อัลบั้ม "Electric Rendezvous" ของ Al Di Meola ถือเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่โดดเด่นของวงการดนตรีแจ๊สฟิวชันเลยก็ว่าได้ ด้วยการผสมผสานระหว่างดนตรีลาติน ร็อก และเทคนิคการเล่นกีตาร์ที่เหนือชั้น อัลบั้มนี้ไม่เพียงแค่เป็นการแสดงฝีมือของ Di Meola แต่ยังเป็นผลงานที่สื่อถึงอารมณ์และจิตวิญญาณผ่านการบรรเลงที่ซับซ้อนและไพเราะ นอกจากนี้ยังมีนักดนตรีระดับตำนาน เช่น Jan Hammer, Steve Gadd และ Paco de Lucía มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานนี้อีกด้วย
อัลบั้มเปิดตัวด้วยเพลงที่เปรียบเสมือนพายุที่โหมกระหน่ำตั้งแต่วินาทีแรกอย่าง "God-Bird-Change" ด้วยจังหวะที่เร้าใจและซับซ้อน เสียงกีตาร์ไฟฟ้าที่ดุดันของ Di Meola สอดประสานกับซินธิไซเซอร์ของ Jan Hammer ได้อย่างลงตัว การบรรเลงที่รวดเร็วและหนักแน่นแสดงออกถึงพลังที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง โครงสร้างเพลงที่เปลี่ยนแปลงไปมาอย่างคาดเดาไม่ได้นั่น อาจสื่อถึงการเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลังของจังหวะชีวิต เรียกได้ว่าเพลงนี้สามารถปรับอารมณ์ของผู้ฟังให้ตื่นและพร้อมสำหรับบทเพลงต่อ ๆ มาได้ดีเลยทีเดียว
ตามมาติด ๆ ด้วยเพลงไตเติ้ลอย่าง "Electric Rendezvous" ที่ทรงพลังและเต็มไปด้วยจังหวะที่เร้าใจ เสียงกีตาร์ของ Di Meola เร่งเร้าและเฉียบคม ขณะที่จังหวะกลองของ Steve Gadd ช่วยเสริมให้เพลงนี้มีพลังมากขึ้น ริฟฟ์กีตาร์ที่ซับซ้อนและการเปลี่ยนคีย์ที่ไม่คาดฝันสร้างบรรยากาศของการเดินทางผ่านเสียงดนตรีที่ตื่นเต้นเร้าใจ เหมือนกับการเผชิญหน้าที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและพลังงาน แต่ก็แฝงด้วยโทนเสียงที่เยือกเย็นและเบสที่หนักแน่น สร้างความรู้สึกที่ขัดแย้งกันและสื่อถึงยามวิกาลได้อย่างน่าประหลาดใจ
"Passion, Grace & Fire" เพลงที่ Di Meola ได้ร่วมบรรเลงกับนักกีตาร์ฟลาเมงโกในตำนานอย่าง Paco de Lucía เป็นเหมือนบทสนทนาทางดนตรีระหว่างสองศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ ที่ต่างก็เป็นนักกีตาร์ระดับชั้นแนวหน้าของโลก เพลงนี้คือการแสดงพลังทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งผ่านกีตาร์โปร่งที่บรรเลงอย่างเร่าร้อน
ตามมาด้วยงานเฉลิมฉลองตามแบบฉบับดนตรีลาตินอย่างแท้จริงกับ "Ritmo de la Noche" (Rhythm of the Night) ที่เริ่มด้วยทำนองสบาย ๆ ชวนโยกเบา ๆ ก่อนจะเร่งจังหวะขึ้นเป็นทำนองที่สนุกสนานและเร้าใจ
เสียงเครื่องเคาะและกีตาร์ไฟฟ้าของ Di Meola บรรเลงไปพร้อมกับเสียงเบสที่แน่นหนา เสียงดนตรีที่ผสมผสานระหว่าง Flamenco, Salsa และ Jazz Fusion ทำให้เพลงนี้เหมือนงานเทศกาลที่ไม่มีวันสิ้นสุด ท่อนเมโลดี้ที่เปี่ยมไปด้วยพลังทำให้ดนตรีมีชีวิตชีวาและน่าตื่นเต้นทุกครั้งที่ฟัง