เชื่อพระเจ้า?
มัทธิว 21:1-7 KJV
[1] ครั้นพระองค์กับพวกสาวกมาใกล้กรุงเยรูซาเล็ม ถึงหมู่บ้านเบธฟายี เชิงภูเขามะกอกเทศ แล้วพระเยซูทรงใช้สาวกสองคน [2] ตรัสสั่งเขาว่า “จงเข้าไปในหมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าท่าน ทันทีท่านจะพบแม่ลาตัวหนึ่งผูกอยู่กับลูกของมัน จงแก้จูงมาให้เรา [3] ถ้ามีผู้ใดว่าอะไรแก่ท่านท่านจงว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าต้องพระประสงค์’ แล้วเขาจะปล่อยให้มาทันที”
[4] เหตุการณ์ทั้งปวงนี้เกิดขึ้นเพื่อจะให้พระวจนะที่ตรัสโดยศาสดาพยากรณ์สำเร็จซึ่งว่า [5] ‘จงบอกธิดาแห่งศิโยนว่า ดูเถิด กษัตริย์ของเธอเสด็จมาหาเธอ โดยพระทัยอ่อนสุภาพ ทรงแม่ลากับลูกของมัน’ [6] สาวกทั้งสองคนนั้นก็ไปทำตามพระเยซูตรัสสั่งเขาไว้ [7] จึงจูงแม่ลากับลูกของมันมา และเอาเสื้อผ้าของตนปูบนหลัง แล้วเขาให้พระองค์ทรงลานั้น
ในโลกตอนนี้ก็มีคนที่เชื่อว่ามีพระเจ้ามากกว่าคนที่ไม่เชื่อ แต่คนที่เชื่อก็มีแปลกแยกหลายกลุ่มสังกัดนิกายครับ?
ผมมองว่าความจริงความแปลกแยกมันไม่ใช่จิตใจพระเจ้าครับ แต่เป็นมารซาตานที่อยู่เบื้องหลังคอยให้ความคิดที่ทำให้คนตั้งตัวเองขึ้น ไม่ยอมปล่อยให้พระเจ้าทำงานหรือรับผิดชอบกับชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น จึงไม่สามารถจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับใครได้ เหมือนมารซาตานที่อยากจะเป็นพระเจ้าเสียเอง ทั้งๆที่มันเป็นไม่ได้ ผลที่ออกมาก็เลยกลายเป็นคนดื้อด้านดันทุรังต่อต้านพระเจ้า เชื่อแต่ตัวเองกันแบบที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ครับ
ใช่ก่อนที่ผมจะได้มาพบคริสตจักรกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ลผมเองก็คือหนึ่งในนั้น คือเชื่อว่ามีพระเจ้าแต่ไม่ได้ปล่อยวางชีวิตให้พระเจ้ารับผิดชอบครับ เพราะมันไม่เข้าใจพระคัมภีร์ไบเบิ้ลครับ ไปเจอโบสถ์สอนผิดมาก่อนสิบสองปี ก่อนได้มาเจอคริสตจักร สอนให้เข้าใจพระคัมภีร์คนละอย่างเลยกับที่คริสตจักรสอนครับ พวกเขาจะสอนเป็นแนวทางการประพฤติทั้งหมดเลย เหมือนศาสนาทั่วไปครับ เพราะมุ่งหวังให้เป็นคนดี ชีวิตต้องไม่ผิดพลาดชั่วร้ายประมาณนั้น
แต่พอได้มาเจอกับคริสตจักร ก็ได้เห็นว่าสาระสำคัญของพระคัมภีร์ไบเบิ้ลกำลังสอนให้เชื่อวางใจเพียงพระเจ้าครับ เป็นทางเดียวที่จะช่วยให้มนุษย์รอดได้ คือรอดจากอำนาจของมารซาตานซึ่งกำลังล่อลวงจิตใจผู้คนไปสู่ทางแห่งความตายครับ ไม่ว่าจะก้าวไปบนเส้นทางที่ดูดีสักเพียงใดก็ตาม ไม่ว่าจะยากดีมีจนแค่ไหน แต่มันก็จะจบลงที่ความพินาศความตายเสมอ เพราะมารซาตานเป็นผู้ที่คอยควบคุมกับทุกคนที่ยังมาไม่ถึงคริสตจักรของพระเจ้าครับ
ก่อนพระเจ้าจะให้พระบัญญัติลงมาทางโมเสส กับคนของพระเจ้าจุดเด่นของพวกเขาคือเชื่อวางใจพระองค์เท่านั้น เช่นอับราฮัม,อิสอัคและยาโคบไม่ได้เน้นรูปแบบพิธีกรรมเปลือกนอกแบบที่ศาสนาทั่วไปทุกวันนี้ชอบพาทำครับ
หลังพระเจ้าให้พระบัญญัติลงมาทางโมเสสที่ภูเขาซีนาย เพื่อจะช่วยให้มนุษย์รู้สึกตัวได้ง่ายขึ้นว่าตัวเองเป็นคนบาปจริงๆ มันรักความชั่ว จิตใจมันพร้อมจะไหลไปทิศทางนั้นง่ายๆ ตลอดเวลาครับ แม้จะฝึกฝนมากแค่ไหน แต่พอปล่อยว่างสักนิดมันก็จะกลับมาสู่สภาพเดิมคือไปในทางชั่วร้ายสกปรกง่ายๆ ทันทีเลยครับ
คือถึงไม่ทำออกมาแต่จิตใจความคิดมันจะพาไปแต่ทิศทางนั้นครับ ลามก, ขี้เกียจ, เห็นแก่ตัว,โลภ,โกรธหลงหรือเกลียด,ฯลฯ เยอะครับกับจิตใจสกปรก แต่ต้องพยายามทำดีๆออกมา ใช้ชีวิตกันแบบหน้าซื่อใจคด ปากอย่างใจอย่างโกหกหลอกลวงซึ่งกันและกันอยู่แบบนี้ครับ? ทำกันแบบชิวๆ จนเป็นเรื่องปกติด้วย แทนที่จะละอาย
พระเจ้าจึงให้มนุษย์เราปล่อยวางให้กับพระเจ้ารับผิดชอบครับ ให้เลิกพยายามจะควบคุมชีวิตตัวเอง เพราะมนุษย์เราสู้กับอำนาจบาปไม่ไหวครับ มีอะไรก็แค่หันกลับมาดูพระคำว่าไว้อย่างไร และมีคริสตจักรที่คอยดูแลและจูงนำจิตใจให้ด้วย บาปก็เลยลากไปไม่ง่ายครับ
แต่กับหลายคนที่ยังไม่ปล่อยให้พระเจ้ารับผิดชอบหรือกับบรรดาคนที่ยังมาไม่ถึงคริสตจักรกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ก็ได้แต่ถูกมารซาตานหลอกเท่านั้นครับ ออกเองไม่ได้ครับ มันก็จะพาไปถึงซึ่งความพินาศแล้วพาดวงวิญญาณของเราไปอยู่ที่นรกด้วยกันกับมันและสมุนในท้ายที่สุดครับ
ตอนนี้ในโลกก็มีโบสถ์มากมายที่เป็นเครื่องมือให้มารซาตานหลอกใช้ล่อลวงผู้คนให้หลงผิดและปิดใจกับพระเยซูครับ พวกเขาสอนพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเป็นหลักธรรมคำสอนหลักการประพฤติเพื่อมุ่งให้เป็นคนดีแบบศาสนาทั่วไปที่ไม่เชื่อพระเจ้าสอนเลยครับ คือสอนให้เชื่อว่าตนนั้นสามารถควบคุมชีวิตตนเองได้ ซึ่งความจริงพระคำกำลังบอกว่ามนุษย์ควบคุมตัวเองไม่ได้ ถ้าไม่ให้พระเจ้าเข้ามาดูแล มนุษย์ก็ได้แต่ต้องตกเป็นทาสมารซาตานผู้ฆ่าทำลายเท่านั้นครับ
กับพระคำตอนนี้กำลังบอกความจริงนี้ครับ กับลูกลาที่ถูกเจ้าของผูกไว้ ก็กำลังเล็งถึงมนุษย์เราที่กำลังถูกมารซาตานผูกมัดไว้ด้วยความคิดที่ผิดๆ ซึ่งมีกรอบความคิดที่ว่านี้ครอบงำอยู่ พระเยซูก็ใช้สาวกไปช่วยแก้มันมา สาวกก็ไปและเอาเสื้อของตนปูบนหลังมันก่อนนำมาให้พระเยซูขี่เข้ากรุงเยรูซาเล็ม
ก็เหมือนตอนที่คนบาปได้เจอกับคนของพระเจ้าหรือคริสตจักร ก็เริ่มที่จะได้รับพระคำความจริงเข้ามาในใจ ต่อจากนั้นพระเจ้าจึงจะสามารถเข้ามาจูงนำชีวิตได้ เหมือนมีพระเยซูขี่พาเข้ากรุงฯนี้ครับ คือกำลังบอกว่าผ่านทางคริสตจักรหรือบรรดาคนของพระเจ้า ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงพระเจ้าและปลายทางสุดท้ายจะได้กลับบ้านแท้ที่สวรรค์ด้วยครับ
แต่ถ้ายังไม่ได้เจอกับคริสตจักรของพระเจ้า ก็ออกจากความบาปเองก็ไม่ได้ครับ ก็จะเป็นเหมือนลาที่ยังถูกผูกอยู่กับเจ้าของเดิมต่อไปคือมารซาตานซึ่งกำลังพาผู้คนไปสู่นรกปลายทางสุดท้ายครับ หลายโบสถ์ในโลกตอนนี้ก็กำลังพาผู้คนมากมายให้หลงผิดอยู่แบบนั้นครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
