20 ธ.ค. เวลา 06:37 • หุ้น & เศรษฐกิจ

NKT ปิดเทรดเช้า -18.59% จากราคา IPO

ฟากผบห. มั่นใจ พื้นฐานระยะยาวยังดี ลุยนำเงินระดมทุน ขยายนครธน 2 -ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์
NKT หรือ บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 20 ธ.ค. 67 เป็นวันแรก โดยเปิดตลาดที่ 5.95 บาท ลดลง 23.72% และปิดตลาดภาคเช้าที่ 6.35 บาท ลดลง 18.59% จากราคา IPO ที่ 7.80 บาท
โดยรองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการบริษัท บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) หรือ NKT เปิดเผยว่า แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวลดลง แต่มองว่าปัจจัยพื้นฐานของโรงพยาบาลในระยะยาวยังดี ซึ่งความผันผวนที่เกิดขึ้นเป็นไปตามภาวะตลาดหุ้นทั่วโลก ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงตลาดหุ้นไทยเท่านั้น
สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุน บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปก่อสร้างโรงพยาบาลนครธน 2 จำนวน 151 เตียง ซึ่งคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนที่เกี่ยวข้องประมาณ 900 ล้านบาท และคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างเสร็จสิ้นสามารถเปิดให้บริการสำหรับผู้รับบริการทั่วไปที่ชำระเงินเองในระยะเริ่มแรก และเริ่มรับรู้รายได้ประมาณไตรมาส 4/67
ภายหลังจากนั้น โรงพยาบาลนครธน 2 จะยื่นขออนุญาตเป็นโรงพยาบาลประกันสังคมในช่วงต้นปี 2569 ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการขออนุญาตประมาณ 1 ปี และคาดว่าโรงพยาบาลนครธน 2 จะสามารถเปิดให้บริการรักษาพยาบาลแก่ผู้ประกันตนตามสิทธิประกันสังคมได้ในประมาณปี 2570 โดยเบื้องต้นประเมินว่าระยะแรกจะได้รับโควตาจากสำนักงานประกันสังคมราว 50,000 ราย และทยอยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายจำนวนผู้ประกันตามสิทธิประกันสังคมราว 100,000 – 150,000 ราย
นอกจากนี้ บริษัทจะนำเงินไปลงทุนในโครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ ซึ่งจะตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลนครธน เพื่อจะเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงแบบองค์รวม คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนที่เกี่ยวข้องประมาณ 557 ล้านบาท และคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ประมาณปี 2569
อีกทั้งบริษัทมีแผนจะขยายจำนวนเตียงให้บริการของโรงพยาบาลนครธนเพิ่มอีก 110 เตียง จากปัจจุบัน 150 เตียง ซึ่งคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนที่เกี่ยวข้องประมาณ 414 ล้านบาท และคาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการได้ในปี 2568-2570
ส่วนภาพรวมการเติบโตในปี 2567 บริษัทคาดว่ารายได้ยังเติบโตประมาณ 8-10% จากจำนวนผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) ที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยแนวโน้มไตรมาส 4/67 น่าจะดีกว่าไตรมาส 3/67 ช่วบสนับสนุนให้ผลประกอบการเติบโตตามแผนที่วางไว้
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะขยายฐานลูกค้าต่างประเทศมากขึ้น โดยเน้นกลุ่มลูกค้าในเอเชียอย่างเมียนมา กัมพูชา และบังกลาเทศ ช่วยหนุนให้สัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติสูงขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้ 5% จากรายได้ทั้งหมด
โฆษณา