9 ชั่วโมงที่แล้ว • ความคิดเห็น

สุดยอดเถ้าแก่ไทย นามสกุลไฮเนกี้

ธุรกิจที่เริ่มจากเมืองไทยแล้วขยายไปทั่วโลก ปัจจุบันครอบคลุม 6 ทวีป 65 ประเทศ เป็นเจ้าของโรงแรม 561 โรง ร้านอาหาร 2661 ที่ outlets 284 แห่ง
รายได้กว่า 80% มาจากต่างประเทศ…
สร้างอาณาจักรทั้งหมดภายในหนึ่งชั่วอายุคน จากเด็กที่เรียนจบแค่มัธยม เป็นฝรั่งที่เติบโตในเมืองไทย รักเมืองไทย ไม่ใช่แค่บอกว่าตัวเองเป็นคนไทย แต่ในวัยหนุ่มเดินไปสถานทูตอเมริกาเพื่อคืนสัญชาติอเมริกา ทำเอาตกอกตกใจทั้งสถานทูตเพราะร้อยทั้งร้อยถ้าถือทั้งสัญชาติไทยและอเมริกา มีแต่คนคืนสัญชาติไทยทั้งสิ้น
ทำงานตั้งแต่อายุสิบสาม ไม่ยอมไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย อยากเป็นเถ้าแก่เอง อายุสิบเจ็ดตั้งบริษัทชื่อ minor เพราะตัวเองยังเป็นผู้เยาว์อยู่ตามกฎหมาย แต่งงานอายุสิบแปด ผิดธรรมเนียมของเส้นทางแห่งความสำเร็จทุกอย่าง ปัจจุบันลูกหลานเหลนก็อยู่เมืองไทยเป็นคนไทยหมด บอกคนฟังที่ HOW Club ในวันนั้นว่าความฝันของเขาคืออยากให้นามสกุลเขาเวลาคนได้ยินจะนึกว่าเป็นนามสกุลไทย
นามสกุลนั้นคือไฮเนกี้…
 
เรื่องราวของคุณบิล ไฮเนกี้ สุดยอดเถ้าแก่ไทยที่มีสายเลือดฝรั่ง ที่ผมได้มีโอกาสรับฟังที่ HOW Club เมื่อวันก่อนจึงเป็นเรื่องราวที่น่าถอดรหัสเป็นอย่างยิ่ง
Start as a minor
 
คุณบิลเล่าถึงเหตุปัจจัยแรกที่ทำให้เริ่มต้นค้าขายตั้งแต่อายุสิบสาม เพราะในตอนนั้นคุณบิลบ้าโกคาร์ทมาก เป็นคนชอบทำเล่นอะไรเสี่ยงๆตั้งแต่เด็ก เลยต้องเริ่มหาสตางค์เพื่อมาใช้จ่ายในของเล่นของตัวเอง เจออะไรก็ทำหมด
จนอายุสิบเจ็ดตัดสินใจไม่ไปเรียนต่อแล้วเปิดบริษัทเล็กๆสองแห่งทำธุรกิจโฆษณาแห่งนึงเพราะตอนนั้นมีลูกค้ารถยนต์เยอะ และทำธุรกิจทำความสะอาดตึกสูง แล้วภายหลังขายบริษัททำความสะอาดให้จาร์ดีน บริษัทโฆษณาให้กับโอกิลวี่ซึ่งคุณบิลยังทำงานเป็นซีอีโอต่ออีกหลายปี
 
บทเรียนแรกที่คุณบิลได้ก็คือ brand power พอมีแบรนด์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือมาอย่าง ogilvy การหาลูกค้าระดับอินเตอร์ก็เป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก บริษัทต่างประเทศนั้นเชื่อถือในแบรนด์เป็นหลัก นอกจากนั้น คุณบิลก็ได้เรียนรู้ธุรกิจหลากหลายมาก
คุณบิลบอกว่า a little bit about many businesses ก็เพราะต้องเข้าใจหลักธุรกิจของลูกค้าก่อนทำโฆษณาให้ เป็นการศึกษาทางลัดของคุณบิลผู้จบแค่มัธยมในที่สุด
Finding the vacuum and filling it
คุณบิลมีวิธีการหาธุรกิจใหม่อยู่สามประการซึ่งทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่ ประการแรกก็คือการเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองชอบ (passion) ประการที่สองคือการหาช่องว่างจากสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ และประการที่สามคือหาจากการเดินทางไปเจอผู้คน (pedestrian observation)
ในสมัยนั้นคุณบิลไปอเมริกาบ่อย ไปทีไรก็จะชอบกินพิซซ่า กลับมาเมืองไทยหาพิซซ่าอร่อยกินไม่ได้ก็เลยเปิด pizzahut และนำมาซึ่งอาณาจักรพิซซ่าในปัจจุบัน คุณบิลเป็นคนแรกที่เปิดร้านไอศกรีมที่เป็นสเวนเซ่นในตอนนี้ ร้านโดนัทก็เกิดจากการเติมคำในช่องว่างแบบนี้เช่นกัน
Survival first , long term plan later
 
คุณบิลบอกว่าการเริ่มธุรกิจใหม่ๆไม่ต้องวางแผนยาวๆ เอาตัวรอดให้ได้ก่อน คุณบิลเคยกู้เงินดอกเบี้ย 5% ต่อเดือนหรือ 60% ต่อปีด้วยซ้ำ แค่เอาตัวรอดจ่ายดอกเบี้ยให้ได้ก่อนอย่างแรก จ่ายเงินเดือนพนักงานให้ได้ ไม่งั้นจ่ายไม่ได้ก็ gameover พออยู่รอดได้แล้วค่อยทำแผนระยะยาว
 
คุณบิลพูดติดตลกว่า หลังจากนั้นไม่ว่าดอกเบี้ยจะขึ้นจะสูงยังไง ของคุณบิลคือขาลงมาตลอดเพราะเคยจ่ายสูงถึง 60% ต่อปีมาแล้ว
Crisis management
คุณบิลเป็นคนที่ชอบทำอะไรเสี่ยงตายเป็นนิสัย ชอบ diving ชอบขับรถแข่ง ขอบความเร็ว แล้วก็เรียนรู้จากวินาทีเสี่ยงตายเหล่านี้ว่าเวลามีเหตุฉุกเฉิน ไม่เป็นไปตามที่คาด อย่างแรกจะต้องรีบ act quickly ต้องไม่ panic มีสติและอย่ายอมแพ้ ไม่ว่าเหตุฉุกเฉินนั้นคือเรากำลังอยู่ในเครื่องบินหรือกำลังคุยกับธนาคารอยู่ก็ตาม เมื่อไหร่ที่เรายอมแพ้ก็คือ game over นั่นเอง
1
ช่วงโควิดเป็นช่วงที่ท้าทายมากของไมเนอร์เพราะอยู่ในธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ขาดทุนหนักมากเพราะโรงแรมเปิดไม่ได้ มีช่วงหนึ่งเปิดได้ 25 โรงแรมจาก 550 โรงแรมทั่วโลก ต้องเอาคนออกเป็นหมื่นคนที่ธุรกิจอาหาร
คุณบิลก็ใช้วิธีคิดจากประสบการณ์จากงานอดิเรกที่เสี่ยงตายด้วยการ act quickly เป็นบริษัทแรกที่เพิ่มทุน ออกหุ้นกู้เอาเงินสดมาตุนไว้ก่อน ไม่ panic มีสติและค่อยๆ สื่อสารแผนกับพนักงาน สถาบันการเงิน และถ้าเรารอดมาได้ ไม่ gameover คุณบิลบอกว่าเราจะแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน
2
If you have to learn, learn from the best
คุณบิลไม่ได้จบมหาวิทยาลัยใดๆ แต่เรียนรู้ตลอดเวลา และวิธีที่เรียนรู้ที่ดีที่สุดคือเรียนรู้จากคนที่เก่งที่สุดในโลก ตอนทำโรงแรม คุณบิลก็พาร์ตเนอร์กับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Marriott , Four season , St. Regis เรียนมาตรฐานระดับโลก best practice ต่างๆ จนคุณบิลมาสร้างแบรนด์ของตัวเองได้ และแม้กระนั้น ตอนนี้ก็ยังยอมจ่ายค่า management fee ให้โรงแรมระดับโลกนี้อยู่เพื่อที่จะได้เรียนแนวคิดใหม่ๆ และได้เปรียบเทียบต้นทุนตัวเองกับบริษัทระดับโลกด้วยเพื่อที่จะได้ปรับปรุงตัวเองต่อไป
1
Best practice ไม่มีลิขสิทธิ์ คุณบิลสอนไว้แบบนั้น…
MINOR people
มีคนถามว่าทำไม MINOR ถึงมีแต่คนเก่งๆ มีแต่คนอยากดึงตัวและใครได้คนไมเนอร์ไปก็จะมั่นใจเลยว่าได้คนที่ทำงานเก่ง มี performance ดีเสมอ คุณบิลบอกว่าที่ไมเนอร์มี drive culture คือพุ่งไปเพื่อเป้าหมายตลอดเวลา คนที่อยู่ได้คือคนที่มี passion ที่อยากจะสำเร็จ คนที่ไม่มีก็อยู่ไม่ได้ คุณบิลเรียกคนไมเนอร์ที่คุณบิลดูแลและขัดเกลาไว้ว่าเป็นพวก intrapreneur คือมีวิญญาณเถ้าแก่ กล้าลองทำอะไรใหม่ๆและก็มี balance sheet ที่ใหญ่ของบริษัทที่ทำให้ลองได้ ผิดได้ด้วย
มีกรณีหนึ่งที่ผู้บริหารระดับสูงของไมเนอร์ไปเอาร้านไก่อบต่างประเทศมา เปิดไปสามสิบสาขาแล้วปิดหมดในปีเดียว ขาดทุนเยอะมาก เขามาขอลาออกเพื่อแสดงสปิริต คุณบิลรีบบอกว่าไม่ให้ออกแน่ๆ เพราะ it’s very expensive lesson, too expensive that I can let you quit หลังจากนั้นไมเนอร์ก็เรียนจากความผิดพลาดนั้น ซื้อบอนชอนและพาบอนชอนให้กลายเป็นร้านไก่ทอดอันดับสองของประเทศในตอนนี้
1
ที่ไมเนอร์จะเน้นให้ความสำคัญเรื่อง performance มากๆ มี minor award ที่นอกจากให้พวก top performer แล้ว ยังให้รางวัลกับการที่ mentor คนอีกด้วย
ตอน 1997 หลายบริษัทไม่เอาคนออกแต่ลดเงินเดือนแทน โดยให้ทุกคนเสียสละเท่ากัน แต่ตอนนั้น minor เลือกที่จะลดคน 15% แต่ยังจ่ายโบนัสเหมือนเดิม ไม่ลดเงินเดือน โดยให้คนที่ performance ไม่ดีออก ที่ minor ทำต่างจากคนอื่นเพราะต้องการรักษาคนเก่ง ต้องการจ่ายคนเก่งให้คุ้ม
2
คุณบิลบอกว่าอย่า treat ทุกคนเท่ากัน เอาคนที่ผลงานไม่ดีออกดีกว่า เพราะจะทำให้บริษัทแข็งแรง อย่าไป follow format ที่ให้ทุกคนโดนเท่าๆกันเพราะคนเก่งจะหายหมด คนไมเนอร์ถึงมี performance ที่สูงกว่ามาตรฐานมากๆ ใครๆ ถึงต้องการตัว
2
คุณบิลบอกคนไมเนอร์เลยว่า ในแต่ละปี ถ้าไม่มี headhunt โทรมาชวน 5-6 ครั้งก็ถือว่ายังไม่เจ๋งพอ
Profit leads sustainability
คุณบิลเน้นย้ำเลยว่า เวลาพูดถึง sustainability หรือความยั่งยืน บริษัทต้องทำกำไรให้ได้ก่อน ถ้าไม่มีกำไรจะเอาทรัพยากรไหนไปช่วยคนอื่นได้ ที่ไมเนอร์เลยพยายามทำกำไรให้ได้มากที่สุด และใช้เงินนั้นไปสร้างอะไรดีๆ สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ช่วยคน ทำความดี ในวัน founder day คนไมเนอร์เก้าหมื่นคนจะไปทำอะไรดีๆคือสังคมหนึ่งวัน ซึ่งก็คือเก้าหมื่นวันที่มีคนออกไปทำอะไรดีๆนั่นเอง
Best acquisition
คุณบิลบอกว่า การซื้อกิจการต่างๆนั้น จะบอกว่าซื้อเพราะเป็นธุรกิจที่กำไรดี มีอนาคตก็ใช่ แต่หัวใจหลักๆของการซื้อกิจการคือคนทำงาน ตอนที่คุณบิลซื้อเครือโรงแรม NH ที่เป็นเครือระดับโลก สิ่งที่ทำให้นอนไม่หลับที่สุดคือกลัวพนักงานลาออก และที่ได้มาคือบุคลากรคุณภาพทั้งนั้น คุณบิลสรุปว่า. Best acquisition you make is acquistion that you get good people
1
Importance of reputation and trust
คุณบิลเน้นว่าการมีชื่อเสียงที่ดี ได้รับความไว้วางใจจาก stakeholder ต่างๆนั้นสำคัญมากๆ คุณบิลไม่เคยทำธุรกิจส่วนตัวใดๆที่จะมี conflict กับไมเนอร์เลย ทำบริษัทให้เปิดเผย โปร่งใส เน้นมากๆ ในเรื่องที่จะต่อต้านคอร์รับชั่นทุกรูปแบบ แม้แต่ supplier ทุกคนก็ต้องเซ็นสัญญาในเรื่องนี้ ไม่รับงานราชการใดๆ ไม่ยุ่งกับการเมือง
1
การสร้าง trust นี้ทำให้สถาบันการเงินเชื่อใจ โดยเฉพาะช่วงวิกฤตที่คุณบิลผ่านมาหลายวิกฤต สถาบันการเงินก็คอยเฝ้าคอยสังเกตไมเนอร์ในช่วงนั้นตลอดว่ารับผิดชอบอะไรแค่ไหน ตอนที่ไมเนอร์ซื้อเครือโรงแรม NH มูลค่าสามพันล้านเหรียญสหรัฐ ธนาคารไทยแห่งเดียวปล่อยทั้งหมดเพราะเชื่อในเครดิตที่มี
most valuable lessons
มีผู้ฟังขอให้คุณบิลแนะนำ ผู้ประกอบการที่กำลังอยู่ในช่วงก่อร่างสร้างตัว คุณบิลบอกว่า You better work hard, no easy way to make money ถ้ามีเขาก็หาเจอไปแล้ว และที่สำคัญคือ ชีวิตไม่ได้มีแค่งานหรือแค่ธุรกิจ ต้อง play hard และใช้ชีวิตให้คุ้มที่สุด treat everyday like last day
1
คำแนะนำอีกข้อคือ Spend your time wisely คนเรามี 24 ชมเท่ากัน ถ้าเราใช้ดีๆจะมี Hugh advantage คุณบิลใช้หลักการนี้ชดเชยปมด้อยด้านการศึกษาด้วยการทำงานวันละ 14 ชม ในขณะที่คนอื่นทำแค่ 8 ชั่วโมง
Put all eggs in one basket
Wealth ของคุณบิลแทบทั้งหมด คือประมาณ 97% อยู่ในบริษัทไมเนอร์ คุณบิลไม่ลงทุนในกิจการอื่นๆ เพราะบอกว่า we have to believe in what we are doing มีหลายคนถามคุณบิลว่าไม่ diversify บ้างเหรอ มันเสี่ยงนะ แต่คุณบิลบอกว่าการลงทุนในไมเนอร์เป็นการ diversity อยู่ในตัวเพราะไมเนอร์ทำธุรกิจหลากหลายและกระจายอยู่หกสิบกว่าประเทศ และที่สำคัญคือทำให้คุณบิลมีโฟกัสด้วย ดูแลบริหารแค่บริษัทเดียวเท่านั้น
1
Thailand competitive advantage
คุณบิลบอกว่า ไทยเราไม่ได้เก่งเรื่องเทคโนโลยี สร้าง chip AI ก็สู้เขาไม่ได้ พลังงานก็สู้ไม่ได้ ออกแบบรองเท้าอะไรก็ไม่ได้เด่นอะไร แต่คนไทยเด่นที่สุดเรื่อง hospitality หรือจิตวิญญาณในการบริการ
ในมุมมองของคุณบิล การสร้างคาสิโนในเมืองไทยนั้น ถ้าทำอย่างถูกต้องจะเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล คุณบิลให้มอง singapore model ที่ทำคาสิโนให้โปร่งใส เอาบริษัทระดับโลกมาลงทุน มีการแจกแจงเรื่องการถือหุ้น การใช้เงินกำไรไปไหนบ้าง แต่อย่าไปทำแบบฟิลิปปินส์ที่มีรายเล็กรายกลาง มีผู้มีอิทธิพลทำอยู่หลายเจ้า ตรวจสอบก็ไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย
1
คุณบิลผู้ซึ่งติดตามใช้ AI ด้วยตัวเองแม้แต่จะอยู่ในวัยเจ็ดสิบปลายแล้วก็ตาม ยังวิเคราะห์ว่าในอีก 5 ปีจากนี้ hospitality business ยังไม่น่าจะเปลี่ยนมากเพราะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับผู้คน และผู้คนก็ยังชอบการบริการที่เจอคน ได้รับประสบการณ์ตรงมากกว่า ช่วงโควิดยอด delivery เพิ่มสูงขึ้นมาก แต่พอโควิดหาย ยอด delivery ก็หายเพราะคนอยากกลับมาที่ร้าน อยากได้รับประสบการณ์ที่ดีมากกว่า
ต่อไปทุกอย่างคือ experience อาจจะมีวิธีใหม่ในการทำการตลาด วิธีใหม่ด้านดิจิตอล แต่คนเราจะโหยหาประสบการณ์ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์จากการเดินทาง มื้ออาหาร หรือประสบการณ์ที่พิเศษอยู่ดี
POP MART
ล่าสุดไมเนอร์ก็เป็นผู้บริหารจัดการและขาย Pop mart ในประเทศไทย คุณบิลบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ท้าทายบอร์ดมากเพราะคิดยังไงก็เข้าใจได้ยากว่าทำไมคนถึงจะจ่ายกล่องที่ยังไม่รู้ว่ามีอะไรข้างในเกือบพันบาท แต่คุณบิลก็ให้ลองทำเพราะมันน่าสนใจ
คุณบิลคุยกับผู้ก่อตั้งซึ่งเล่าว่า ไอเดียเรื่องกล่องสุ่มที่คนซื้อไม่รู้ว่ามีอะไรข้างในนั้นเกิดจากการคิดถึงคนที่พอถึงวันเกิดแล้วต้องอยู่คนเดียวว่าอย่างน้อยมาซื้อกล่องสุ่มไปเปิดลุ้นเอาก็ยังได้ความรู้สึกที่ได้ surprise birthday เหมือนกัน
1
Heinecke is Thai last name
ตอนปี 1991 คุณบิลเดินไปสถานทูตอเมริกาเพื่อคืนสัญชาติอเมริกันและน่าจะเป็นคนเดียวที่ทำแบบนั้นเพราะตัดสินใจแล้วว่าอยากเป็นคนไทย เอาจริงๆ ก็มีคนบอกว่าทำไมไม่ถือสองสัญชาติเพราะหลายคนก็ทำแบบนั้น แต่คุณบิลมั่นใจมากว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่จะอยู่ไปตลอดชีวิต และต้องการแสดงความมุ่งมั่นและ commitment ให้กับสถาบันการเงิน ทีมงานและคู่ค้าทั้งหมดด้วยว่าจะไม่หนีไปไหน และจะลงหลักปักฐานที่นี่จนวันตาย
1
จนถึงปัจจุบัน คุณบิลบอกว่าในชีวิตมีการตัดสินใจหลายครั้ง แต่การตัดสินใจเลือกเป็นคนไทยคือการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิต (Choosing Thailand is the best decision I’ve ever made)
2
ตอนนี้คุณบิลมีเหลนแล้ว ลูก หลาน เหลน ทั้งหมดเป็นคนไทย และคุณบิลฝันว่า วันหนึ่งอยากให้นามสกุลไฮเนกี้กลายเป็นนามสกุลที่คนไทยคุ้นเคยและรู้สึกว่าเป็นนามสกุลไทย
เป็นความฝันที่แสนจะน่ารักและสวยงามที่เราน่าจะเรียกเขาได้ว่าเป็นผู้ประกอบการชาวไทยได้อย่างเต็มปาก เป็นผู้สร้างอาณาจักรระดับโลกอย่างไมเนอร์ได้อย่างยิ่งใหญ่และน่าภูมิใจแทนคนไทย..
 
ในนามคุณบิล นามสกุลไฮเนกี้ คนนี้นี่เองครับ….
โฆษณา