18 ธ.ค. เวลา 13:48 • ข่าวรอบโลก

7 ปัจจัยทองคำเอาชนะความผันผวน

สภาทองคำโลกเปิดเผยรายงานล่าสุด ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2024 พบว่าราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยให้ผลตอบแทนสูงถึง 31.42% แซงหน้าสินทรัพย์ลงทุนทุกประเภท ท่ามกลางความกังวลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา
ข้อมูลจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2024 หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ พุ่งสูงถึง 35.46 ล้านล้านดอลลาร์ คิดเป็นภาระหนี้ต่อประชากรมากกว่า 100,000 ดอลลาร์ต่อคน ขณะที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงเหลือ 2.5% ในปี 2023 จาก 5.8% ในปี 2021
นอกจากนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รายงานว่า สัดส่วนการถือครองเงินสำรองระหว่างประเทศในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จาก 71% ในปี 2000 เหลือ 58% ในปี 2023 สะท้อนถึงความกังวลต่อเสถียรภาพของค่าเงินดอลลาร์ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
ด้านผลการดำเนินงานของกองทุนบำเหน็จบำนาญขนาดใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรกของสหรัฐฯ พบว่า มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีอยู่ระหว่าง 5.6-9.9% ต่ำกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 12.1% ต่อปี
ปรากฏการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มการถือครองทองคำมากกว่า 30% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยผลสำรวจของสภาทองคำโลกระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางเลือกถือครองทองคำ ได้แก่ การไม่มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ (49%) ประสิทธิภาพในการรับมือวิกฤต (47%) และการเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ (42%)
สภาทองคำโลวิเคราะห์ 7 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการต้านทานความผันผวนทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจสหรัฐและตลาดการเงินโลก
ปัจจัยแรก หนี้สาธารณะสหรัฐฯ พุ่งทะลุ 35.46 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นกันยายน 2024 คิดเป็นภาระหนี้ต่อประชากรมากกว่า 100,000 ดอลลาร์ต่อคน สะท้อนความเปราะบางทางการคลัง แม้ว่าระดับหนี้สาธารณะเพียงอย่างเดียวจะยังไม่สามารถทำลายเศรษฐกิจได้ ดังเช่นกรณีญี่ปุ่นที่มีหนี้สูงถึง 250% ของ GDP แต่ยังคงรักษาเสถียรภาพได้
ปัจจัยที่สอง บทบาทของเงินดอลลาร์สหรัฐในระบบการเงินโลกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยสัดส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศในสกุลดอลลาร์ลดลงจาก 71% ในปี 2000 เหลือ 58% ในปี 2023 ตามรายงานของ IMF ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
ปัจจัยที่สาม ผลตอบแทนของกองทุนบำเหน็จบำนาญสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ 10 อันดับแรก มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 5 ปีอยู่ระหว่าง 5.6-9.9% ต่ำกว่าทองคำที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 12.1% ต่อปี สะท้อนความกังวลต่อความมั่นคงของเงินเกษียณในระยะยาว
ปัจจัยที่สี่ ราคาทองคำในตลาดสปอตปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงวิกฤตการเงิน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการระบาดของโควิด-19 แสดงถึงความสามารถในการรักษามูลค่าท่ามกลางความไม่แน่นอน
ปัจจัยที่ห้า ธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มการถือครองทองคำกว่า 30% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยเหตุผลหลักคือ ไม่มีความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ (49%) มีประสิทธิภาพในยามวิกฤต (47%) และป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ (42%)
ปัจจัยที่หก ทองคำมีอัตราการเติบโตสูงกว่าสินทรัพย์อื่นๆ โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีสูงถึง 31.42% แซงหน้าตลาดเกิดใหม่ (13.68%) และดัชนีตลาดหุ้นโลก (10.53%)
1
ปัจจัยที่เจ็ด ผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำระหว่างปี 2023-2024 สูงถึง 14% มากกว่าสินทรัพย์ระยะยาวประเภทอื่น เช่น พันธบัตร สะท้อนศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิม
ทั้งนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงเหลือ 2.5% ในปี 2023 จาก 5.8% ในปี 2021 ประกอบกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้นักลงทุนทั้งสถาบันและรายย่อยหันมาให้ความสนใจการลงทุนในทองคำมากขึ้น ในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพในภาวะตลาดผันผวน
18-12-2024
IMCT NEWS
โฆษณา