21 ธ.ค. เวลา 15:27 • กีฬา
Anfield

Liverpool ในยุคของ Arne Slot

อาร์เน่อ สล็อต โค้ชที่ถูกตั้งคำถามว่าจะสานงานต่อจาก เจอร์เกน คล็อปป์ อดีตผู้จัดการทีมผู้ยิ่งใหญ่ได้หรือไม่ แต่ในเวลานี้ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูลกำลังเดินหน้าไปได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ อะไรทำให้ลิเวอร์พูลในยุค อาร์เน่อ สล็อตสามารถสร้างมาตรฐานที่ดีให้กับลิเวอร์พูลได้ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน ไปดูกัน
1. การทำประตูได้หลากหลายรูปแบบ
รูปแบบที่ 1 คือ การสร้างโอกาสด้วย ‘ความดุดัน’ (Aggressive)
โดยที่เมื่อตัดบอลได้แล้ว บรรดาตัวรุกของลิเวอร์พูลทุกคนก็พุ่งเข้าใส่กรอบเขตโทษของทันทีทำให้สถานการณ์กลายเป็นการ Overload ของแนวรุกลิเวอร์พูลที่ได้เปรียบ ซึ่งด้วย ‘คุณภาพ’ ของผู้เล่นแล้ว สถานการณ์แบบนี้มีโอกาสที่จะได้ประตูสูง
รูปแบบที่ 2 จะแตกต่างจากแบบแรกในทางตรงกันข้ามนั่นคือ การเล่นแบบ ‘อดทน’ (Patient)
ในแบบ Aggressive นั้นพวกเขาจะบดบี้ขยี้ใส่ด้วยความรวดเร็ว ตัดบอลได้ โถมใส่ทันที แต่ในรูปแบบที่ 2 ลิเวอร์พูลจะเล่นอย่างอดทน เพื่อหาช่องจู่โจมที่ดีที่สุดแทน
2. ห้องเครื่องที่ไม่มีทีมไหนหยุดได้
ในฤดูกาล 2022/23 ปัญหาใหญ่ที่ทำให้ลิเวอร์พูลพังพาบคือแดนกลาง ซึ่งทำให้ในฤดูกาลต่อมา ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายของคล็อปป์ มีการแก้ไขปัญหาด้วยการซื้อกองกลางเข้ามารวดเดียวถึง 4 คนด้วยกัน
คนที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดคือ ไรอัน กราเฟนแบร์ก กองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่ซื้อมาจากบาเยิร์น มิวนิก โดยแม้จะเริ่มต้นได้ดี แต่เล่นไปเล่นมาเหมือนจะกลายเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ยังไม่สามารถปรับตัวได้ดีเท่าที่ควร
แต่การมาถึงของ อาร์เน สลอต และการพลาดตัว มาร์ติน ซูบิเมนดี กลายเป็นโอกาสของ ไรอัน กราเฟนแบร์ก เมื่อบอสคนใหม่ให้โอกาสลองเล่นในบทกองกลางตัวรับคู่กับแม็ค อัลลิสเตอร์ และกลายเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่อย่างน่ามหัศจรรย์ และด้วยร่างกายที่สูงใหญ่ มีความเร็ว และขายาว อีกทั้งยังครองบอลได้ดี ทำให้กราเฟนแบร์กสามารถพาบอลทะลุขึ้นหน้าได้ สร้างจังหวะ Transition Play ให้ทีมได้ด้วยตัวคนเดียว
และลิเวอร์พูลยังมีแม็ค อัลลิสเตอร์ ที่นอกจากจะเข้าตัดบอลได้อย่างดุดันแล้ว ความสามารถที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างหนึ่งของกองกลางระดับแชมป์โลกก็คือ การเปิดบอลที่สามารถส่งบอลให้เพื่อนได้อย่างแม่นยำและหลากหลาย
3. ความยืดหยุ่น
ในยุคของ เจอร์เกน คล็อปป์ เป็นที่รู้กันว่าลิเวอร์พูลเป็นทีมที่จะเล่นแบบเดียวเท่านั้นนั่นคือ การเปิดฉากบุกถล่มคู่ต่อสู้ทุกทีมด้วยรูปแบบและวิธีการแบบเดิมๆ ด้วยความเชื่อมั่นว่าความสามารถเฉพาะตัวและทีมเวิร์กจะจัดการคู่แข่งได้
แต่ในยุคนี้ของ อาร์เน สลอต ลิเวอร์พูลกลายเป็นทีมที่ดูจะเล่นได้หลากหลายวิธียกตัวอย่างในเกมกับเชลซี ซึ่งทีมของ เอ็นโซ มาเรสกา กำลังมาแรงและมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ในภาพรวมแล้วทีมจากลอนดอนทำได้เหนือกว่าในเรื่องของการต่อสู้ทางแท็กติก
แต่ลิเวอร์พูลของสลอตมีการปรับเปลี่ยนวิธีการอย่างเงียบๆ โดยสถิติที่น่าสนใจในเกมดังกล่าวคือ การเปิดบอลยาว (Long Pass) จากค่าเฉลี่ย 40 ครั้งต่อเกม (พรีเมียร์ลีก) ที่ผ่านมา ในเกมที่แอนฟิลด์นักเตะหงส์แดงหันมาวางบอลยาวถึง 61 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยมากพอสมควร
นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะพยายามมองหารูปแบบและวิธีการที่จะเล่นงานคู่แข่งให้ได้ไม่ว่าจะต้องเจอกับใครก็ตาม โดยไม่ยึดติดว่าจะต้องเล่นในแบบเดียวเสมอไป
แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ยังมีบททดสอบอีกเยอะแยะมากมายที่ อาร์เน สลอต ต้องเจอ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ กรอบ และอ่อนล้าบ้างแล้ว
อย่างไรก็ดี ปฏิเสธไม่ได้ว่าลิเวอร์พูลยุคใหม่นี้มีความน่าสนใจและน่าจับตามองอย่างยิ่ง
โฆษณา