ทีนี้ หลายคนอาจสงสัยแล้วว่า Life Time Fitness มีจุดแข็งอะไรที่โดดเด่นในตลาด ?
อันดับแรกคือ กิจกรรมหลากหลาย
เนื่องจากอุดมการณ์ของ Life Time Fitness ตั้งใจให้เป็นฟิตเนสคลับที่สามารถใช้พื้นที่ได้แทบทุกกิจกรรมในชีวิต ดังนั้นแต่ละสาขามักมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนให้ได้มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น
ราคาค่าสมาชิกของ Life Time Fitness ขึ้นอยู่กับแต่ละสาขาว่ามีการให้บริการด้านใดบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะจัดระดับคล้ายกับฟิตเนสทั่วไป เช่น One-day, Membership, Standard Membership และ Signature Membership
ที่น่าสนใจคือ Life Time Fitness ยังมีระบบสมาชิกที่เรียกว่า Digital Membership เป็นระบบสมาชิกที่สามารถเข้าถึง การออกแบบการดูแลสุขภาพของตัวเองได้ผ่านแอปพลิเคชัน เช่น
- Apple Fitness+ บริการฟิตเนสแห่งแรกที่สร้างขึ้นโดยใช้ Apple Watch เป็นหลัก
ทั้งหมดนี้คือจุดแข็งของ Life Time Fitness ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ คนรักสุขภาพทุกช่วงวัย และคนที่มองหาประสบการณ์พรีเมียม พร้อมจ่ายค่าบริการเพื่อคุณภาพและความสะดวกสบาย
นอกจากนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ Life Time Fitness เป็นที่พูดถึงมากขึ้น เพราะมีเซเลบริตีชื่อดังระดับโลก เช่น พ็อปสตาร์ Justin Bieber และนักกีฬาบาสเกตบอล LeBron James มาใช้บริการ
อีกทั้ง ในปีนี้ Life Time Fitness ยังเน้นลงทุนขยายสนามกีฬา Pickleball กีฬาที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ จนเกิดเป็นกระแสในสหรัฐฯ
ซึ่งตรงนี้นักลงทุนมองว่า Life Time Fitness มีศักยภาพ และจุดแข็งในการปรับเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยม ให้เข้ากับ Branding ของบริษัท ที่เน้นตอบโจทย์กีฬา และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
อย่างไรก็ตาม ในสหรัฐฯ ยังมีฟิตเนสคลับระดับพรีเมียมที่คล้าย ๆ กับ Life Time Fitness เป็นคู่แข่งที่น่าจับตาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Equinox, The Houstonian Club และ LA Fitness
ก็น่าติดตามว่า Life Time Fitness จะมีบริการแปลกใหม่ และหมัดเด็ดอะไร ที่จะสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดฟิตเนสคลับระดับพรีเมียมต่อไปได้อีกในอนาคต..