19 ธ.ค. เวลา 04:13 • ธุรกิจ

กลยุทธ์ B2A ‘Business to Algorithm’ ที่แบรนด์ Crumbl Cookies ใช้ จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ FOMO Marketing

จากผู้ติดตามกว่า 16 ล้านคน และมีรายได้ ปีละกว่า 35,000 ล้าน โดยแทบไม่ต้องใช้งบ Marketing
จากร้านคุกกี้เล็กๆ ในยูทาห์ สู่ธุรกิจที่มี 1,000 สาขาครอบคลุมทั้ง 50 รัฐของอเมริกา พร้อมรายได้พันล้านดอลลาร์ต่อปี (ราวๆ 35,000,000,000 บาท) นี่คือ Crumbl Cookies ธุรกิจที่เติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
สิ่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของคุกกี้อร่อย แต่เป็นเรื่องของการสร้างแบรนด์และการตลาดที่แหวกแนวจนกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับพันล้าน
[🎯 จุดเริ่มต้นที่ชัดเจน ด้วยความมุ่งมั่นสู่ความเป็นที่สุด ]
Jason Mcgowan (CEO) และ Sawyer Hemsley (COO) สองผู้ก่อตั้ง Crumbl เริ่มต้นด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน
“สร้างสรรค์คุกกี้ช็อกโกแลตชิพที่ดีที่สุดในโลก”
พวกเขาทุ่มเททั้งเวลาและเงินทุนหลายพันดอลลาร์ไปกับการทดลองสูตร โยนคุกกี้ทิ้งนับไม่ถ้วน และยอมรับว่าหลายครั้งผลลัพธ์ที่ได้น่าอายมาก แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้ จนกว่าจะได้สูตรที่สมบูรณ์แบบ
มันคือบทเรียนแรกที่น่าสนใจ - ก่อนจะคิดเรื่องการขยายธุรกิจ พวกเขาให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุดก่อน การลงทุนกับคุณภาพตั้งแต่วันแรกคือรากฐานสำคัญของการเติบโตในระยะยาว
[กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ร่วมมือกับ Pantone เพื่อให้ได้สีที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายภาพลง Instagram]
Crumbl ไม่ได้แค่ขายคุกกี้ แต่พวกเขาขาย "ประสบการณ์" ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่การออกแบบร้านแบบเปิด ให้ลูกค้าเห็นทุกขั้นตอนการทำงาน ไม่มีอะไรต้องปิดบัง
ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากร้านขนมทั่วไปในยุคนั้น การเปิดครัวให้เห็นไม่เพียงสร้างความโปร่งใส แต่ยังทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำคุกกี้
การเลือกใช้โทนสีขาว-ชมพูที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร สะอาดตา และที่สำคัญ - เหมาะกับการถ่ายรูปลง social media
พวกเขาถึงขั้นร่วมมือกับ Pantone บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านสี เพื่อให้ได้เฉดสีที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายภาพลง Instagram
แม้กระทั่งกล่องใส่คุกกี้ ก็ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน เมื่อเปิดกล่อง คุณจะเห็นคุกกี้ทุกชิ้นเรียงตัวสวยงาม เหมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่ง นี่คือการยกระดับจากถุงกระดาษธรรมดา สู่ "แพ็คเกจจิ้งระดับพรีเมียม" ที่ทำให้การซื้อคุกกี้กลายเป็นประสบการณ์พิเศษ
[🚀 การตลาดแบบ Drop ของแบรนด์สตรีทแวร์ ที่ทำให้ Crumbl Cookies กลายเป็นปรากฏการณ์ FOMO Marketing]
หัวใจสำคัญของความสำเร็จ Crumbl อยู่ที่กลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาด พวกเขานำเอาแนวคิด "การปล่อยของ" (Drop) แบบแบรนด์สตรีทแวร์มาใช้กับธุรกิจอาหาร ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อน
ทุกวันอาทิตย์ เวลา 18.00 น. Crumbl จะเปิดตัวเมนูคุกกี้ 6 รสชาติใหม่ที่จะขายเฉพาะสัปดาห์นั้นเท่านั้น จากคลังรสชาติกว่า 150 แบบ บางรสชาติมีเบคอน บางรสชาติมีวิปครีม บางรสชาติมีมะนาว หรือแม้แต่คุกกี้ที่ทำมาเพื่อกินตอนเช้า
นี่คือการสร้าง FOMO (Fear of Missing Out) อย่างแท้จริง ถ้าคุณไม่รีบไปซื้อ Buttermilk Pancake Brittle Cookie ในสัปดาห์นี้ คุณอาจจะไม่ได้ลิ้มลองมันอีกเลย
การประกาศเมนูใหม่ผ่าน TikTok และ Instagram ทำให้แฟนๆ ต้องคอยติดตามและรอคอยว่าสัปดาห์นี้จะมีรสชาติอะไรที่น่าสนใจ
ที่สำคัญไปกว่านั้น Crumbl ยังร่วมมือกับ influencer ชื่อดัง ให้พวกเขาแชร์ประสบการณ์การชิมคุกกี้กับผู้ติดตามหลายล้านคน สร้างกระแสและการบอกต่อในวงกว้าง
[📱 B2A - Business to Algorithm โมเดลธุรกิจใหม่ที่น่าจับตา]
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ Crumbl สร้างโมเดลธุรกิจแบบใหม่ที่เรียกว่า B2A (Business to Algorithm) พวกเขาไม่ได้มุ่งเน้นการขายให้ผู้บริโภคโดยตรง (B2C) หรือขายให้ธุรกิจอื่น (B2B) แต่พวกเขาเน้นการทำธุรกิจผ่านอัลกอริทึมของ social media
ทีมงานด้าน social media ของ Crumbl มีถึง 30 คน มากกว่าทีมการตลาดทั่วไป ประกอบด้วยช่างภาพและวิดีโอกราฟเฟอร์มืออาชีพ พวกเขาเข้าใจดีว่า ‘ถ้าชนะใจอัลกอริทึม ธุรกิจก็จะเติบโตได้เอง’
ผลลัพธ์ที่ได้คือยอดผู้ติดตามมหาศาล - 6 ล้านคนบน Instagram, 10 ล้านคนบน TikTok ซึ่งมากกว่า Starbucks 5 เท่า และมากกว่า McDonald's 3 เท่า และที่สำคัญ ผู้ติดตามเหล่านี้ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่พวกเขาคือกลุ่มคนที่พร้อมจะซื้อและแชร์เรื่องราวของ Crumbl ต่อไป
[📈 การขยายธุรกิจ]
การเติบโตของ Crumbl จากร้านเล็กๆ ในยูทาห์ สู่ธุรกิจที่มีสาขามากกว่า 1,000 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา โดยแต่ละสาขาสร้างรายได้เฉลี่ย 1.2 ล้านดอลลาร์ต่อปี ด้วยอัตรากำไร 15%
ที่น่าสนใจคือ การขยายสาขาของ Crumbl ไม่ได้เกิดขึ้นแบบสุ่มหรือรวดเร็วเกินไป พวกเขาใช้ระบบแฟรนไชส์ที่เข้มงวด เลือกพาร์ทเนอร์ที่มีวิสัยทัศน์ตรงกัน
และให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานในทุกสาขา ไม่ว่าจะเป็นรสชาติของคุกกี้ การตกแต่งร้าน หรือการให้บริการ
ล่าสุด Crumbl ยังได้ขยายธุรกิจไปยังแคนาดา และมีแผนที่จะขยายไปยังตลาดต่างประเทศอื่นๆ ในอนาคต แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตที่ไม่มีที่สิ้นสุด
[📱 กลยุทธ์ Social Media ที่ทำให้แบรนด์แตกต่าง]
ความสำเร็จบน social media ของ Crumbl ไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ แต่เกิดจากการวางแผนอย่างละเอียดในทุกแพลตฟอร์ม
บน TikTok ที่มีผู้ติดตามกว่า 10 ล้านคน Crumbl เน้นการสร้างคอนเทนต์ที่สนุก มีชีวิตชีวา และเข้าถึงง่าย
พวกเขาจะโชว์เบื้องหลังการทำคุกกี้ การ reveal รสชาติใหม่ประจำสัปดาห์ และสร้างคอนเทนต์ที่เข้ากับเทรนด์ต่างๆ ได้อย่างแนบเนียน
สำหรับ Instagram ที่มีผู้ติดตาม 6 ล้านคน เน้นภาพถ่ายสวยงาม การจัดองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบ
และการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน โดยรีโพสต์คอนเทนต์จากลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์
ที่สำคัญ Crumbl ไม่ได้ใช้ social media เพียงเพื่อโปรโมทสินค้า แต่ใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ใหม่ การไปซื้อคุกกี้ที่ Crumbl ไม่ใช่แค่การซื้อขนม แต่เป็นกิจกรรมที่ต้องถ่ายรูป แชร์ และพูดถึงในโลกออนไลน์
[💡ถอดบทเรียนความสำเร็จที่ทุกธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้]
Crumbl ไม่ได้แค่ทำคุกกี้อร่อย แต่พวกเขาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการอาหาร ด้วยการผสมผสาน 3 องค์ประกอบเข้าด้วยกัน
1. ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในผลิตภัณฑ์ - การใส่ใจกับคุณภาพตั้งแต่วันแรก ไม่ประนีประนอมกับมาตรฐาน แม้จะต้องลงทุนสูงและใช้เวลานาน
2. การสร้างแบรนด์ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด - ทุกจุดสัมผัสกับลูกค้าต้องสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่หน้าร้านไปจนถึงกล่องใส่คุกกี้ เพราะทุกรายละเอียดคือโอกาสในการสร้างความประทับใจ
3. กลยุทธ์การตลาดที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ - การผสมผสานระหว่าง FOMO Marketing, Social Media Strategy ด้วยแนวคิด B2A - Business to Algorithm และการสร้างชุมชน ทำให้แบรนด์เติบโตแบบก้าวกระโดด
แต่ละสาขาของ Crumbl สร้างรายได้เฉลี่ย 1.2 ล้านดอลลาร์ต่อปี ด้วยอัตรากำไร 15% นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ในยุคดิจิทัล การสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่คุณภาพของสินค้าเพียงอย่างเดียว
ความสำเร็จของ Crumbl ยังสะท้อนให้เห็นว่า การทำธุรกิจในยุคนี้ต้องเข้าใจว่า social media ไม่ใช่แค่ช่องทางการสื่อสาร แต่เป็นหัวใจของธุรกิจ การลงทุนกับทีม social media ที่แข็งแกร่งไม่ใช่ค่าใช้จ่าย แต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบคุกกี้ของ Crumbl แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า พวกเขาได้เปลี่ยนวิธีคิดเรื่องการทำธุรกิจอาหารไปอย่าง
ทั้งหมดนี้คือกรณีศึกษาที่น่าสนใจของธุรกิจที่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ได้อย่างลึกซึ้ง เข้าใจว่าการสร้างแบรนด์ในปัจจุบันต้องมากกว่าแค่มีสินค้าที่ดี แต่ต้องสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ สร้างชุมชนที่แข็งแกร่ง และใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด
ความสำเร็จของ Crumbl ไม่ใช่แค่เรื่องของคุกกี้อร่อย แต่เป็นเรื่องของการเข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่อย่างลึกซึ้ง และการกล้าที่จะทำอะไรแตกต่าง แม้จะอยู่ในธุรกิจที่ดูเหมือนธรรมดาอย่างการขายคุกกี้ก็ตาม
บทเรียนสุดท้ายที่สำคัญคือ ในโลกธุรกิจปัจจุบัน บางครั้งนวัตกรรมไม่จำเป็นต้องเป็นการคิดค้นสิ่งใหม่เสมอไป แต่อาจเป็นการนำสิ่งที่มีอยู่มาผสมผสานในรูปแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ Crumbl กลายเป็นมากกว่าแค่ร้านคุกกี้ธรรมดา แต่เป็นปรากฏการณ์ทางธุรกิจที่น่าจับตามอง
เขียนโดย : ภคณัฐ ทาริยะวงศ์
#FutureTrends #FutureTrendsetter #FuturetrendsBusiness
โฆษณา