20 ธ.ค. เวลา 09:07 • ไลฟ์สไตล์

ไม่ได้เข้ามาอัพเดทนาน ว่างละเอาหน่อย

ย้ายประเทศแล้วค่าาา จากก่อนหน้าอยู่ญี่ปุ่น ตอนนี้ย้ายมาฮ่องกง (เกาะเหมือนเดิม หนีไม่พ้นเป็นชาวเกาะ 😆) จริงๆย้ายมาตั้งแต่ช่วงเดือน 6 ถ้าจำไม่ผิด มันฉุกละหุกไปหมด
เนื่องจากเราเองก็เป็นต่างด้าวของญี่ปุ่น การจะย้ายออกก็ต้องทำเรื่องเอกสารหลายอย่างอยู่ ไม่พอแค่นั้น การยกเลิกต่างๆ เช่น น้ำ ไฟ แก๊ส อินเตอร์เนต บลาๆ ไหนจะต้องให้เค้ามาเช็คห้องก่อนออก ต้องเคลียร์ห้อง (ของเยอะมากกก) ทำเรื่องออกนอกประเทศถาวรอีก คือเหนื่อยมากกกก เหนื่อยแบบใจจะขาด ร่างจะตุย เพราะงานประจำก็ต้องทำ เขตก็ต้องไปวันธรรมดา ยากมากคือการเคลียร์ห้อง เพราะว่าเราไม่ได้ย้ายบ้านภายในประเทศ แต่นี่คือเราออกนอกประเทศเค้าเลย เวลาจำกัดมากๆๆๆ (ที่ทำงานใหม่ก็เร่งสุด)
โน้ตให้คุณลุงเจ้าของ ขอบพระคุณในความมีเมตตากะเหรี่ยงคนนี้ พร้อมคืนกุญแจห้อง (แกมาเช็คห้องไปแล้วก่อนเราออก 1 วัน) ให้พวงกุญแจแกเป็นที่ระทึกไว้ด้วย
ต้องแพลนเยอะมากว่าเราจะต้องเหลืออะไรไว้ใช้ก่อนเคลียร์ห้องบ้าง นี่ยังโชคดีว่าเจ้าของหอเป็นคุณลุงน่ารัก เค้ายอมให้เราทิ้งของไว้โดยไม่ชาร์จเพิ่ม (หออื่นถ้ามีขยะทิ้งไว้เค้าจะชาร์จค่าทิ้ง) เราก็แอบทิ้งไว้หลายลังเลย แต่เป็นเสื้อผ้ารองเท้า กะผ้าห่มหมอน ที่เก็บไว้นอนวันสุดท้ายก่อนย้ายไปนอนโรงแรม ของต้องทิ้งเยอะมาก เพราะ นน กระเป๋าก็ได้แค่ 2 ใบใบละกี่ กก จำไม่ได้ละ แต่ก็ไม่พอให้ขนไปเยอะขนาดนั้น ตัดใจทิ้งเสื้อผ้า รองเท้า ของหลายอย่างยกให้คนอื่นไป
อีกหลายอย่างก็ฝากน้องคนไทยที่ทำงานที่เดียวกันไว้ก่อน เพราะคิดว่าต้องมีโอกาสได้ไปเอาอยู่แล้ว ถ้าไม่มีเวลาไปเอาก็กะจะให้น้องเค้าส่งไปรษณีย์มาให้ที่ฮ่องกง แต่สุดท้ายก็ได้กลับไปเอาถึงจะทิ้งไว้นานหน่อยก็ตาม 🫣
แล้วการลาออกอย่างฉุกละหุกก็เป็นปัญหา เพราะหัวหน้างานก็พยายามยื้อไว้ ไม่ใช่เก่งหรืออะไร เค้าหาคนไม่ทัน 🥹 ความผิดเรานั่นแหละ ก็เลยบอกเค้าว่า ส-อา เราจะมาทำงาน เคลียร์งานให้เรียบร้อยไม่ให้เป็นภาระใคร พร้อมจะทำคู่มือการทำงานของตำแหน่งเราไว้ให้ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนใหม่ แต่เราคืนห้องอพาร์ตเมนต์ไปแล้ว ต้องนอนโรงแรม บ.ก็ใจดีจอง รร ใกล้ที่ทำงานให้เลย เพื่อให้เราเข้ามาทำงานได้ ส-อา แต่ความทรหดของชีวิตคือ กระเป๋าขนไปยังไง!!! ห้องอยู่จิบะ ที่ทำงานอยู่โตเกียว กระเป๋าใบใหญ่เป้ง 3 ใบ กะใบเคบิ้นอีก 1!!
วิว tokyo sky tree จากโต๊ะทำงานของเรา บายยย
ไหนจะกระเป๋าห้อยส่วนตัว เลยตัดสินใจส่งกระเป๋าใหญ่ 1 ใบกลับไทยกะอีกใบที่จำเป็น 1 ใบส่งไปสนามบินก่อนด้วยบริการแมวดำ (ส่งอีกถุงใหญ่ๆไปฝากไว้ที่บ้านน้องคนไทยด้วย สงสารคนมารับเหลือเกิน ห้องอยู่ชั้น 3 ไม่มีลิฟท์ และของหนักมาก ได้แต่ขอบคุณไปจะหลายล้านรอบ เวอร์!) ดังนั้นก็เหลือใบใหญ่ไว้ที่ตัว 1 เคบิ้น 1 กะกระเป๋าสะพาย 1 (เยอะมากเวอร์) วันที่จะบินค่อยไปเอา ไม่งั้นตายๆๆ
ความซวยไม่หมด วันที่จะย้ายจาก รร ที่บ.จองให้ไป รร ใกล้สนามบินก่อนบิน 1 วัน ฝนตก!! ตอนไปสถานีเพื่อขึ้นรถไฟมันไม่เป็นอะไร เพราะนั่งแท็กซี่ แต่ตอนลงรถไฟ ออกผิดประตู กระเป๋าใหญ่ 1 ใบกะกระเป๋าเคบินอีก 1 กระเป๋าสะพายอีก พะรุงพะรังมาก หนักมาก ร้องไห้ ล้อพังอีก กระเป๋าเสียศูนย์อีก เพราะยัดของหนักเกิน 😭😭 ลากขึ้นเขาลงเนิน ท่ามกลางสายฝน ทุเรศตัวเองมาก
เข้าไปถึง รร พนงยังตกใจสภาพรีบเอาผ้าเช็ดตัวมาให้ คงสมเพชเรามาก เศร้าจริงตอนนั้น เพราะมันเหนื่อยสะสม ทั้งเรื่องย้ายบ้าน เรื่องเคลียร์งาน เรื่องที่ทำงานใหม่ และอีกหลายๆเรื่องที่ต้องจัดการภายในเงลาอันจำกัด
แต่สวรรค์ก็เข้าข้างนิดหน่อย หลังจากตรากตรำมาก่อนหน้า ถึงวันที่ต้องบินไปฮ่องกง ก็ไปเอากระเป๋าเอาอะไรเสร็จสรรพจากเคาน์เตอร์แมวดำ จัดการไปโหลดกระเป๋าเช็คอิน ได้อัพเกรดขึ้นบิสสิเนสค่าาาาา omg finally ชีวิตก็มีจุดดีของมันบ้าง 😌
แล้วชีวิตก็เริ่มใหม่ที่เกาะฮ่องกงแทน vibe ต่างกับญี่ปุ่นหนักมาก ปรับตัวก็เยอะอยู่ แต่โชคดีเป็นคนยังไงอะไรก็ได้ เลยปรับง่ายหน่อย (เหรอ?? 😆)
โฆษณา