20 ธ.ค. เวลา 11:00 • การตลาด

7 อินไซต์ จาก Mini ประเทศไทย ลูกค้าส่วนใหญ่อายุ 30-35 ปี ชอบจัดทริป ทำกิจกรรม กับคนขับ Mini ด้วยกัน

Mini คือหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่มี “แฟนคลับ” เหนียวแน่นมากที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ และการขับขี่ที่เหมือนการขับรถโกคาร์ตคันเล็ก ๆ
ล่าสุด MarketThink ได้มีโอกาสคุยกับ คุณประภัสรา อร่ามวงศ์สมุทร ผู้อำนวยการ Mini ประเทศไทย 
ถึงอินไซต์ด้านธุรกิจ และการตลาดที่น่าสนใจ ของ Mini ประเทศไทย ในช่วงปลายปี 2024 นี้ ..
1. ปีนี้ เป็นปีที่ Mini ประเทศไทยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่มากถึง 3 รุ่น คือ
- Mini Cooper SE ราคาเริ่มต้น 1,699,000 บาท
- Mini Aceman SE ราคาเริ่มต้น 1,999,000 บาท
- Mini Countryman ราคาเริ่มต้น 2,599,000 บาท
ซึ่งการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทั้ง Mini Cooper SE และ Mini Aceman SE ทำให้ Mini ประเทศไทย มีรถยนต์ในกลุ่มราคา 1-2 ล้านบาท เป็นครั้งแรก
ทำให้รถยนต์ Mini ในประเทศไทย มีราคาที่จับต้องได้ง่ายมากขึ้น รวมถึงสามารถเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มใหม่ได้
2. ช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ (เดือนมกราคม - พฤศจิกายน) Mini ประเทศไทย มียอดจดทะเบียน 1,335 คัน
ซึ่งตัวเลขนี้ เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ในขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ในกลุ่ม Premium Segment ลดลง 24%
และยอดจดทะเบียนรถยนต์ในกลุ่ม Passenger Car ในภาพรวมลดลง 22%
ส่วนยอดจองรถยนต์ Mini ในช่วงงาน Motor Expo 2024 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 34%
3. โรงงานของ Mini ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง เป็นโรงงานเพียงแห่งเดียวในโลกของ BMW Group
ที่สามารถประกอบได้ทั้ง รถยนต์ Mini, รถยนต์ BMW และมอเตอร์ไซค์ BMW Motorrad และมีกำลังการผลิตสูงสุด 30,000 คันต่อปี
4. Buyer Persona ของลูกค้า Mini ในประเทศไทย ไม่ได้มีแต่วัยรุ่น หรือคนโสด
เพราะลูกค้าของ Mini ในประเทศไทย จำนวนไม่น้อยเป็นกลุ่มคนที่มีครอบครัว ชอบการขับขี่รถยนต์ อายุประมาณ 30-35 ปี
ซึ่ง Mini ประเทศไทยให้คำนิยามว่าเป็นกลุ่มคน Young At Heart ที่แม้จะมีอายุมากขึ้น แต่ยังคงรักสนุก ไม่ยอมแก่ไปตามอายุ
ที่น่าสนใจคือ Mini เป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นมากที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก ทำให้ Mini กลายเป็นแบรนด์ที่มีความเป็น Community สูงมาก
ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ Mini จึงชื่นชอบทำกิจกรรม ร่วมกับเจ้าของรถยนต์ Mini คันอื่น ๆ เช่น การจัดทริปท่องเที่ยว โดยมีกิจกรรมบางอย่างที่ทำร่วมกัน
แถมยังบอกเล่าประวัติศาสตร์ตลอดระยะเวลา 65 ปีของแบรนด์ Mini เช่น ตำนาน หรือการชนะการแข่งขันแรลลี่ ให้กับคนอื่น ๆ ได้รับรู้อีกด้วย
5. ลูกค้า Mini ในประเทศไทย คือตัวอย่างที่ดีของคำว่าลูกค้าที่มี Brand Loyalty สูง
เพราะผู้บริหาร Mini ประเทศไทยระบุว่า ที่ผ่านมา Mini มักได้รับคอมเมนต์จากคนที่ไม่ใช่แฟนคลับของแบรนด์ว่า เป็นรถยนต์ที่ช่วงล่างแข็ง นั่งไม่สบาย
แต่เจ้าของรถยนต์ Mini จำนวนไม่น้อยก็พร้อมช่วยกันตอบกลับเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ว่าเอกลักษณ์ของรถยนต์ Mini คือการขับสนุก มีการขับขี่ที่ถอดแบบมาจากรถโกคาร์ต
6. ลูกค้า Mini ในประเทศไทย ซื้อรถยนต์ Mini คันใหม่ห่างจากคันแรกราว ๆ 5-6 ปี
โดยเป็นการซื้อเพิ่ม มากกว่าจะเป็นการซื้อเพื่อทดแทน Mini คันเก่า
ส่วนลูกค้าจากแบรนด์อื่น ๆ ที่หันมาซื้อรถยนต์ Mini มาจากแบรนด์เหล่านี้ ทั้ง BMW, Mercedes-Benz, Honda และ Toyota
7. ลูกค้า Mini ชอบสะสมรถที่มีความหายาก Limited Edition
โดยเฉพาะรถยนต์ Mini ที่กำลังจะเลิกผลิต และกำลังมีรุ่นใหม่เปิดตัวมาทดแทน ลูกค้าหลายคนไม่ได้มองว่ารถยนต์ Mini เหล่านี้กำลังจะตกรุ่น 
แต่เป็นรถยนต์ Mini ที่มีความหายาก น่าสะสม แม้ว่ารถยนต์ Mini รุ่นใหม่ จะมีราคาเปิดตัวที่ถูกกว่ารุ่นเก่าก็ตาม
หรือมองในอีกมุมหนึ่ง ก็คือ ลูกค้า Mini บางส่วนยอมจ่ายเงินเพื่อสะสมรถยนต์ Mini ที่ตัวเองชอบ
รวมถึงรถยนต์ Mini บางรุ่นที่มีโควตาจำกัด เช่น ทั่วโลกผลิตเพียง 700 คัน และ Mini ประเทศไทยได้โควตามาขายเพียง 50 คัน
รถยนต์ Mini ในลักษณะนี้จะมีลูกค้าที่เป็นแฟนคลับประจำ ยอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้เป็นเจ้าของก่อนคนอื่น
โดยการจองรถยนต์ Mini รุ่นพิเศษ เป็นแบบ first come, first serve หรือมาก่อนได้ก่อน ไม่มีเงื่อนไขอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
  • ข้อมูลจาก Mini ประเทศไทย
โฆษณา