18 ธ.ค. เวลา 14:43 • ธุรกิจ

ปี 2025 ราคาอาหารจะแพงขึ้นทั่วโลก เพราะปัญหาภัยแล้งในปี 2024

ปีนี้ข้าวของ (โดยเฉพาะอาหาร) แพงขึ้นอย่างทั่วหน้าในหลายประเทศจริงนะ ไม่ใช่แค่ที่ไทย ตั้งแต่ผลไม้เล็กๆน้อยๆที่คนคิดว่าปลูกที่ไหนก็ขึ้นอย่างส้ม พอเจอภัยแล้งเข้าไป บราซิลซึ่งเป็นเจ้าของไร่ส้มรายใหญ่ที่สุดของโลก ผลผลิตเสียหายไปเกือบ 80% แถมยังเจอโรคระบาด citrus greening อีก ไร่ส้มทั้งทวีปแทบจะทำให้น้ำส้มขาดตลาดเลยทีเดียว ราคาน้ำส้มในตลาดขึ้นมา 30%
ในสหรัฐอเมริกาก็กำลังเจอภัยไข้หวัดนกระบาด อากาศร้อนเชื้อโรคเข้ามารุมเร้าวงการปศุสัตว์มากมาย ไข่ไก่ขาดแคลน เริ่มมีการกักตุนไข่ไก่กัน ราคาไข่ไก่แพ็คในบางพื้นที่พุ่งไป 20 ดอลลาร์สหรัฐ ของทวีปอเมริกานี้น่าจะเจอหนักหน่อย เพราะแถบนี้ทำเกษตรกันเยอะตั้งแต่เหนือยันใต้ พอพายุเฮอริเคนเข้าตีแถบทะเลแคริบเบียน พวกข้าวโพด และข้าวฟ่างแถวๆเท็กซัสเสียหายเกือบทั้งไร่ ซึ่งย้งไม่หมดแค่นั้นนะ พอเม็กซิโกเจอภัยแล้ง ในฐานะผู้ปลูกรายใหญ่ก็ส่งอะโวคาโด้ไปขายในตลาดโลกไม่ได้ (วัตถุดิบหลักของซอส guacamole เลย)
ในยุโรปก็เหมือนกัน พวกชอบกินเหล้าใส่มะกอก กับใช้น้ำมันมะกอกทำอาหารก็ได้รับผลกระทบจากความแห้งแล้งในทะเลแถบเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้ตุรกี กรีซ สเปน และโมรอคโค เก็บเกี่ยวผลมะกอกไม่ค่อยได้เหมือนเก่า ราคาน้ำมันมะกอกในอังกฤษพุ่งไปลิตรละ 16 ปอนด์ ตอนนี้น้ำมันมะกอกแทบจะกลายเป็น Liquid gold ไปแล้ว
1
ตลาดไอศครีมก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะมาดากัสการ์ผู้ผลิตวานิลลารายใหญ่ของโลกเพิ่งเจอไซโคลนถล่มไปไม่นานมานี้ ผลผลิตเสียหายเกินกว่าครึ่ง ปกติผลิตได้ปีละ 2,000-3,000 ตัน ปีนี้น่าจะไม่แตะแม้กระทั่ง 1,500 ตัน แย่กว่าวิกฤตช่วงที่ผ่านๆมาอีก แน่นอน วานิลลา คือ ส่วนผสมสำคัญของไอศครีมรสชาติยอดฮิต ก็จะขาดตลาดและราคาแพงขึ้นด้วย
2
มาดูเอเชียกันบ้าง ภัยแล้ง โลกร้อน อากาศแปรปรวนในอินเดีย และไทย จะทำให้ไร่อ้อยผลิตน้ำตาลส่งออกไปขายในตลาดโลกได้ในปริมาณที่ต่ำสุดในรอบ 6 ปี ตอนนี้อินเดียต้องจำกัดการส่งออกน้ำตาล และแทบจะต้องนำเข้าน้ำตาลไว้ใช้บริโภคภายในประเทศแล้ว ตลาดน้ำตาลโลกกำลังปั่นป่วน ผลกระทบที่จะตามมาคือ สินค้าแปรรูปที่ต้องพึ่งพาน้ำตาลเป็นวัตถุดิบ เช่น ขนมหวาน แคนดี้ต่างๆ
โลกร้อนจริงๆไม่ได้มีผลแค่กับพืชผล และเรือกสวนไร่นาอย่างเดียวนะ สัตว์อย่างวัวก็ได้รับผลกระทบ เพราะหน้าแล้ง ไม่มีหญ้าให้วัวเนื้อกิน ปี 2023 ราคาเนื้อวัวพุ่งไปแตะ record high และพอมาต้นปี 2024 ก็บวกไปเกือบ 10% เพราะฟาร์มวัวหลายประเทศเจอปัญหาเรื่องวัวขุนได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
โกโก้ ข้าวสาลี และกาแฟเองก็ประสบปัญหาการเก็บเกี่ยว เพราะโลกร้อน ผลผลิตน้อยลงไม่ต่างกัน ราคาโกโก้ในตลาดโลกปาเข้าไปแล้วเกือบ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตัน (ขึ้นมาเกือบ 50% ในช่วงไตรมาสเดียว) แต่ดีที่ราคาในตลาดบริโภคยังไม่ขึ้นสูงจนประชาชนรู้สึกได้ เพราะของพวกนี้เก็บเกี่ยวแล้วสต็อคค้างไว้ได้นาน เหมือนตอนนี้จะมีแค่ Hershey กับ Cadbury (Mondelez) ที่ออกมาประกาศขึ้นราคาสินค้าจำพวกช็อคโกแลตห่อ/บาร์ แต่ปี 2025 นี้น่าจะมีตามมาอีกหลายบริษัท ไม่ว่าจะ Nestlé, Lindt และ Barry Callebaut
** อย่าว่างั้นงี้เลย อากาศร้อนทำเชื้อราแพร่กระจายไวขึ้นง่ายขึ้น สินค้าการเกษตรจึงมีความเสี่ยงได้รับความเสียหายมากกว่าที่ผ่านมา กล้วยที่เคยเป็นสินค้าที่ไม่ต้องการการดูแลไรมากยังเสียหายเพราะเจอเชื้อราบุกโกดังเก็บสินค้า
ปี 2025 น่าจะเป็นปีที่หนักหนาสาหัสไม่น้อยไปกว่าปี 2024 เลยทีเดียว เพราะประเทศกำลังพัฒนาหลายๆประเทศนั้นพึ่งพาสินค้าประเภทอาหารสด อาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป สินค้าเกษตรจึงสำคัญ ถ้ามันขาดแคลนหรือราคาแพงขึ้น ยังไงก็ส่งผลกระทบถึงระดับครัวเรือนแน่ ซึ่งต่างจากประเทศร่ำรวย หรือพัฒนาแล้ว ขานั้นส่วนใหญ่พึ่งพาอาหารแปรรูปในชีวิตประจำวันกันซะเยอะ ความเสียหายอาจจะเบากว่ากลุ่มประเทศกำลังพัฒนาหน่อยนึง
#ข่าวการเมือง #ธุรกิจ #ข่าว #เศรษฐกิจ #วิเคราะห์ #กระแสมาแรง #ต่างประเทศ #การเมือง #ลงทุน #ค้าขาย #mr_strategist #ผลไม้
โฆษณา