Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วรภพ วิริยะโรจน์
•
ติดตาม
21 ธ.ค. 2024 เวลา 14:55 • การเมือง
[ การรับซื้อไฟฟ้า 3,600 MW จะทำให้ค่าไฟแพงขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น และ นายกรัฐมนตรี .. (ต่อ)
[ การรับซื้อไฟฟ้า 3,600 MW จะทำให้ค่าไฟแพงขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น และ นายกรัฐมนตรี คือ คนเดียวที่จะหยุด หรือ เดินหน้าขบวนการค่าไฟแพงนี้ ]
ขอขยายความจากที่มีการพูดถึงเพิ่มเติม สำหรับ การรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน 3,600 MW ที่ กกพ. พึ่งประกาศเอกชนที่ได้คัดเลือกไปเมื่อ 16 ธ.ค. และกำหนดให้มีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 14 วัน
1.ราคาที่รัฐรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน 3,600 MW จะทำให้ค่าไฟประชาชน “แพงกว่าที่ควรจะเป็น” จากการที่ “ไม่ได้เปิดประมูล”
ถ้าเทียบ ราคาที่รับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียนรอบ 3,600 MW นี้ จากแสงอาทิตย์ อยู่ที่ 2.2 บาท/หน่วย ถูกกว่า ค่าไฟปัจจุบันที่ 4.2 บาท/หน่วย นั้นถูกต้องครับ
แต่ การรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียนรอบนี้ ทางผมยังมองว่า “แพงกว่าที่ควร” เพราะ ราคาไฟฟ้า ที่รัฐรับซื้อควรจะ “เปิดประมูล” เพราะ ทุกราคาที่รัฐรับซื้อจะเป็นต้นทุนค่าไฟของประชาชนทั้งหมด และสาเหตุที่ ค่าไฟแสงอาทิตย์ที่รัฐรับซื้อ 2.2 บาท/หน่วยนี้ แพงกว่าที่ควร เพราะ
1.1 เป็นราคาเดียวกับที่ประกาศรับซื้อไว้เมื่อรอบ 5,200 MW ปี 2565 ซึ่ง เป็นที่ทราบกันดีว่า ต้นทุนไฟฟ้าแสงอาทิตย์มีต้นทุนที่ถูกลงทุกปีมาตลอดในอดีต และ การรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียนทั้งรอบ 5,200 MW และ 3,600 MW เป็นการรับซื้อไฟฟ้าที่ โรงไฟฟ้าจะทยอยสร้างเสร็จตั้งแต่ ปี 2567 - 2573 แต่ ราคาที่รับซื้อเป็นราคาเดียวกันหมด ซึ่งโรงไฟฟ้าที่สร้างทีหลัง มีความได้เปรียบที่จะมีต้นทุนที่ถูกกว่าราคาที่รัฐประกาศรับซื้อไว้อย่างแน่นอน
1.2 การรับซื้อรอบ 5,200 MW ปี 2565 มีเอกชนยื่นเสนอโครงการสูงถึง 17,000 MW หรือ 3.3 เท่าของที่ประกาศรับซื้อ แสดงถึงเป็นราคารับซื้อที่กำไรดีสำหรับเอกชน แต่ย่อมหมายถึงต้นทุนค่าไฟที่แพงสำหรับประชาชนได้ ดังนั้น “การประมูลแข่งขัน” คือ กระบวนการที่จะมั่นใจได้ว่า เป็นต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เหมาะสมที่สุดทั้งเอกชนและประชาชน
2. นโยบายที่รัฐรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน 3,600 MW นั้น เป็นนโยบายพลังงานสะอาดที่ไม่มีความเหมาะสม และจะทำให้ค่าไฟประชาชนแพงขึ้นได้โดยไม่จำเป็น เพราะ “ซ้ำซ้อน” กับ นโยบาย Direct PPA 2,000 MW ของรัฐบาล
การเพิ่มพลังงานสะอาดในประเทศไทยนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เป็นเงื่อนไขที่เอกชนที่ต้องการจะลงทุนในไทย และ ที่ลงทุนในไทยอยู่แล้วต้องการ เพราะ นโยบายธุรกิจของเอกชนกลุ่มนี้คือต้องการใช้พลังงานสะอาด 100% หรือ เรียกว่า RE100
แต่รัฐบาลนี้ ก็พึ่งประกาศเปิดเสรีพลังงานสะอาด หรือ Direct PPA 2,000 MW เมื่อเดือน มิ.ย. 67 ซึ่งเป็นสิ่งที่เอกชน RE100 กลุ่มนี้ต้องการไปแล้ว คือ เปิดให้ผู้ผลิตไฟฟ้าะสะอาดและผู้ซื้อไฟฟ้าสะอาด สามารถตกลงซื้อขายไฟฟ้าสะอาดได้โดยตรง และ เช่าระบบสายส่งของการไฟฟ้าได้ และ Direct PPA นี้ จะไม่ทำให้เพิ่มค่าไฟประชาชนเลย เพราะ เป็นเรื่องที่เอกชนที่ต้องการซื้อและขายพลังงานสะอาด ต้องไปตกลงและแข่งขันกันเอง
แต่การที่รัฐรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน 3,600 MW นี้ จะยิ่งซ้ำเติมการที่รัฐรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนจำนวนมากเกินกว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด (เพราะเอกชนที่ต้องการไฟสะอาดไปซื้อจาก Direct PPA แล้ว) และจะ กลายมาเป็นต้นทุนค่าไฟฟ้าประชาชนที่แพงขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น
3. นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีอำนาจเต็มในการเปลี่ยนแปลง ระงับการรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน 3,600 MW หรือ จะปล่อยให้เดินหน้าไปสู่การลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
การประกาศรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน 3,600 MW ของ กกพ. เมื่อ ก.ย. 2567 ระบุชัดเจนว่าเป็นการรับซื้อตาม มติ กพช. มี.ค. 2566 (และ มติ กบง. ก.ค. 2567) การรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียนรอบ 3,600 MW (และทุกครั้งที่รัฐจะรับซื้อไฟฟ้า) ต้องมีมติอนุมัติในระดับ “นโยบาย” จาก กพช. ก่อน และ เป็นมติ กพช. ที่กำหนดอัตรารับซื้อไฟฟ้าไว้เลย (คือ ไม่ให้เปิดประมูล)
และตามประกาศ กกพ. เมื่อ ก.ย. 2567 ยืนยันชัดเจนว่า กกพ. ขอสงวนสิทธิ ยกเลิกโครงการการรับซื้อเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง “นโยบาย” ภาครัฐ แต่ต้องก่อนการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ก็ยืนยันชัดเจนว่า กพช.ที่นายกฯ เป็นประธาน มีอำนาจเต็มในการเปลี่ยนแปลงนโยบาย เพื่อระงับ หรือ ปล่อยให้เดินหน้าการรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียนรอบ 3,600 MW
และ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้จัดประชุม กพช. เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2567 ไปแล้ว แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มติ กพช. ในการรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน ก็คือ การปล่อยให้การรับซื้อไฟฟ้าเดินหน้า จนมาถึงวันที่ 16 ธ.ค. 2567 ที่ กกพ. ประกาศเอกชนที่ได้รับคัดเลือก จำนวน 2,100 MW และ กำหนดให้ลงนามในสัญญาซ์้อขายไฟฟ้า ภายใน 14 วัน (กลุ่ม 1) และ 60 วัน (กลุ่ม 2)
ดังนั้น ถ้าการรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน 3,600 MW รอบนี้ แม้จะเป็นนโยบายที่ริเริ่มจาก รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ และ แม้แต่ รมว.พลังงานยังยอมรับว่ามีปัญหาจริง แต่ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ที่มีอำนาจเต็มในการระงับยับยั้ง กลับปล่อยให้เดินหน้าไปถึงการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว
โดยสรุป ก็คือ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้อนุมัติให้สานต่อขบวนการค่าไฟแพงนี้ไปแล้ว แต่เพราะอะไร ไม่สามารถทราบได้ เพราะ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้มาตอบกระทู้สดและจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคำชี้แจงใดๆ ถึงเหตุผลที่เดินหน้าการรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน 3,600 MW ครั้งนี้
อ้างอิง
https://www.erc.or.th/th/power-purchasing3/3122
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย