Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
THE STATES TIMES EARTH
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 07:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ส่อง 14 สุดยอด AI ประจำปี 2024
📢>> นิตยสารไทม์ (Time) นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ของสหรัฐอเมริกา ได้รวบรวมปัญญาประดิษฐ์ (AI) และสิ่งประดิษฐ์ที่เกี่ยวกับ AI ที่น่าสนใจแห่งปี 2024 มีทั้งหมด 14 รายการด้วยกัน โดยเป็นการจัดอันดับจากการเสนอชื่อนวัตกรรมของบรรณาธิการและผู้สื่อข่าวของ Time ทั่วโลก จากนั้นประเมินผลงานตามปัจจัยสำคัญหลายประการ ซึ่งรวมถึงความคิดริเริ่ม ประสิทธิภาพ ความทะเยอทะยาน และการส่งผลกระทบต่อสังคม ดังนี้…
1. ชิป AI ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (Cerebras Systems Wafer-Scale Engine 3)
ในการเรียกใช้โมเดล AI คอมพิวเตอร์จะต้องถ่ายโอนข้อมูลจำนวนมหาศาลระหว่างชิปหน่วยความจำกับชิปลอจิก (ถือเป็นสมองของระบบคอมพิวเตอร์ ช่วยประมวลผลและตัดสินใจ) แยกกัน ทำให้มันลดประสิทธิภาพการทำงานของ AI ลง ดังนั้นบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์ AI สัญชาติสหรัฐฯ อย่างเซเรบราส ซิสเท็มส์ (Cerebras Systems) จึงได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหานี้ คือ ออกแบบชิปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เทียบเท่าประมาณจานอาหาร 1 จาน โดยฝังทั้งหน่วยความจำ และชิปลอจิกไว้ด้วยกัน
โดยบริษัทเปิดตัวชิปครั้งแรกในปี 2019 ชื่อชิป เวเฟอร์ สเกล เอนจิน (Wafer-Scale Engine หรือ WSE) จากนั้นในเดือนมีนาคม 2024 บริษัทได้เปิดตัวชิปรุ่นที่ 3 คือ Wafer-Scale Engine 3 (WSE-3) ที่มีความเร็วสูงเป็นประวัติการณ์ สามารถฝึกโมเดลได้ใหญ่กว่า GPT-4 ของโอเพนเอไอ (OpenAI) ถึง 10 เท่า และจะถูกนำไปประกอบเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ชื่อคอนดอร์ กาแล็กซี 3 (Condor Galaxy 3) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
2. AI ค้นหาวิธีรักษาทางการแพทย์ (Google DeepMind AlphaFold 3)
ในปี 2020 บริษัทพัฒนา AI ของกูเกิล อย่าง กูเกิล ดีปมายด์ (Google Deepmind) เปิดตัวอัลฟาโฟลด์ 2 (AlphaFold 2) อัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine-Learning Algorithm) ซึ่งในปี 2022 มันสามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถทำนายโครงสร้างของโปรตีนที่รู้จักเกือบทุกประเภทได้อย่างแม่นยำในระดับการทดลอง ความก้าวหน้าครั้งสำคัญนี้ทำให้เดมิส ฮัสซาบีส (Demis Hassabis) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ กับ จอห์น จัมเปอร์ (John Jumper) ผู้นำทีม AlphaFold ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี
ในเดือนพฤษภาคม 2024 ได้มีการเปิดตัว AlphaFold 3 ซึ่งมีความสามารถมากขึ้น คือทำนายว่าโปรตีนโต้ตอบกับ DNA และโมเลกุลอื่น ๆ อย่างไร หลายคนในแวดวงเภสัชกรรมและการแพทย์เชื่อว่าการทำนายของโมเดลใหม่นี้จะช่วยเร่งการวิจัยและผลักดันให้ค้นพบยาได้เร็วขึ้น
3. AI สร้างวิดีโอสุดน่าทึ่ง (Runway Gen-3 Alpha)
ในเดือนมิถุนายน 2024 บริษัทสตาร์ตอัปด้าน AI ชื่อรันเวย์ (Runway) ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ล่าสุด นั่นคือเจน-3 อัลฟา (Gen-3 Alpha) ที่สามารถสร้างคลิปวิดีโอความยาว 10 วินาทีได้ โดยสามารถป้อนคำสั่งได้ทั้งข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ
อานาสตาซิส เจอร์มานิดิส (Anastasis Germanidis) ผู้ก่อตั้งร่วมและหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีกล่าวว่าโมเดลดังกล่าวนี้สามารถเรียนรู้พลวัติ 3 มิติได้ด้วยตัวมันเอง และเขาคาดการณ์ว่ามันจะสามารถสร้างวิดีโอที่ความสมจริงได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
ในเดือนกันยายน 2024 บริษัท Runway ได้จับมือกับบริษัทผู้ให้บริการด้านความบันเทิงอย่างไลออนส์เกต (Lionsgate) เพื่อสำรวจการนำโมเดล AI ไปใช้ในงานภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวกองทุน เดอะ ฮันเดรด ฟิล์ม ฟันด์ (The Hundred Film Fund) ซึ่งเป็นกองทุนที่จะสนับสนุนศิลปินที่ใช้ AI ในการสร้างสรรค์งาน
เจอร์มานิดิส กล่าวเสริมว่าเครื่องมือ AI จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน มากกว่าแข่งขันด้วยตัวมันเอง “มันช่วยให้คุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ไม่สามารถแทนที่รสนิยมหรือวิสัยทัศน์ทางศิลปะได้”
4. ผู้ช่วยหาคู่ AI (Rizz)
แอปพลิเคชันริซ (Rizz) ใช้แชตบอตชื่อดังอย่าง แชตจีพีที (ChatGPT) ที่ได้รับการฝึกจากโค้ชหาคู่มืออาชีพ ทำให้แอปสามารถทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้ช่วยให้คำแนะนำในการสานสัมพันธ์ ใช้ได้จากทั้งแอปชื่อดัง เช่น ไอเมสเสจ (iMessage) วอตส์แอป (WhatsApp) เพียงแค่อัปโหลดภาพหน้าจอการสนทนา จากนั้นแอปจะแนะนำว่าควรทำอย่างไร โดยในปี 2024 Rizz ถือเป็นหนึ่งในแอปหาคู่ที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในแอปสโตร์ (App Store) ของสหรัฐฯ และมีผู้ใช้งานประมาณ 1.5 ล้านคนต่อเดือน
5. AI ช่วยธุรกิจ (Cohere Command R+)
โคเฮียร์ คอมมานด์ อาร์ พลัส (Cohere Command R+) เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน 2024 โดดเด่นในด้านงานต่าง ๆ ที่จำเป็นในการทำธุรกิจ เช่น การสรุปเอกสาร การตอบคำถามตามข้อมูล และการตอบกลับในหลายภาษา สามารถโต้ตอบกับแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้ สามารถเข้าแอปเครื่องคิดเลขเพื่อแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ หรือ เข้าถึงอีเมลลูกค้าเพื่อจัดส่งเอกสารต่าง ๆ ได้ด้วย
6. เครื่องมือตรวจสอบข้อเท็จจริงแบบดิจิทัล (AI Seer
Facticity.AI
)
สตาร์ตอัปสัญชาติสิงคโปร์ พัฒนา แฟกทิซิตี้ ดอต เอไอ (
Facticity.AI
) ซึ่งเป็นเครื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงแบบดิจิทัล เปิดตัวเวอร์ชันเบต้าไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2024 สามารถตรวจสอบข้อความ หรือวิดีโอ ว่าถูกต้องหรือไม่ รวมถึงยังสามารถให้แหล่งอ้างอิงที่ถูกต้องเพื่อให้ได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ โดยบริษัทกล่าวว่าสามารถให้ความแม่นยำได้ถึงร้อยละ 92
Facticity ถูกนำไปทดสอบระหว่างการดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด โดยตรวจสอบข้อความเกือบ 250 รายการในเวลาเกือบจะเรียลไทม์ ด้านจาค็อบ โคซิพัต (Jacob Kozhipatt) อดีตนักข่าวของ บิสซิเนส อินไซเดอร์ (Business Insider) ที่ได้ทดลองใช้งาน Facticity กล่าวว่าเขาประทับใจที่เครื่องมือนี้ ‘สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้มากกว่า และเร็วกว่ามนุษย์มาก’
7. AI สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ (Laguna Insight)
บริษัทสตาร์ตอัปด้านปัญญาประดิษฐ์ที่มีสติปัญญาในการสนทนา (Conversational Intelligence) อย่าง ลากูนา เฮลท์ (Laguna Health) กำลังพัฒนา AI ที่เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ โต้ตอบทางโทรศัพท์กับผู้ป่วยเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยหลังออกจากโรงพยาบาล
ระบบ AI ลากูนา อินไซต์ (Laguna Insight) จะช่วยสรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผู้ป่วยก่อนเริ่มโทร และเสนอข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์แก่บุคลากรทางการแพทย์ จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการบริหารงาน ปัจจุบันระบบนี้ถูกใช้งานโดยพยาบาลและผู้ป่วยทั่วอเมริกาและแอฟริกาใต้แล้ว
8. AI พยากรณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (X Bellwether)
เอ็กซ์ เดอะ มูนช็อต แฟกตอรี่ (X, the Moonshot Factory) แผนกย่อยของบริษัทอัลฟาเบ็ต (Alphabet) ที่มุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในโลก ได้พัฒนา เบลเวตเทอร์ (Bellwether) โปรเจกต์ที่บริษัทอ้างว่าเป็น ‘เครื่องมือทำนายเกี่ยวกับโลกเครื่องแรก’
โดยหลักการทำงานคือจะใช้ AI ดึงข้อมูลเชิงลึกจากภาพ ระบบจะวิเคราะห์ข้อมูลภูมิสารสนเทศที่แตกต่างกัน 600 ชั้น เช่น ระดับพืชพรรณ ความเร็วลม และปริมาณน้ำฝนในแบบจำลองการเรียนรู้ของเครื่อง แบบจำลองดังกล่าวประกอบด้วยข้อมูล 20 ปี และมีการตั้งคำถาม “What if” หรือ “จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า…” จำนวนหลายพันคำถาม เพื่อพยายามหาโอกาสที่อุทกภัย ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ จะเกิดขึ้น
ปัจจุบันบริษัทประกันภัยต่าง ๆ กำลังใช้ Bellwether ร่วมกับรัฐบาลเพื่อทำความเข้าใจขอบเขตความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังภัยพิบัติ และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายประกันให้กับพื้นที่ต่าง ๆ ในอนาคต
9. AI ตรวจสอบแชตบอต (Aporia Guardrails)
จากการสำรวจของบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์สัญชาติสหรัฐฯ อย่าง แม็กคินซีย์ (McKinsey) พบว่าองค์กรประมาณร้อยละ 25 ได้รับผลกระทบเชิงลบจากความไม่แม่นยำของ Generative AI ดังนั้นสตาร์ตอัปในอิสราเอลอย่าง อะพอเรีย (Aporia) จึงได้เปิดตัว การ์เดรลส์ (Guardrails มีความหมายว่าราวกั้น) โมเดลภาษาขนาดเล็ก ที่จะสกัดกั้นการทำงานระหว่างแชตบอตและผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะการตอบสนองที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม หรือไม่ตรงหัวข้อ
โดย ลิรัน ฮาซอน (Liran Hason) ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของบริษัทกล่าวว่าเป้าหมายของ Guardrails ก็คือเพื่อให้มนุษย์สามารถเชื่อใจ AI ได้อย่างแท้จริง
10. AI ช่วยลดเอกสารของแพทย์ (Abridge)
ตามรายงานของ Medscape Physician Compensation Report (รายงานข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเงินเดือน ความพึงพอใจในงาน ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานของแพทย์ในสาขาต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา) เมื่อปี 2023 พบว่าแพทย์ใช้เวลาเฉลี่ยในการจัดการเอกสารต่าง ๆ ประมาณ 15.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทำให้มีการก่อตั้งบริษัท อะบริดจ์ (Abridge) ขึ้นมา
ซึ่งได้พัฒนาแพลตฟอร์มการจัดทำเอกสารที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยแพลตฟอร์มจะบันทึกการสนทนากับผู้ป่วยโดยอัตโนมัติ (ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย) จากนั้นจะสร้างสรุป จัดรูปแบบบันทึกทางการแพทย์ รวมถึงการเรียกเก็บเงินต่าง ๆ ปัจจุบันนวัตกรรมนี้ถูกใช้งานแล้วโดยแพทย์ประมาณ 50,000 ราย
11. PDF อัจฉริยะ (Adobe Acrobat AI Assistant)
ผู้ช่วย อะโดบี อะโครแบต เอไอ (Adobe Acrobat AI Assistant) เป็นเครื่องมือ AI ที่ผสานรวมเข้ากับแอปจัดการเอกสารสกุล PDF ชื่อดังอย่างอะโดบี อะโครแบต (Adobe Acrobat) ซึ่งเครื่องมือนี้สามารถช่วยสรุป อธิบาย หรือให้ความหมายของคำศัพท์ได้ ทำให้สามารถประหยัดเวลาในการอ่าน สรุป ค้นหา ได้อย่างมาก
ฟีเชอร์ที่น่าสนใจ เช่น ‘ระบุแหล่งที่มา (Attribution Engine)’ จะเชื่อมโยงไปหาที่มาของข้อมูลที่ปรากฏในเอกสาร เพื่อพยายามแก้ไขปัญหาที่เรียกว่า เอไอหลอน หรือ ฮัลลูซิเนชันส์ (Hallucinations) หรือก็คือข้อมูลที่ไม่ถูกต้องที่ AI สร้างขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม Adobe Acrobat AI Assistant ไม่ได้เปิดให้ใช้บริการฟรี แต่จะต้องสมัครสมาชิกแบบรายเดือน จึงจะเข้าถึงคุณสมบัติขั้นสูงแบบเต็มรูปแบบได้
12. AI อธิบายทุกอย่าง (Google NotebookLM)
เมื่อเดือน กรกฎาคม 2023 กูเกิล แลปส์ (Google Labs) เปิดตัวโน๊ตบุกส์แอลเอ็ม (NotebookLM) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจข้อมูลที่ซับซ้อนได้ โดยมันจะวิเคราะห์แหล่งข้อมูลต่าง ๆ มากถึง 50 แหล่ง ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร วิดีโอ ยูทูบ หรือแม้แต่หนังสือทั้งเล่ม จากนั้นสรุปข้อมูล
ซึ่งในเดือนกันยายน 2023 บริษัทได้เปิดตัวฟีเชอร์ซึ่งแปลงข้อมูลต้นฉบับให้กลายเป็นพอดแคสต์ ดำเนินรายการโดยพิธีกร AI ที่สมจริงมากจนกลายเป็นไวรัล โดยสตีเวน จอห์นสัน (Steven Johnson) ผู้อำนวยการบรรณาธิการของ Google Lab กล่าวว่า เขาฝันมานานเกี่ยวกับเครื่องมือที่สามารถรวบรวมข้อมูลจำนวนมากในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง และช่วยให้เราสามารถเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดได้
13. AI สำหรับนักการตลาด (Typeface Arc)
เดือนพฤษภาคม 2024 บริษัทพัฒนา AI สำหรับนักการตลาดอย่างไทป์เฟซ (Typeface) เปิดตัว ไทป์เฟซ อาร์ค (Typeface Arc) เครื่องมือ AI สำหรับนักการตลาด ที่จะใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่และหลากหลาย เพื่อช่วยวางแผนแคมเปญการตลาดทั้งหมด เพียงแค่บอก AI ให้ทราบว่าเป้าหมายคืออะไร จากนั้นมันจะเรียนรู้จากแคมเปญในอดีตทั้งหมดของผู้ใช้ จากนั้นจึงสร้างเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็น อีเมล ข้อความ และอื่น ๆ ตามข้อมูลของลูกค้า
14. AI แปลงตัวคุณเอง (Captions)
แพลตฟอร์ม แคปชันส์ (Captions) เป็นแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ที่ให้บริการเครื่องมือเพื่อผลิตวิดีโอ โดยมีฟีเชอร์ที่น่าสนใจ เช่น การตัดบางช่วงของวิดีโอ การแก้ไขจุดจ้องมองของคนในวิดีโอ เทคโนโลยีนี้ขับเคลื่อนโดยโมเดลลิปดับ 2.0 (Lipdub 2.0) ซึ่งสามารถสร้างวิดีโอโดยใช้ ‘ตัวตน AI’ หรือก็คืออวตาร์รูปร่างมนุษย์ที่มีจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง ‘ฝาแฝด AI’ หรือก็คือการสร้างอวตาร์ของผู้ใช้ ทำให้สามารถสร้างวิดีโอที่มีรูปลักษณ์เหมือนกับตัวเอง เช่น เราพูดภาษาสเปนไม่ได้ แต่สามารถสร้างวิดีโอที่พูดภาษาสเปน ในขณะที่ริมฝีปากก็ซิงค์กับเสียงที่พูดได้ด้วย โดย Captions มีให้บริการใน 180 ประเทศ ใช้ได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการณ์ iOS, Android หรือผ่านเว็บไซต์ และมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 10 ล้านครั้ง
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย