23 ธ.ค. เวลา 01:42 • ความคิดเห็น
เรื่องราวที่สรรพสิ่งในโลกนั้น เวลาเราได้ยินได้ฟัง แหม..มันเคลิบเคลิ้ม มันเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้น ปรุงแต่ง ที่ว่า ..โลกนั้นให้อารมณ์ กายนั้นเป็นของโลก มีอารมณ์ต่างเกิดขึ้นมากมาย แล้วจิตนั่นก็ยึด ..ยึดในสิ่งที่ เค้าเรียกว่า กามาวจร รูปรสกลิ่นเสียง สัมผัสต่างๆ ที่เกิดมาเป็นอารมณ์ ..มีการบันทึกสะสมอารมณ์ลงไปที่ธาตุุทั้งสี่ พอศึกษา ลึกลงไป ..ที่เค้าว่า ตัวรู้ .รู้สรรพสิ่ง ..โอ้ว ..ตัวรู้นี่แหละ ..รู้ไปหมด ..แต่ไม่มีปัญญา ที่จะแก้ไข ..สลัดละทิ้ง ..หลงตัวหลงตน ว่า จิตข้านี้ ..มีธรรม ..หลงธรรมไปเสียอีก .
ยุคสมัยนี้ ..มันจึงมีเรื่องราวของผู้ที่หลง..หลงว่าตนเองมีธรรม เข้าถึงธรรม ไปค้นคว้าตำรับต่าราต่างๆ .แล้วก็ใช้อารมณ์กรรมของตนเอง นำมาถกเถียง วิพากษ์วิจารณ์ อย่างนั้นอย่าง ..เกิดในสิ่งที่เค้าว่า ความวุ่นวาย .มันสวนทางกับผู้ที่ที่ท่านแนะนำสอนให้ ..ให้สร้างบุญกุศลบารมี ..ยุติการเกิด ..แต่นี่ ..เดียวไอ่นั้นไอนี้เกิดขึ้น เรื่องนั้นเรื่องนี้วุ่นวาย .มีแต่กรรมที่เกิด . มีอะไรบ้างที่จะยุติกรรมนำเกิดได้บ้าง .
เราได้ยินได้ฟังมา เรื่องของพระอรหันต์ ท่านอยู่ป่า ..ท่านก็นั่งนิ่งเฉย ทำกายนิ่งจิตเฉย .ท่านบอกให้ฝึกหัด .ว่าชาตินี้ ไม่ต้องทำอะไรมาก ฝึกหัด ทำกายนิ่ง จิตนิ่ง ไม่มีอารมณ์นึกคิดอะไร .แต่ปัญหา ที่เกิดขึ้น ..ที่ทำกายนิ่งไม่ได้ เพราะกายนั่นมีแต่กรรม สะสมกายวาจาใจเป็นเนื้อนากรรม ..เนื่องด้วยยึดถืออารมณ์โลภโกรธหลง
เค้าจึงแนะนำ ให้นำกายที่จิตนั้นอาศัยอยู่ นำกายนี้ กายพ่อแม่ธาตุนะโม ให่มีความกตัญญูรู้คุณในธาตุนะโม ..นำมาสร้างบุญกุศล ..พยายามทำกายนี้ให้เป็นกายบุญ เมื่อกายบุญเกิดขึ้น มีสิ่งที่เค้าเรียกว่า เนื้อนาบุญเกิดขึ้น ก็สามารถนำกายบุญนั้น มาประพฤติปฏิบัติธรรม ทำให้กายนิ่งจิตนิ่งได้ นั่นจึงเป็นเรื่องราวที่นำพาจิต เข้าไปหาธรรม ..เกิดเป็นปัญญาธรรม รู้จักโลก รู้จักธรรม
.ธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านฝากไว้กับดินฟ้าอากาศ ..พระสิทธัตถะท่านก็ทำกายนิ่ง จิตนิ่ง ..จนบรรลุธรรม ท่านก็แนะนำสาวกของท่านให้กระทำ ..เรามาเรียนรู้..ตามรอยของท่าน เราก็เอามั่ง นอบน้อมฝึกหัด ให้กายนิ่ง จิตนิ่ง ..มีพระท่านบอกว่า กายนิ่ง จิตนิ่ง แสงของธรรม ก็ส่องลงมา สู่จิต . จิตมีแต่อารมณ์กรรม ธรรมที่ไหนจะส่องลงมา จิตมีแต่อยากได้ อยากเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ..ธรรมที่ไหน..จะสอนให้ ..
โฆษณา