21 ธ.ค. เวลา 02:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

แนวความคิด Data-Centric ในทางทหารและความเกี่ยวข้องกับ Multi-Domain Operations (MDO)

โดย Chaiyot@J6
ในยุคดิจิทัล การดำเนินงานทางทหารเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การปฏิบัติการแบบหลายมิติหรือ Multi-Domain Operations (MDO) ได้กลายเป็นแนวทางสำคัญสำหรับกองทัพทั่วโลก เพื่อให้สามารถผสานการปฏิบัติการในโดเมนที่หลากหลาย เช่น บก อากาศ น้ำ ทะเล ไซเบอร์ และอวกาศ การบูรณาการข้อมูล (Data Integration) และการใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลาง (Data-Centric) จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของ MDO โดยการนำข้อมูลมาใช้ในการตัดสินใจ การสั่งการ และการปฏิบัติการที่มีความแม่นยำและรวดเร็ว
แนวความคิด Data-Centric
แนวคิด Data-Centric หมายถึงการจัดระบบข้อมูลให้เป็นแกนหลัก (Core) ของการปฏิบัติการและการตัดสินใจ โดยมุ่งเน้นการรวบรวม วิเคราะห์ และแชร์ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน แนวคิดนี้แตกต่างจากแนวคิดแบบ Application-Centric ซึ่งการทำงานของข้อมูลมักถูกจำกัดอยู่ในแต่ละระบบหรือโดเมนที่แยกกัน แนวคิด Data-Centric จึงเน้นความโปร่งใส (Transparency) และการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างระบบต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการบูรณาการในระดับยุทธศาสตร์ ยุทธการ และยุทธวิธี
องค์ประกอบสำคัญของแนวคิด Data-Centric ได้แก่:
1. Data as a Strategic Asset: ข้อมูลถูกมองว่าเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่มีค่า
2. Interoperability: ระบบข้อมูลต้องสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
3. Timeliness and Accuracy: ข้อมูลต้องมีความถูกต้องและพร้อมใช้งานในเวลาที่เหมาะสม
4. Security: การรักษาความปลอดภัยข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการรั่วไหลหรือการโจมตีทางไซเบอร์
Multi-Domain Operations (MDO)
MDO คือกรอบการดำเนินงานที่บูรณาการการปฏิบัติการในหลายโดเมนพร้อมกัน เพื่อบรรลุผลลัพธ์ที่สอดคล้องกันในสถานการณ์ที่ซับซ้อน จุดเด่นของ MDO อยู่ที่ความสามารถในการประสานงานข้ามโดเมนอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การผสานการปฏิบัติระหว่างการโจมตีทางอากาศ การสนับสนุนทางไซเบอร์ และการปฏิบัติการทางทะเลภายในกรอบเวลาที่จำกัด
MDO ต้องอาศัยความสามารถในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้บัญชาการสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และระบบวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics)
ความเกี่ยวข้องระหว่าง Data-Centric และ MDO
1. การสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support):
ในบริบทของ MDO การใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลางช่วยให้ผู้บัญชาการสามารถประเมินสถานการณ์แบบเรียลไทม์และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ การบูรณาการข้อมูลจากหลายโดเมน เช่น การตรวจจับภัยคุกคามทางไซเบอร์และการเคลื่อนไหวของศัตรูในพื้นที่ภาคพื้นดิน ช่วยเพิ่มมุมมองที่ครอบคลุมและลดช่องว่างของข้อมูล
2. การบูรณาการข้ามโดเมน (Cross-Domain Integration):
การปฏิบัติการแบบ MDO จำเป็นต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลจากโดเมนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง แนวคิด Data-Centric ช่วยให้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ทางอากาศสามารถประมวลผลและส่งต่อไปยังหน่วยปฏิบัติการทางบกหรือทางทะเลได้ในเวลาที่รวดเร็ว
3. ความได้เปรียบทางข้อมูล (Information Superiority):
Data-Centric ช่วยสร้างความได้เปรียบในเชิงข้อมูล (Information Superiority) โดยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่ล้ำหน้ากว่า ทำให้สามารถคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของศัตรูและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทันที
4. การรักษาความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของข้อมูล:
ใน MDO ข้อมูลที่ถูกโจมตีหรือเปลี่ยนแปลงอาจนำไปสู่ความล้มเหลวในการปฏิบัติการ การใช้ Data-Centric จึงช่วยเพิ่มความมั่นคงของระบบข้อมูล ด้วยการนำเทคโนโลยี Blockchain หรือ Zero Trust Architecture มาประยุกต์ใช้
บทสรุป
Data-Centric และ MDO เป็นแนวทางที่เสริมกันในการปรับตัวของกองทัพให้เหมาะสมกับสงครามยุคใหม่ การใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลางช่วยเพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำในกระบวนการตัดสินใจ ขณะที่ MDO ช่วยบูรณาการทรัพยากรและการปฏิบัติในทุกโดเมนอย่างสอดคล้อง แนวคิดทั้งสองจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในศตวรรษที่ 21
โฆษณา