเบอร์รี่ ลดความฝืดคอได้นิดหน่อย และใช่ค่ะ เหมือนมื้อแรก รอน้ำยาวไป คอแห้งผากก ใครไปก็แอบเตือนไว้หน่อย ว่าพกกระบอกน้ำส่วนตัวไปหน่อยน่าจะดีนะคะ คนจีนเขามีกันแทบทุกคน
บะหมี่หน้าไก่
สรุปของไฟล์ทแรก เราให้คะแนน 9/10 อาหารดี เครื่องดี บินดี แต่ต้องติเรื่องที่เป็นไฟล์ทบินต่างประเทศ แต่แอร์สื่อสารภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลย แล้วก็แอร์หน้าดุมาก เหมือนคนนอนไม่พอแล้วต้องลุกมาทำงานอ่ะ ส่วนเพื่อนร่วมไฟล์ทนี้ เรายืนยันได้ว่าดีมากๆ เราอาจจะมีภาพจำว่าคนจีนจะต้องเสียงดัง วุ่นวาย แต่ไม่มีเลยค่ะ ทุกคนเรียบร้อย คุยกันเงียบๆ พักผ่อนได้ยาวๆตลอดทั้งไฟล์ทเลย
จะมีก็แต่มหกรรมขอเติมน้ำร้อน ที่ตอนแรกเราเข้าใจว่าเป็นมุก แต่อย่างที่บอก แทบทุกคนพกขวดน้ำของตัวเองไป พอช่วงแรกที่ปลดเข็มขัดได้ ก็จะเริ่มขอน้ำร้อนกันล้ะ แต่ก็ไม่ได้วุ่นวายอะไรนะ เหมือนแอร์เขาก็เตรียมพร้อมมาดีอยู่แล้ว
มีต่อพาร์ท 2 ด้วยนะคะ อย่าลืมมาตามกันต่อนะคะ
โฆษณา