8 ชั่วโมงที่แล้ว • ประวัติศาสตร์

“ต้นสน” เกี่ยวกับคริสต์มาสอย่างไร?

เมื่อฤดูหนาวมาเยือน และเทศกาลคริสต์มาสได้เริ่มขึ้น ผู้อ่านคงมีภาพที่อยู่ในหัวคือ “ต้นคริสต์มาส” ที่มีลักษณะเป็นต้นสนประดับไฟ ตั้งอยู่ทุก ๆ ที่ แต่ทำไม “ต้นสน” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลนี้?
“ต้นสน” หรือ “Evergreen” เป็นต้นไม้ที่มีเขียวตลอดปี แม้ในฤดูหนาวที่ต้นไม้อื่นได้ผลัดใบ เหลือแต่กิ่ง แต่ต้นสนยังคงเขียวสด สิ่งนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและยืนยง จึงถูกมองว่าเป็นตัวแทนของ “ชีวิตที่ไม่มีที่สิ้นสุด” และ “ความหวังที่ไม่เคยเลือนหาย” เช่นเดียวกับความรักของพระเยซูคริสต์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
ย้อนกลับไปในสมัยโบราณ ชนเผ่ายุโรป เช่น ชาวเซลติก และ ชาวนอร์ส เคยนำต้นสนมาไว้ในบ้านช่วงฤดูหนาวเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายและนำโชคลาภ เมื่อศาสนาคริสต์แพร่หลาย ต้นสนจึงถูกเชื่อมโยงกับ ต้นไม้แห่งชีวิตในสวนเอเดน ต่อมาในศตวรรษที่ 16 ชาวเยอรมันเริ่มนำต้นสนมาตกแต่งในบ้านช่วงคริสต์มาส และประเพณีนี้แพร่หลายไปทั่วโลก
การตกแต่งต้นสนด้วยแสงไฟระยิบระยับและดวงดาวบนยอดต้นไม้ สะท้อนถึง “แสงสว่างที่นำทางโลก” และการเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู ของตกแต่งแต่ละชิ้น ไม่ว่าจะเป็นลูกบอล ของขวัญ หรือไฟ ล้วนสื่อถึงความสุขและการแบ่งปัน
“ในทุกฤดูหนาว ต้นสนคอยบอกเราว่าความหวังนั้นไม่มีวันร่วงโรย”
1
ไม่ทราบว่าผู้อ่านรู้สึกอบอุ่นใจในช่วงเทศกาลคริสมาสต์บ้างไหม? แบ่งปันความรู้สึกกับเราในคอมเมนต์ด้านล่างได้เลย!
โฆษณา