19 ธ.ค. เวลา 14:16 • ปรัชญา
คำว่าโลกแตกสลายมันคงไม่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่เป็นธรรมชาติ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุุลม แต่ละธาตุ ที่เค้าเรียกว่า มหาธาตุ เวลาแต่ละธาตุขยับเขยื้อน แต่ละครั้ง ก็เกิดเรื่องราวต่างๆ มีความรุนแรง แผ่นดินไหว สึนามิ พายุแรง..เปลือกโลกขยับเขยื้อน ธาตุไฟ .เปลี่ยนแปลง ความร้อนก็มากขึ้น ..ภูเขาตรงนั้นตรงก็ปะทุเพิ่มขึ้น นั่นก็เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย
เราเคยได้ฟังมา เค้าบอกพวกเทพว่า ระยะนี้ ..หากสามรถประคองจิต ..เป็นเทพได้ ก็อย่าเพิ่งลงมาเกิด เพราะโลกมนุษย์กำลังวุ่นวาย เค้าจะไม่รู้จักเรื่องพระคุณ เรื่องพ่อแม่กัน ..เค้าแก่วแย่งกัน ทำลายกัน ให้ประคองจิต..ไปสักสองร้อยปีค่อยลงมา ..มาเกิดตอนนี้มันเสี่ยงทาย เรื่องศาสนา กึวุ่นวาย.. ไสยศาสตร์เค้ารุ่งเรือง .คนเค้าก็ไม่รู้จักเรื่องราวศาสนา ..บ้างก็เอาศาสนามาทำมาหากิน..
..ยิ่งสมัยใกล้ปลายศาสนาขององค์พระสมณโคดม ดินฟ้าอากาศก็ยิ่งวิปริตมากขึ้น มนุษย์ก็เหลือน้อยลงไป เข้าไปสู่ยุคขององค์พระศรีอริยะเมตตา ที่มีแต่จิตที่สะอาดสะอ้านบุญกุศลบารมีมาเกิด มีความเมตตา เห็นอกเห็นใจ เจ็บไข้ได้ป่วย ทุกข์ลำบากก็เกื้อกูลช่วยเหลือกันไป เพราะคนเกิดมาน้อย นานๆก็จะเจอะเจอมนุษย์ ..
..เอาแค่สมัยนี้ เค้าก็เริ่ม ..เค้าใช้คำว่า เก็บกวาดไปเรื่อยๆ ..เก็บกวาดจิต..ที่มีกรรม มีผู้เล่าให้ฟังว่า ต่อไปก็จะมีโรคระบาด พอถูกต้องเชื้อ ก็ลงไปนอน ..หายใจรวยริน รอความตาย ..คนที่มีกรรม กินยาเป็นกอบเป็นกำก็ไม่หาย คนที่ทำบุญทำทานเป็นนิจสิน กินยาแค่เม็ดสองเม็ดก็หาย เราก็ฟัง เค้าเล่าว่า ..มา
โลกนี้ ยังไงก็ไม่แตกสลาย เพราะเป็นสถานที่ ให้จิค..ยิ่งได้กายมนุษย์ ..รู้จักดีชั่วได้ ..จิตที่สูง เทพยดาอินทร์พรหม ยังต้องลงมาเกิดอาศัยกายมนุษย์ สะสมบุญบารมีต่อไปอีก ..หากไม่ไม่มีโลกแล้ว จะเอาสถานะใด กายพ่อแม่เยี่ยงกายมนุษย์ ..จะไปหาที่ไหน .ที่จะสร้างบุญกุศลบารมี แม้แต่มาจากที่สูง เทพยดาอินทร์พรหม พลาดพลั้งไป ก็ต้องไปตกนรก ..ไปอยู่กับทุกข์อีกยาวนาน
โฆษณา