เมื่อวาน เวลา 05:32 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

OpenAI เปิดตัวโมเดล AI ล้ำยุคได้ไม่นาน ก็เกิดคำถามความเป็น "ผู้นำวงการ" เมื่อเผชิญคู่แข่งใหม่รอบทิศ

ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา OpenAI เปิดตัวโมเดล AI รุ่นใหม่ชื่อ o1 ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ แต่เพียงไม่กี่เดือนหลังจากนั้น คู่แข่งจาก จีน และ Google ก็ได้ปล่อยโมเดลที่มีความสามารถคล้ายคลึงกัน
DeepSeek จากจีน เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ Google เพิ่งเปิดตัว Gemini 2.0 Flash Thinking เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยทั้งสองโมเดลนี้ใช้เทคนิคการคิดเชิงเหตุผลที่ใกล้เคียงกับโมเดล o1 ของ OpenAI
Rahul Sonwalkar ซีอีโอของ Julius AI กล่าวถึงความเร็วในการพัฒนา AI โมเดลเหล่านี้ว่า “น่าทึ่งที่ AI พัฒนาได้เร็วขนาดนี้ โมเดลที่ใช้เวลาสร้างนานและมีค่าใช้จ่ายสูง กลับถูกทำให้กลายเป็นสินค้าทั่วไปในเวลาไม่กี่เดือน”
ค่าใช้จ่ายในการใช้โมเดล AI ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดคำถามว่า การลงทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์ในการสร้างโมเดลใหม่ยังคุ้มค่าอยู่หรือไม่
โมเดล o1 ของ OpenAI ใช้เทคนิคที่เรียกว่า inference-time compute โดยการแบ่งคำถามซับซ้อนออกเป็นงานย่อย และแก้ไขทีละขั้นตอน โมเดลจะย้อนกลับไปตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาด ซึ่งคล้ายกับการคิดเชิงตรรกะของมนุษย์
ในเดือนพฤศจิกายน DeepSeek เปิดตัวโดยแล็บ AI จากจีน และสามารถแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ Charlie Snell นักวิจัยจาก UC Berkeley กล่าวว่ารูปแบบการทำงานของ DeepSeek คล้ายกับ o1 แต่ต่างกันตรงที่ DeepSeek แสดงทุกขั้นตอนการคิดให้ผู้ใช้งานเห็น
Google เปิดตัว Gemini 2.0 Flash Thinking ซึ่งใช้วิธีการคิดที่แบ่งเป็นขั้นตอนและแสดงผลการคิดให้ผู้ใช้เห็น Jeff Dean นักวิจัย AI จาก Google กล่าวว่า โมเดลนี้ถูกฝึกให้ใช้ “การคิด” (Thinking) เพื่อเสริมสร้างเหตุผลและแก้ปัญหาซับซ้อนได้ดีขึ้น
การแข่งขันนี้สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรม AI ที่ไม่มีใครหยุดนิ่งได้
โฆษณา