20 ธ.ค. เวลา 11:13 • ข่าวรอบโลก

คนแบบไหนก็คบคนแบบนั้น…

ไม่ว่าจะสร้าง propaganda
ดีขนาดไหนสุดท้ายก็หนีความจริงไม่ได้หรอก
การเปิดโปงหลุมศพรวมของหลายแสนชีวิต
ทางตอนเหนือของดามัสกัส ซีเรียนั้น
น่าจะบอกเราได้ดี ว่าทำไม คนซีเรียถึงได้ประท้วง
แล้วลามเป็นสงครามในเวลาต่อมา
…อัสสาดจะมาตีหน้าเศร้าแต่เสวยสุขในมอสโคว์อย่างไร
ก็คงหนีความจริง ที่ว่าเขาทำอะไรไว้ไม่ได้แล้ว…
หลังระบอบอัสสาดล่มสลาย อะไรเลวๆก็ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด
จะว่าใครไปใส่ความเขา ก็คงไม่ได้ เมื่อชาวบ้าน
พาสื่อตะวันตกไปชี้เป้า ถึงร่องรอยความโหดร้าย
ที่อัสสาดทำไว้
ก่อนหน้าจะเปิดเผยหลุมศพรวมนี้ขึ้นมา
ชาวบ้านก็พาไปชี้คุกลับแห่งหนึ่ง ที่ว่ากันว่าเป็นที่กักขัง
ทรมานผู้ต่อต้านของอัสสาด ในช่วงที่มีอำนาจ
…ภาพคนหลายหมื่น ที่มีญาติมิตรถูกจับ ไปออกันรอด้วย
ความหวังหน้าคุก เมื่อฝ่ายกบฎเข้าไปตรวจสอบ มันบอกเรา
ได้ชัดเจนมากพออยู่แล้ว …
…แต่การมาเจอหลุมศพ ซึ่งเกี่ยวข้องกับคุกที่ว่า ในฐานะปลายทางของการทรมาน มันยิ่งทำให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้น ….
หลุมศพที่ว่านี้ ทางตะวันตกเห็นจากภาพดาวเทียมมานานแล้ว
ตั้งแต่มีเหตุการณ์ในช่วงอาหรับสปริง
แต่ทางรัฐบาลอัสสาด ก็ปฏิเสธมาตลอด
แม้แต่ตอนนี้ก็ยังปฏิเสธ โดยสื่อทางจีน รัสเซีย
ช่วยแก้ต่างว่า เป็นการจัดการศพช่วงโควิด
ไม่ใช่การทรมานแล้วฆ่าทิ้ง ซะแบบนั้น …
ซึ่งมันฟังไม่ขึ้น เพราะที่ขาวบ้านพูดมันตรงกัน
ภาพดาวเทียมทั้งเอกชน และของรัฐทั่วโลก ก็แสดงให้เห็น
หลักฐานชัดเจน ว่ามันมีมาตั้งแต่ปี 2015 เป็นอย่างน้อย
ก่อนโควิดเยอะ…
…แต่มันก็ยังมีคนเชื่อล่ะนะ…ว่ากันไป….
เรียกว่าพยาน หลักฐานพร้อมมูลขนาดนี้
ใครจะแก้ตัวให้อัสสาดว่าเป็นคนดี นี่คงลำบากหน่อยล่ะ
…และเรื่องที่เปิดออกมานี้ดูเหมือนมันจะบอกเราได้จริงๆ ว่าใครมีความชอบธรรม ในการแทรกแซงซีเรียหรือไม่ อย่างไร …
ชาวบ้านเป็นแสนคงไม่โกหกหมดหรอกนะ
เหตุผลที่ทางอัสสาดต้องโหดมาตลอดเวลาในอำนาจ
หลักๆเลย คือเขาเป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศตัวเอง
อัสสาดเป็นชีอะห์ และไม่ใช่ชีอะห์สายหลักด้วย
ในขณะที่ชาวซีเรียส่วนมาก เป็นสุหนี่ และคริสต์อีกมาก
คือ ความเป็นคนนอกในสายตาชาวบ้านประชาชน
มันมีอยู่แล้ว ซึ่งมันอาจไม่มีปัญหาอะไร ถ้าพวกเขา
ไม่โกงกินเสวยสุขในครอบครัว และบริหารประเทศให้ดี
แต่เพราะตระกูลอัสสาด หวงอำนาจ
เอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว จนโกงกินมากเกินไป
การสร้างตัวเองเป็นพระเจ้าหรือกษัตริย์ ในดินแดนที่ตัวเอง
เป็นชนกลุ่มน้อย อย่างการสร้างอนุสาวรีย์ตระกูลตัวเอง
เต็มไปหมด ชาวบ้านก็ยิ่งไม่พอใจ
และไม่ใช่แค่ในประเทศ ชาติสุหนี่อื่น เขาก็ไม่พอใจ
จนต้องไปช่วยกลุ่มสุหนี่ ให้สู้กับอัสสาด
อัสสาดลำพัง มันก็ไม่ไหว ในกองทัพตัวเองก็สุหนี่เยอะ
แน่นอน เมื่อตัวเองเป็นคนกลุ่มน้อย จะอยู่ได้ ก็ต้องมีอำนาจ
ที่ใหญ่กว่ามาคุ้มกะลาหัว ซึ่งนั่นก็คือ อิหร่านและรัสเซีย
พอได้แบ็คดี อัสสาดก็โหดมากขึ้น เพื่อปิดปากชาวบ้าน
ที่บังอาจวิจารณ์และต่อต้าน
และในวันที่มั่นคงในอำนาจ อัสสาดเองก็ไม่พยายามแก้ไข
ให้ทุกอย่างมันดีขึ้น เขายังคงพึ่งพากองทัพ และการหนุนหลัง
จากพันธมิตรสายเดียวกัน ฆ่าเพื่อร่วมชาติ เพื่อกอบโกยต่อไป
นั่นทำให้เขาต้องทำร้ายคนจำนวนมากมาย
อย่างอำมหิต ยิ่งต้านยิ่งฆ่า
และไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศชาติเลย
แถมไอ้แบ็คอัพก็เฉย จะฆ่าก็ฆ่าไป ฉันได้ประโยชน์เป็นพอ
…มันคือการปกครองด้วยกำปั้นเหล็ก ของคนที่มีแนวคิด
อำนาจนิยมสุดโต่งอย่างชัดเจน และกับที่ที่มีแนวคิดแบบนี้
ปกครองประเทศอยู่ มันไม่เคยลงเอยด้วยดี…
…ซึ่งสุดท้าย ระบอบอัสสาดก็ต้องพังลง เมื่ออำนาจที่หนุนหลัง
เริ่มอ่อนแรง จนช่วยตัวเองไม่ได้ …
การอ้าแขนรับอัสสาดรุ่นสองให้ลี้ภัยของรัสเซียนั้น
พูดจริงๆเลย คือมันไม่มีประโยชน์ทางการเมืองเลยแม้แต่น้อย
สำหรับรัสเซียและตัวปูตินเอง
ดีไม่ดี จะเป็นการชักศึกเข้าบ้าน จากความแค้นของ
พวกสุหนี่เสียด้วยซ้ำไป โดยเฉพาะกับซาอุ ที่รัสเซียและจีน
พยายามเหลือเกิน ที่จะดึงมาเป็นพวก หลังท่านปรินซ์
แห่งซาอุมีปัญหากับสหรัฐ
แต่ปูติน ก็ไม่แคร์เรื่องเหล่านี้ เขายังให้การอุ้มชูอัสสาด
แบบแทบไม่แคร์ใครเลย มันก็ยาก ที่จะคุยกับซาอุต่อ
ในแง่หนึ่ง ปูตินอาจน่าชื่นชม ในความเป็นเพื่อนที่ดี
อันนี้ต้องยอมรับนะ ปูตินเป็นคนจริงใจมาก
ถ้าไม่ไปหักกับเขาเสียเอง เขาตอบแทนคนที่เคยช่วยเขาเสมอ
และไม่เคยหักหลังใครก่อน เหมือนจีน
แต่ในอีกมุม มันย่อมทำให้โลกเห็นว่า
ปูตินมีวิธีคิดอย่างไร
ในสถานการณ์ที่โลกมีความขัดแย้งสูงเช่นนี้
มันไม่ดีกับเขามากๆที่เอาน้ำใจส่วนตัว
มากางปีกป้อง คนที่โลกส่วนมาก
หรือแม้แต่โลกมุสลิม มองว่าเลว
…เราต้องไม่ลืมว่า ในขบวนล้มที่ล้มอัสสาดสำเร็จนั้น
ไม่ใช่กลุ่มที่หนุนโดยสหรัฐและอิสราเอล แต่กลุ่มหลัก
คือกลุ่มชาวสุหนี่ ที่นำโดยตุรกี และมีซาอุดีอาระเบีย
กับ UAE และชาติสุหนี่อีกหลายชาติ ให้การสนับสนุน
ทั้งในแง่อาวุธและการเงิน มันชัดเจนว่า สุหนี่ซึ่งเป็น
มุสลิมส่วนมาก ไม่โอเคมากๆ กับอัสสาด …
ที่จริงในโลกอาหรับนั้น แทบทุกประเทศ ไม่ชอบฝรั่งตะวันตก
แต่จะให้เข้ากับรัสเซีย หรือกระทั่งจีน พวกเขาก็ไม่ไว้ใจ
เหตุผลมันก็คือเรื่องพวกนี้นี่แหละ
…การทิ้งอัสสาด มันให้ผลดีกับรัสเซียและจีนมากกว่า
ในแง่การเมืองและมุมมองจากทั่วโลกก็จริง…
…แต่การจะมากลับลำ บอกว่าอัสสาด แท้จริงเป็นคนร้าย
มันจะไปฝืนกับสิ่งที่พวกเขาสร้างเรื่องขึ้นมาตลอด
ว่าอัสสาดเป็นผู้นำที่ดี แต่โดนตะวันตกรังแก คนของพวกเขา
ที่รับสื่อทางเดียวมาตลอด ก็จะตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือ
…มันจึงต้องเลยตามเลย ทำในสิ่งที่ทำมาต่อไปนั่นเอง…
…เพราะจะอย่างไร พวกเขาก็ไม่ได้สนใจโลกส่วนที่เหลือ
มากนักอยู่แล้ว สิ่งนี้ก็ถูกสะท้อนมุมมองออกมาชัดเจนเช่นกัน
แต่กับปูติน ซึ่งตัวเองก็โดนกาหัวอยู่แล้ว ว่าเป็นอาชญากร
ในสงครามยูเครน มันน่าจะแย่ลงไปอีก
ยังไม่มีความชัดเจน ว่าสุดท้าย อัสสาด จะโดนศาลโลก
หรือสหประชาชาตินั้น มีความเห็นให้เป็นอาชญากรสงคราม
หรือไม่
ซึ่งถ้าใช่ มันจะกลายเป็นการบอกโลกว่า
รัสเซียกลายเป็นที่ซ่องสุม หรืออุ้มชูจอมเผด็จการอย่างแท้จริง
มันน่าขำ ที่ปูตินบอกว่า เขาจะคุยกับเซเลนสกี้
ก็ต่อเมื่อเซเลนสกี้ ชนะการเลือกตั้งใหม่ก่อน
แต่กลับอุ้มชูคนที่คนแทบทั้งประเทศเกลียดแบบนี้
กับอัสสาดนั้น ปูตินดูจะมองเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวด้วยซ้ำ
ในความคิดของปูติน เขาอาจมองว่าอัสสาดไม่ผิดจริงๆก็ได้
…ซึ่งถ้าใช่ นั่นจะทำให้ปูตินยิ่งดูน่ากลัวขึ้นมาก…
…เพราะเท่ากับเขาประกาศตัว เป็นจอมเผด็จการอย่างแท้จริง
ที่มีพฤติกรรมไม่ต่างจากอัสสาด และมองว่าการฆ่าเพื่ออำนาจ
กับประชาชนของตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง…
ผมเชื่อว่า อัสสาดนั้น ไม่มีที่ไปอื่นจริงๆนอกจากรัสเซีย
เขื่อเถอะว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นจีนหรืออิหร่าน
ต่อให้รับไว้ ก็คงไม่เอาออกหน้าประเจิดประเจ้อแบบนี้
อิหร่านจะน้อยจะมาก ยังแคร์โลกมมุสลิม
คาเมนาอียังหวังลึกๆ ถึงการรวมตัวกันสู้
เขาไม่อยากเป็นศัตรูกับพวกสุหนี่มากกว่านี้แน่
ส่วนจีนนั้นแน่นอน แม้ใช้สื่อในมือแก้ต่างให้อัสสาดมาตลอด
และปัจจุบันก็ยังทำ แต่พวกเขามีเรื่องต้องห่วงอีกมาก
การเอาตัวคนที่อาจเป็นอาชญากรสงครามในอนาคตมาเลี้ยง
มันอาจเป็นข้ออ้างไปสู่เรื่องการกีดกันทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น
ซึ่งแน่นอนว่าจีนไม่ต้องการ
…ก็คงมีแต่รัสเซียเท่านั้นแหละที่กล้าทำ…
…ไม่รู้เหมือนกัน ว่าปูตินมองเป็นเรื่องส่วนตัวไหม…
…แต่อีกทาง มันอาจดีกับบางคน ที่ปูตินกำลังบอกโลกว่า…
ไม่ว่าคุณจะเลวหรือมือเปื่อนเลือดแค่ไหน ถ้ายอมลงให้ผม
ผมก็จะดูแลคุณเอง
…มันคงสร้างความอุ่นใจให้จอมเผด็จการได้มากทีเดียว
…และอาจรวมถึงคนที่กำลังอยากทำรัฐประหารทั่วโลกก็ได้…
คนแถวนี้บางคน บางกลุ่มแถวนี้ ก็อาจดีใจดวยแหละนะ…
…ตัดสินใจเอากลางปีหน้าเลยไหมล่ะ มีคนเปิดแล้วนี่….
คนแบบไหน ก็คบคนแบบนั้นนั่นแหละครับ 🤣🤣🤣…
ภาพ ข่าว
โฆษณา