เมื่อวาน เวลา 06:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ช้อนดีไหม? CPAXT เดือนเดียวรูด 27%

โบรกฯ ชูป้ายทั้ง “ถือ” และ “ซื้อ” มองมูลค่าน่าสนใจ-ธุรกิจหลักยังแข็งแกร่ง
ราคาหุ้น บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องอย่างหนักในช่วงเวลาเพียง 30 วัน โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนักถึง 26.81% นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 34.50 บาท เมื่อวันที่ 20 พ.ย.67 ขณะที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.67 ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 25.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 602.20 ล้านบาท
โดยปัจจัยที่เป็นตัวกดดันราคาหุ้น คาดว่ามาจากความกังวลกรณีการเข้าลงทุนในโครงการ The Happitat ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าการลงทุนในโครงการดังกล่าวจะทำให้ภาระหนี้สินของ CPAXT เพิ่มขึ้น และอาจเกิดปัญหาด้าน ESG
อย่างไรก็ดี ในส่วนของมุมมองนักวิเคราะห์มีทั้งคำแนะนำ “ถือ” และ "ซื้อ" หุ้น CPAXT โดยแม้จะมีความกังวลต่อหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มมากขึ้น แต่อีกมุมหนึ่งในแง่ของราคาหุ้นที่ปรับลงกว่า 23% นักวิเคราะห์มองว่า Valuation มีความน่าสนใจ และมองว่าธุรกิจหลักยังแข็งแกร่ง โดย SSSG ไตรมาส 4 ยังบวกได้ 1-3% หนุนจากกลุ่มสินค้าอาหารสด
โดย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” CPAXT พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 32.50 บาท สะท้อนถึงความกังวลต่อหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ CPAXT และทำให้ความสามารถในการรับรู้การเติบโตของกำไรสุทธิและการทำงานร่วมกันจาก Makro และ Lotus ชะลอตัวลง
อนึ่ง บล.โกลเบล็ก มีมุมมองที่ระมัดระวังต่อการลงทุน 8,000 ล้านบาท ของ CPAXT ใน The Happitat เมื่อพิจารณาจากสถานะทางการเงินปัจจุบันของบริษัทที่มี IBD อยู่ที่ 100,000 ล้านบาท ในมุมมองของ บล.โกลเบล็ก CPAXT ควรให้ความสำคัญกับการใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพื่อลดภาระหนี้ที่มีอยู่มากกว่าการเพิ่มอัตราส่วนหนี้สำหรับโครงการที่คาดว่าจะไม่สร้างกระแสเงินสดในเชิงบวกในระยะใกล้
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีกำหนดแล้วเสร็จในครึ่งหลังของปี 2568 โดยคาดว่าจะมีปริมาณการจราจรเติบโตภายใน 28,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน หนี้เพิ่มเติมที่จำเป็นสำหรับการลงทุนมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดต้นทุนดอกเบี้ยประจำปีอย่างน้อย 300 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 3% ของการคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2567 ของ บล.โกลเบล็ก โดยการระดมทุนครั้งนี้สร้างความกังวลทางการเงินในระยะใกล้และเกิดแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อรายได้ของ CPAXT
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” CPAXT แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 34.00 บาท สะท้อนปัจจัยด้าน ESG โดยสาเหตุที่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับลงกว่า 23% หลังจากประกาศการลงทุนในโครงการ Happitat และ Valuation ปัจจุบันซื้อขายบน P/E ปี 2568 ที่ 22 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่ม และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี รวมถึงธุรกิจหลักยังแข็งแกร่ง โดย SSSG จากต้นไตรมาส 4/67 ถึงปัจจุบันยังบวก 1-3% หนุนจากกลุ่มสินค้าอาหารสด
ทั้งนี้ CPAXT ประกาศตั้งบริษัทย่อยใหม่ “Axtra Growth Plus” ทุนจดทะเบียน 8,390 ลบ. ซึ่ง CPAXT ถือหุ้น 95% และ MQDC Town 5% โดย CPAXT ใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 7970 ลบ. Source of fund เป็นเงินกู้ ลงทุนในโครงการ Happitat ซึ่งโครงการแล้วเสร็จราว 80% และคาดว่าอาจต้องใช้เงินเพิ่มอีกราว 4,000 ลบ. รวมมูลค่าการลงทุนราว 12,000 ลบ. และโครงการคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 1/69
อย่างไรก็ดี บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินโครงการ Happitat เผชิญความเสี่ยงในหลายทาง 1. ด้านการแข่งขันที่รุนแรงในพื้นที่โซนบางนา-ตราด 2. การเข้าไป Manage office building ซึ่ง CPAXT ไม่เคยทำมาก่อน ทั้งนี้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2568-69 ลง 2-4% ตามลำดับ สะท้อนดอกเบี้ยจ่ายและผลขาดทุนของโครงการ Happitat โดยคาดว่า Happitat จะ breakeven ในระดับ Net profit ใน ปี 2573 (ช้ากว่า guidance ของบริษัท 1 ปี) โดยคาด Occ rate ของ Retail space ที่ 85% และ Office ที่ 40% และค่อยๆ ทยอยปรับขึ้น
โฆษณา