“สมการหยุดยิงในกาซา” โดยดึง “ซาอุดิอาระเบีย” เข้ามามีส่วนร่วม
ตามข้อมูลของ ซีมัวร์ เฮิร์ช
“ซีมัวร์ เฮิร์ช” นักข่าวอเมริกันรุ่นเก๋าเจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ ผู้เปิดโปงเหตุการณ์สำคัญต่างๆในอดีตและอัพเดทในปัจจุบัน โด่งดังจากการเปิดโปงเรื่อง “การก่อวินาศกรรมท่อก๊าซนอร์ดสตรีมของอเมริกา” ได้ลงบทความล่าสุดของเขาบน Substack เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2024 ชื่อว่า “THE NEW CEASEFIRE EQUATION”
บทความนี้เนื้อหาแบบเต็มได้ถูกล็อคไว้เฉพาะผู้ที่ใช้งานแบบจ่ายเงินบนแพลตฟอร์ม Substack อย่างไรก็ตามทางเพจได้อ่านและสรุปประเด็นสำคัญจากทั้งบทความของเฮิร์ชฉบับดังกล่าวไว้ดังนี้
เครดิตภาพ: OMERSUKRUGOKSU/iStock
เมื่อไม่นานนี้มีการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาสอีกครั้งที่กาตาร์ ซึ่งตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ โดยมีเรื่องใหม่ที่พูดถึงคือ การดึงซาอุดิอาระเบียให้เข้ามามีส่วนร่วมในระยะยาว โดยอาศัยเงินทุนของซาอุดิอาระเบียอยู่ในแผนการฟื้นฟูฉนวนกาซา นอกนั้นก็เรื่องเดิมๆ คือการจัดตั้งสองรัฐ ซึ่งเนทันยาฮูกับพวกฝ่ายขวาอิสราเอลยันหัวชนฝาไม่เห็นด้วยมานานแล้ว
แล้วจะทำไงให้ซาอุฯ มาช่วยได้ ก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน ซาอุดิอาระเบียจะได้รับสนธิสัญญาด้านความมั่นคงที่ขยายขอบเขตจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะทำให้ซาอุดิอาระเบียรวมอยู่ในเขตคุ้มครองนิวเคลียร์ของตน ในกรณีที่อิหร่านซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิสราเอลเกิดผลิตระเบิดนิวเคลียร์ ความกลัวที่ว่าอิหร่านซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีความสามารถในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้ถึงระดับใช้เป็นอาวุธได้ อาจตัดสินใจทำเช่นนั้นตามความเชื่อของอเมริกาและอิสราเอล แต่มันก็ยังไม่มีหลักฐานที่เชื่อว่าอิหร่านจะทำได้ในเร็ววัน
ตามที่เฮิร์ชได้ยินจากแหล่งข่าววงในด้านเจรจาของอิสราเอล ข้อตกลงที่คุยกันนั้นโดยมีเงื่อนไขคือ ซาอุดิอาระเบียจะอนุญาตให้อิสราเอลสามารถเข้าถึงสนามบินภายในพรมแดนซาอุดิอาระเบียได้ ซึ่งจะทำให้ระเบิดของอิสราเอลซึ่งส่วนใหญ่จัดหาโดยสหรัฐ สามารถไปถึงเป้าหมายสำคัญของอิหร่านได้ภายในไม่กี่นาที ไม่ใช่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ทว่าเรื่องนี้เฮิร์ชคิดว่าอาจจะเกิดได้ยากหรือไม่อาจเกิดขึ้น
การเจรจาที่ประสบความสำเร็จเพียงครั้งเดียวเกิดขึ้นในพฤศจิกายน 2023 เมื่อมีการหยุดยิงเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ตัวประกัน 105 คนถูกส่งตัวกลับ และนักโทษชาวปาเลสไตน์ 240 คนได้รับการปล่อยตัวจากคุกในอิสราเอล หลังจากนั้นการเจรจาทั้งหมดไม่ได้ผลอะไรเลย โมฮัมเหม็ด ซินวาร์ พี่ชายของยาห์ยา ซินวาร์ อดีตผู้นำฮามาสซึ่งถูกสังหารไม่ได้มีส่วนร่วมในการเจรจาครั้งนี้ และเชื่อว่าเขายังคงอยู่ในอุโมงค์ใต้ฉนวนกาซา ตามที่เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าว
อิสราเอลและซาอุดิอาระเบียกำลังคืบหน้าในการเจรจาเรื่อง “การตั้งถิ่นฐานใหม่ในฉนวนกาซา” และมีความหวังว่าจะมีข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนระยะยาวของซาอุดิอาระเบียในการสร้างฉนวนกาซาขึ้นใหม่ เมื่อสงครามกับฮามาสยุติลง อิสราเอลกล่าวว่าเป้าหมายในทันทีอย่างหนึ่งคือ “การเดินหน้าสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้อยู่ในสถานะปกติ” ซึ่งจะต้องเกี่ยวข้องกับการตกลงของอิสราเอลว่า “จะให้มีตัวแทนของทางการปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาที่สร้างขึ้นใหม่”
“ไม่มีวี่แววขององค์การบริหารปาเลสไตน์ (PA) ที่ถูกจัดระเบียบใหม่ในแผนฟื้นฟูกาซา” ซึ่งนับเป็นความล้มเหลวของข้อตกลงออสโลปี 1993 ที่เรียกร้องให้มีแนวทางสองรัฐ ขณะนี้มีการหารือถึงชื่อบางชื่อที่อาจเป็นผู้นำของหน่วยงานใหม่ในฉนวนกาซา หากได้รับการอนุมัติจากซาอุดิอาระเบียและกลุ่มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ประเด็นที่ซับซ้อนประการหนึ่งเกี่ยวข้องกับอนาคตของกาซาตอนเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางประชากรหลักของอิสราเอลมากที่สุด และอยู่ในระยะโจมตีของขีปนาวุธหลายลูก ซึ่งชาวปาเลสไตน์หลายแสนคนถูกกองกำลังป้องกันอิสราเอลขับไล่ไปให้ทางใต้เพื่อเปลี่ยนตอนเหนือของกาซาให้เป็นเขตยิงฟรี (ไม่แยกแยะระหว่างทหารและพลเรือน)
ในขณะที่มีการต่อสู้ทางการเมืองอย่างดุเดือดภายในอิสราเอล โดยกลุ่มขวาจัดยืนกรานว่ากาซาเหนือควรเปิดกว้างสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอล ในขณะเดียวกันผู้นำอิสราเอลอยู่ภายใต้แรงกดดันจากซาอุดิอาระเบียไม่ให้มอบกาซาเหนือให้กับพวกตั้งถิ่นฐานชาวยิว
แหล่งข่าวในอิสราเอลกล่าวว่าอนาคตของกาซาเหนือยังคงไม่แน่นอน และซาอุดิอาระเบียซึ่งยังหวังจะฟื้นฟูกาซาเหนือขึ้นใหม่ในขณะนี้ได้เตือนทุกฝ่ายว่าจะใช้เวลาห้าถึงเจ็ดปีในการสร้างกาซาใหม่ให้เสร็จสิ้น และด้วยเหตุนี้จึงได้ถามว่า “จะรีบเร่งไปทำไม” เพื่อตัดสินชะตากรรมของกาซาเหนือ
แรงผลักดันหลักเบื้องหลังการเจรจาครั้งใหม่นี้มาจากแรงกดดันจากทั้งสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง และจากทรัมป์ที่ต้องการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและแก้ไขปัญหาตัวประกันโดยเร็ว เพราะได้รับคำเตือนหรือคำขู่ว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น เว้นแต่ตัวประกันจะได้รับการปล่อยตัวก่อนที่ทรัมป์จะได้รับตำแหน่งในเดือนหน้า
ถ้าทรัมป์ผลักดันข้อตกลงดังกล่าวและซาอุดิอาระเบียก็ยินดีจะจ่ายเงิน ใครล่ะที่สามารถปฏิเสธได้
ทรัมป์จะไม่ยอมให้วอชิงตัน “สร้างร่มคุ้มภัยนิวเคลียร์” จนกว่าซาอุดิอาระเบียจะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอิสราเอล ผู้เล่นคนสำคัญคนหนึ่งในการเจรจาครั้งนี้ซึ่งเห็นได้ชัดว่ายากลำบากก็คือ ไมเคิล วอลทซ์ อดีต ส.ส.ฝ่ายรีพับลิกันจากฟลอริดาซึ่งจะขึ้นมาเป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ส่วนรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ ผู้สนับสนุนอิสราเอลซึ่งคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในนโยบายต่างประเทศจะเข้าร่วมด้วย
ปัญหาอีกประการหนึ่งเกิดจากความเป็นปฏิปักษ์กันมายาวนานระหว่างซาอุดิอาระเบียและผู้สนับสนุนกลุ่มภราดรภาพมุสลิม เช่น กาตาร์ “ซาอุดิอาระเบียต้องการให้กาตาร์อยู่ห่างจากปัญหาปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา”
โศกนาฏกรรมคือแม้ว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการเมืองกับฮามาสและผู้สนับสนุนในการปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดและยุติสงครามได้ แต่ก็จะสายเกินไปสำหรับหญิงและเด็กที่ต้องทนทุกข์ทรมานในฉนวนกาซา และสำหรับตัวประกันจำนวนมากที่เสียชีวิตในสภาพที่เลวร้ายในการถูกกักขังโดยกลุ่มฮามาส ผลการเลือกตั้งของทรัมป์เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความหวังแม้เพียงเล็กน้อยสำหรับสันติภาพในฉนวนกาซา ซึ่งถือเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของรัฐบาลไบเดน
นี่คือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่อาจเป็นจุดจบของกลุ่มฮามาสในฐานะเครื่องมือสงคราม ผู้นำชุดใหม่ของกลุ่มควรยอมรับความจริงว่าการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลใน เลบานอน ซีเรีย และอิหร่านเมื่อไม่นานนี้ทำให้ตะวันออกกลางกลับมาคึกคักอีกครั้ง และทำให้กลุ่มฮามาสมีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่เคยให้การช่วยเหลือกลุ่มนี้เพียงเล็กน้อย แม้แต่ในกาตาร์ก็ตาม การประชุมกับอิสราเอลครั้งต่อไปจะต้องเผชิญกับการตัดสินใจทางการเมืองเกี่ยวกับตัวประกันและการเอาตัวรอด
อ้างอิงบทความฉบับล่าสุดของ “ซีมัวร์ เฮิร์ช” ที่ชื่อว่า “THE NEW CEASEFIRE EQUATION” ได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้
เรียบเรียงโดย Right Style
21st Dec 2024
- ■แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: Illustrated by Newsweek/Getty Images/AP>
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
