มือใหม่อยากเริ่มลงทุนในหุ้นอเมริกาดูตรงนี้ S&P500 และ NASDAQ ต่างยังไง? และเลือกยังไงดี?
สำหรับมือใหม่ที่พึ่งเปิดพอร์ตมาแล้วอยากเริ่มลงทุนในหุ้นอเมริกา การซื้อ ETF ที่ลงทุนในดัชนีก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุน ที่เราจะสามารถลงทุนได้ทั้งตลาดโดยไม่ต้องวิเคราะห์หุ้นรายตัว
S&P500 และ NASDAQ เป็นดัชนีคู่หูที่ทั่วโลกนิยม แต่ดัชนี 2 ตัวนี้แตกต่างกันอย่างไร และเราควรจะเลือกลงทุนยังไง มาดูกัน
✅️ S&P 500
เป็นดัชนีที่ประกอบด้วย บริษัทชั้นนำ 500 แห่งที่หลากหลายครอบคลุมทั้งเทคโนโลยี การเงิน สุขภาพ พลังงาน ตัวอย่างเช่น Apple, Microsoft, Berkshire Hathaway, Johnson & Johnson โดยผลตอบแทนเฉลี่ย 10 ปี ย้อนหลังอยู่ในระดับเฉลี่ย 10.2% ต่อปี (ข้อมูลจาก Nasdaq)
การลงทุนใน S&P500 มีข้อดีที่ มีการกระจายความเสี่ยงไปในบริษัทและอุตสาหกรรมที่หลากหลาย สามารถสร้างความมั่งคั่งระยะยาว แต่การเติบโตอาจจะไม่หวือหวาเมื่อเทียบกับ NASDAQ เพราะในแต่ละปีจะมีอุตสาหกรรมที่เติบโตและไม่เติบโตผสมๆกันไป
✅️ NASDAQ Composite
เป็นดัชนีที่ประกอบด้วยหุ้นเทคโนโลยีกว่า 50% ซึ่งก็เป็นหุ้นที่เราคุ้นเคยและใช้กันอยู่ทุกวันอย่างเช่น Alphabet (Google), Meta (Facebook) หรือเป็นหุ้นที่เราได้ยินข่าวบ่อยๆอย่าง Tesla ของคุณพี่ อีลอน มัสก์และ Nvidia ที่หัวเรือใหญ่เขาพึ่งมาที่เมืองไทยนี่เอง โดยผลตอบแทน 10 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 13.8% ต่อปี (ข้อมูลจาก Nasdaq)
การลงทุนใน NASDAQ จึงมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่า และลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆอย่าง AI, Cloud Computing, EV แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ ความเสี่ยงสูงเนื่องจากเน้นในอุตสาหกรรมเดียวและมีโอกาสผันผวนสูงในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี
👉 ETF ที่อ้างอิง S&P500 และ NASDAQ มีอะไรบ้าง
📌SPY (SPDR S&P 500 ETF)
ETF แรกในโลก มีความน่าเชื่อถือสูง
ค่าธรรมเนียม: 0.095% ต่อปี
📌 VOO (Vanguard S&P 500 ETF):
เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะค่าธรรมเนียมถูกกว่า
ค่าธรรมเนียม: 0.03% ต่อปี
🔥 QQQ (Invesco QQQ):
ETF ที่อ้างอิงดัชนี Nasdaq 100
ค่าธรรมเนียม: 0.20% ต่อปี
🔥TQQQ (ProShares UltraPro QQQ):
ETF ที่อ้างอิง Nasdaq 100 แต่ใช้ Leverage 3 เท่า
ค่าธรรมเนียม: 0.95% ต่อปี
จริงๆยังมีกองทุนเยอะกว่านี้ แค่ยกตัวอย่างเฉยๆ
✅️ ตัวอย่างการจัดพอร์ต ETF
เนื่องจาก NASDAQ มีความหวือหวามากกว่า S&P500 หากเราต้องการลงทุนโดยมีเป้าหมายเกษียณอาจจะพิจารณาลงทุนใน S&P500 ในสัดส่วนที่สูงกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่การพิจารณาเรื่องการรับความเสี่ยงของแต่ละคน เพราะไม่ว่าอย่างำรก็ตาม การลงทุนใน 2 ดัชนีนี้ก็ถือว่าลงทุนในความเสี่ยงสูง (บทความนี้จะแสดงตัวอย่างเท่านั้น) เช่น
จัดพอร์ตระยะยาวเพื่อการเกษียณของคนอายุ 25 ปี
70% ลงใน ETF S&P500
20% ลงใน ETF NASDAQ
10% ลงใน ตราสารหนี้
ใช้การทยอยซื้อแบบ DCA ทุกเดือน
อย่าลืมว่าการลงทุนในหุ้นหรือ ETF นั้น มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นเราควรพิจารณาวัตถุประสงค์ และความเสี่ยงที่คุณรับได้ก่อนการลงทุนทุกครั้ง รวมถึงศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด
===================
ต้าร์ - กวิน สุวรรณตระกูล
นักเขียนด้านการเงินการลงทุน เพจ Tarkawin
===================
#aomMONEY #MakeRichGeneration #การเงินการลงทุน #แนวทางการเงิน #มือใหม่ลงทุน #ETF #SP500 #NASDAQ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
