21 ธ.ค. เวลา 01:26 • ข่าวรอบโลก

สรุปสถานการณ์ “สงครามยูเครน” ช่วง 13 - 20 ธ.ค. 2024

ในแง่ของ “ความพยายามในการเจรจา” “สถานการณ์ในสนามรบ” “ความวุ่นวายในรัสเซีย” “ความขัดแย้งเกี่ยวเนื่องในซีเรีย”
“ผมอยากเน้นย้ำตั้งแต่แรกเลยว่าปีที่ผ่านมาเป็นปีที่สำคัญมากในการบรรลุเป้าหมายของปฏิบัติการทางทหารพิเศษ (ในยูเครน)” ปูตินกล่าวในการประชุมประจำปีรอบขยายเวลาของคณะกรรมการกระทรวงกลาโหมของรัสเซียเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2024 [1]
จากนั้นปูตินก็พูดอีกครั้งใน “รายการสายตรงถึงปูตินประจำปี” เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2024 ว่ากองกำลังรัสเซียกำลังมุ่งหน้าสู่การบรรลุ “เป้าหมายที่สำคัญ” คือรัสเซียยังไม่สามารถเข้าควบคุมเต็มรูปแบบเหนือภูมิภาคยูเครนทั้งสี่แห่งที่ผนวกเข้ามาตั้งแต่เริ่มการบุกเมื่อปี 2022 แต่ขณะนี้เขากำลังพยายามกำหนดแนวทางเพื่อที่จะได้นำชัยชนะในยูเครนช่วงปีหน้า ขณะที่ขอบเขตการวางแผนเข้าปกครองของเขาสำหรับภูมิภาคผนวกทั้งหมดในยูเครน มีการอ้างสิทธิ์ไปแล้วว่าจะมีแผนไปจนถึงปี 2030 [2]
1
ทางเพจได้สรุปเนื้อหาใจความที่สำคัญในรายการสายตรงถึงปูติน 2024 ไว้ตามลิงก์ด้านล่างนี้
1
“สิ่งที่เขา (เซเลนสกี) ควรเตรียมพร้อมทั้งหมดในตอนนี้คือ เริ่มเข้ากระบวนการเจรจา (กับรัสเซีย)” โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวยืนยันเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ในการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ [3]
ทรัมป์กำลังวางแผนที่จะส่ง “คีธ เคลล็อกก์” ผู้แทนพิเศษของเขาสำหรับภารกิจสงครามยูเครนเข้าไปยังกรุงเคียฟ พร้อมกับลอนดอน ปารีส และโรม หลังจากทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม โดยเคลล็อกก์ซึ่งเป็นนายทหารเกษียณกองทัพสหรัฐฯ ก็เปิดใจแล้วที่จะไปเยือนมอสโกเช่นกัน ตามรายงานของบลูมเบิร์ก [4]
ในเวลาเดียวกันปูตินกล่าวในรายการสายตรงประจำปีว่า “เราไม่ต้องการการสงบศึก เราต้องการสันติภาพ” เมื่อถูกถามในรายการเกี่ยวกับเงื่อนไขของรัสเซียในการเจรจากับยูเครน ปูตินย้ำว่าการเจรจาสามารถเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องมีเงื่อนไขเบื้องต้น แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยึดตามสิ่งที่เขาเรียกว่า “ข้อตกลงในอิสตันบูล” ที่ผู้เจรจาของยูเครนและรัสเซียหารือกันในช่วงสัปดาห์แรกของสงคราม และการเจรจาจะต้องคำนึงถึง “ความเป็นจริงที่กำลังเป็นรูปเป็นร่างในปัจจุบัน” ด้วย [2]
1
ปูตินกล่าวเสริมว่าสัญญาข้อตกลงใดๆ ก็ตามสามารถลงนามได้กับ “รัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย” เท่านั้น (ตอนนี้เซเลนสกีถือว่าหมดวาระไปนานแล้วและยื้ออยู่ในอำนาจ ไม่ยอมจัดเลือกตั้ง ไม่นับว่ารัฐบาลของเขาถูกต้องตามกฎหมายที่แท้จริง - ตามที่ปูตินคิด) ในทางกลับกันเซเลนสกีเองก็ปฏิเสธที่จะกลับไปสู่ข้อตกลงอิสตันบูลเพราะเขาอ้างว่าไม่มีข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้น [5]
เซเลนสกีกำลังตอบคำถามนักข่าวในกรุงบรัสเซลส์ เครดิตภาพ: Getty Images
ร่างข้อตกลงอย่างน้อยหนึ่งฉบับที่ผู้เจรจาของยูเครนและรัสเซียหารือกันในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2022 จะกำหนดให้ยูเครนมีสถานะ “รัฐเป็นกลาง” ที่ไม่เข้าร่วมนาโต แต่สามารถเข้าร่วมสหภาพยุโรป และสามารถขอการรับประกันความมั่นคงจากประเทศอื่นๆ ได้ นอกจากนั้นปูตินยังยืนกรานว่าอำนาจประธานาธิบดีของเซเลนสกีหมดลงแล้ว และยังคงเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในกรุงเคียฟ โดยเน้นย้ำว่าเขาสามารถเจรจาได้เฉพาะกับรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายของยูเครนเท่านั้น
  • สถานการณ์ในสนามรบ
ในเดือนที่ผ่านมากองกำลังของรัสเซียได้ขยายพื้นที่สุทธิ 204 ตารางไมล์ (พื้นที่ประมาณ 1/3 ของพื้นที่ลอนดอนทั้งหมด) ตามการประมาณการของ RM ที่เผยแพร่ในรายงานสงครามรัสเซีย-ยูเครนฉบับวันที่ 18 ธันวาคม 2024 โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่สถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม (ISW) จัดทำขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว [6]
สัญญาณหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความกังวลของผู้นำยูเครนเกี่ยวกับการรุกคืบของรัสเซียในทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งกองทหารรัสเซียได้เคลื่อนพลไปถึงชานเมืองของเมืองสำคัญอย่าง “โปครอฟสค์” ในสัปดาห์นี้ คือ การที่ผู้บัญชาการกองกำลังยูเครนเข้ามาแทนที่ในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนหลังจากก่อนหน้านั้นก็มีการเข้ามาแทนที่ของผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดินของยูเครน ตามที่นิวยอร์กไทม์สได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ในสนามรบ สถานการณ์ของยูเครนดูสิ้นหวังอย่างมากนับตั้งแต่เริ่มมีการบุกเข้ามาของกองทัพรัสเซีย” [7][8][9]
1
เครดิตภาพ: ISW
สถานการณ์แนวรอบรอบ “โปครอฟสค์” (Pokrovsk) อัพเดทวันที่ 19 ธันวาคม 2024 เครดิตภาพ: Meduza
  • เหตุการณ์ความวุ่นวายในรัสเซีย
พลโทอิกอร์ คิริลอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมีของรัสเซีย (NBC) เสียชีวิตจากเหตุระเบิดช่วงวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าถูกวางแผนโดยชาวอุซเบกตามคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคงแห่งยูเครน (SBU) หน่วยงานดังกล่าวอ้างว่าหัวหน้า NBC ของกองทัพรัสเซียซึ่งถูกกล่าวหาว่าสั่งใช้อาวุธเคมีกับกองกำลังยูเครน เป็น “เป้าหมายที่ถูกต้องตามกฎหมาย” แต่แม้แต่ในยูเครนเองก็ยังมีบางคนตั้งคำถามถึงการลอบสังหารนายพลรัสเซียครั้งนี้ [10][11]
“เจค ซัลลิแวน” ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของ โจ ไบเดน ไม่เห็นด้วยกับการโจมตี (ของยูเครน) ครั้งนี้ โดยให้เหตุผลว่า “เราสนับสนุนและทำให้ยูเครนสามารถป้องกันตัวเองได้ และต่อสู้กับกองกำลังรัสเซียในสนามรบมากกว่า แต่ไม่ใช่ปฏิบัติการแบบนี้” [12]
ในขณะที่ “คีธ เคลล็อกก์” ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากทรัมป์ให้เป็นทูตพิเศษในสงครามยูเครน เรียกการลอบสังหารครั้งนี้ว่า “ไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก” ยิ่งไปกว่านั้นกองกำลังของยูเครนกำลังเสียพื้นที่ในสนามรบอย่างต่อเนื่อง และการลอบสังหารจะไม่ช่วยปรับปรุงความพยายามในการทำสงครามของพวกเขา นักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่ตะวันตกกล่าวกับนิวยอร์กไทมส์ [13][9]
พลโทอิกอร์ คิริลอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมีของรัสเซีย ที่ถูกวางระเบิดลอบสังหารในรัสเซีย เครดิตภาพ: DW
เจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษของยูเครนกล่าวกับนิวยอร์กไทมส์ว่า รัสเซียจะหาคนมาแทนที่นายพลที่ถูกลอบสังหาร โดยคาดการณ์ว่าจะนำมาสู่เงื่อนไขในการสงบศึกใดๆ รัสเซียจะยืนกรานไม่เพียงแค่ให้มีการยุติปฏิบัติการทางทหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการยุติปฏิบัติการลับที่สังหารนายพลของตนอีกด้วย [9]
สำหรับปฏิกิริยาของรัสเซียต่อเรื่องนี้นั้น ไม่ใช่แค่การขู่ตอบโต้ โดยปูตินวิจารณ์หน่วยข่าวกรองของเขาอย่างไม่ค่อยจะดีนัก “หน่วยงานความมั่นคงของเราปล่อยให้เกิดการก่อการร้ายร้ายแรงขึ้นใจกลางเมืองได้อย่างไร” ปูตินกล่าวในรายการต่อสายตรงหนึ่งวันก่อนที่จะมีการเปิดเผยว่าหัวหน้าแผนกข่าวกรองทางทหารของรัสเซีย (FSB) นิโคไล ยูริเยฟ ได้ลาออกแล้ว การวิพากษ์วิจารณ์หน่วยข่าวกรองของรัสเซียต่อสาธารณชนเช่นนี้โดยปูติน อดีตเจ้าหน้าที่เคจีบี และอดีตหัวหน้า FSB เอง เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก [2][14]
เมื่อ 16 ธันวาคม 2024 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย “อันเดรย์ เบลูซอฟ” กล่าวในการประชุมรอบขยายเวลาของคณะกรรมการของกระทรวงของเขาว่า หนึ่งในลำดับความสำคัญสำหรับกองกำลังติดอาวุธของรัสเซียคือ “การเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับความขัดแย้งทางทหารที่อาจเกิดขึ้นกับนาโตในทศวรรษหน้า… พื้นที่ลำดับความสำคัญอันดับแรกคือชัยชนะในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร (ในยูเครน)” เขากล่าว [15]
อันเดรย์ เบลูซอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เครดิตภาพ: Novaya Gazeta Europe
สื่อ The Economist ของอังกฤษรายงานว่า มีการเจรจาลับระหว่างรัฐบาลชุดใหม่ของซีเรียและเครมลิน โดยกลุ่ม HTS ที่หนุนรัฐบาลชุดใหม่ในซีเรียหลังโค่นอำนาจอัสซาดลงได้ ยอมรับว่าอาจจะอนุญาตให้รัสเซียใช้ฐานทัพบางส่วนหรือทั้งหมดไว้ดังเดิม และยังคงให้สิทธิ์ในสัญญาเช่าของรัสเซียที่ท่าเรือทาร์ทัสอีกด้วย [16]
เรียบเรียงโดย Right Style
21st Dec 2024
  • เชิงอรรถ:
<ภาพปก: ปูตินขณะให้สัมภาษณ์ในรายการสายตรงถึงปูติน เมื่อ 19 ธันวาคม 2024 เครดิต: Independent UK>
โฆษณา