21 ธ.ค. 2024 เวลา 05:46 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ความผันผวนของค่าเงินอาจเป็น 'จุดอ่อน' ของตลาดในปี 2025

KKR เตือนว่า ปี 2025 อาจถูกครอบงำโดยความผันผวนของค่าเงิน (currency volatility) ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับฐานของตลาดอย่างรุนแรง
▶️ปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินผันผวน
1. สงครามการค้า (Trade Wars): ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศอาจสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดเงิน
2. ความไม่แน่นอนทางการคลัง (Fiscal Instability): หนี้สาธารณะที่สูงอาจทำให้ค่าเงินของประเทศนั้น ๆ อ่อนค่าลง
3. ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Tensions): เหตุการณ์ระดับโลก เช่น ความขัดแย้งระหว่างประเทศ อาจทำให้ค่าเงินเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน
KKR กล่าวว่าความไม่เสถียรเหล่านี้อาจทำให้ตลาดเกิดความผันผวนคล้ายกับช่วงปี 1994-2000 โดยเฉพาะในปี 1998 ที่ตลาดถูกกระทบจากวิกฤตค่าเงินรัสเซีย (Russian Financial Crisis) และ การล่มสลายของ Long-Term Capital Management (LTCM) กองทุนเฮดจ์ฟันด์ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบใช้เลเวอเรจสูง (borrowed money) เพื่อเก็งกำไรในตราสารหนี้และสกุลเงินทั่วโลก
LTCM มีเลเวอเรจสูงถึง 25-30 เท่า ของทุนที่มีอยู่ เมื่อค่าเงินรัสเซียตกต่ำอย่างรุนแรง กองทุนขาดทุนอย่างหนักและเกือบล้มละลาย
▶️ตัวอย่างปัจจุบัน
ตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ของ Brazil สั่นสะเทือนจากการที่ค่าเงิน real อ่อนค่าลงอย่างหนัก สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น
▶️ทำไมค่าเงินอ่อนค่าจึงส่งผลต่อหนี้สาธารณะ?
เมื่อค่าเงินของประเทศใดประเทศหนึ่ง อ่อนค่าลง (เช่น ค่าเงิน real ของ Brazil) จะส่งผลโดยตรงต่อหนี้สาธารณะ โดยเฉพาะหนี้ที่ถูกกู้ในสกุลเงินต่างประเทศ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD) หรือยูโร (EUR)
▶️แนวโน้มและกลยุทธ์
แม้จะมีความผันผวน แต่ KKR ยังคงมองบวกต่อตลาด โดยคาดว่าดัชนี S&P 500 จะอยู่ที่ 6,850 ภายในสิ้นปี 2025 และอาจพุ่งถึง 7,500 ในปี 2026
KKR แนะนำให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยงโดยเน้นหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (mega-cap tech) ควบคู่ไปกับหุ้นวัฏจักร (cyclical) รวมถึงหุ้นขนาดกลางและเล็ก เพื่อรับมือกับความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โฆษณา