Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Weatherreport
•
ติดตาม
23 ธ.ค. 2024 เวลา 12:27 • การ์ตูน
รีวิวอนิเมะ “Re : Zero Re : Life in a difference world from zero หรือรีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤตต่างโลก”
“ชั้นเป็นผู้ชายพรรค์นี้ไงเล่า ทั้งๆ ที่ไม่มีพลัง แต่กลับหวังสูง ทั้งๆ ที่ไม่มีสมองแต่กลับเอาแต่เพ้อฝัน ทั้งๆ ที่ไม่มีเรื่องที่ทำได้แต่กลับดิ้นรนอย่างเปล่าประโยชน์ ชั้นน่ะเกลียดตัวเองที่สุดเลย ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ดีแต่พูด ทั้งๆ ที่ทำอะไรไม่ได้แต่กลับอวดดี ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เรื่องบ่นกลับไม่เป็นรองใคร…
ความไร้ความสามารถและไร้พลังในทุกสิ่งอย่างของชั้น เป็นสาเหตุของสันดานอันเน่าเฟะของชั้นนี่ไง ไม่ได้ทำอะไรแท้ๆ แต่อยากจะให้มันสำเร็จ…สันดานของชั้นที่ขี้ขลาด สกปรก ใจปลาซิว ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย” นี่คือความคิดเห็นต่อตัวเองที่สึบารุพระเอกของเรื่องแสดงไว้ใน ss 1 ตอนที่ 10 director's cut version
ซึ่งเมื่อผมดูไปเรื่อยๆ แล้วก็เห็นว่าพระเอกเรื่องนี้เป็นอย่างนั้นจริงๆ ทำให้ประสบการณ์การดูครั้งแรกของผมแย่มาก รู้สึกไม่ชอบ ดูไม่จบ ss 1 ก็หยุดดู รู้สึกพระเอกตายซ้ำตายซาก ย้อนกลับมาจุดเซฟมากไป ย้อนกลับมาบางครั้งก็ไม่ใช้หัวคิด ทั้งที่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า แต่แก้ไขไม่ถูกจังหวะ ทำให้การกระทำของคนอื่นเปลี่ยนไป เหตุการณ์แย่กว่าเดิม
สุบารุร้องไห้ ภาพจาก Pinterest
พระเอกร้องไห้บ่อย วิ่งหนีปัญหา พูดจาไร้สาระบ่อย พูดไม่คิด ก็เข้าใจคนเขียนบทอยู่ว่าอยากให้แตกต่าง อยากให้ดูสมจริงกับการที่คนถูกอัญเชิญไปต่างโลกเจอเรื่องราววัฒนธรรมแปลกใหม่ ต้องใช้เวลาปรับตัว ซึ่งฉบับไลท์โนเวลผู้แต่งนิยายก็เขียนบรรยายตัวละครสุบารุอย่างคร่าวๆ ไว้ว่า “เด็กหนุ่มมัธยมปลายซึ่งถูกอัญเชิญมายังต่างโลกอย่างกะทันหัน ไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถพิเศษ ไม่มีพละกำลังมากมาย ไม่มีความยั้งคิด มีตั้งสี่ไม่ แต่ก็ยังเป็นตัวเอกของรื่อง“
หลังจากหยุดดูไป เมื่อเห็นข่าวว่าเรื่องนี้ได้รับกระแสตอบที่ญี่ปุ่นดีมาก และปัจจุบันมีถึง ss 3 แล้ว เลยฝืนกลั้นใจกลับมาดูอีกครั้ง ก็ปรากฏว่ายังรำคาญในความเป็นพระเอกเหมือนเดิม ต้องให้ตัวละครอื่นคอยเตือนสติอยู่ตลอด
แต่ระหว่างดูรอบนี้เริ่มทำความเข้าใจตัวละครมากขึ้นว่า สุบารุยังอายุ 17 ปี เรียนมัธยมปลาย ประสบการณ์ใช้ชีวิตไม่มากเพราะเป็นพวกนีทที่อยู่บ้านซะส่วนใหญ่ เจอปัญหาก็ร้องไห้บ้าง ลองผิดลองถูกบ้าง มีการคิดวิเคราะห์สาเหตุการตายอย่างตรงไปตรงมา
ผู้แต่งคงไม่ต้องการทำให้พระเอกดูฉลาดเกินไป มีการแสดงถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนที่กดดันตัวเองเกินไปจนไม่เป็นธรรมชาติ แต่ยังไงก็อดเปรียบเทียบกับตัวเราเองหรือคนทั่วไปในขณะที่มีอายุเท่ากับสุบารุไม่ได้ หากตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ผมก็ว่าวิญญูชนทั่วไปเขาจะไม่ผิดพลาดและโวยวายไม่ใช้สมองขนาดนี้
ตัวอย่างง่ายๆ จากตัวละครในอนิเมะเลย เรมและแรมอายุไล่เลี่ยกับสุบารุ และเกิดมามีปมเจอเรื่องโหดร้ายในตอนเด็ก แต่โตมาก็ยังมีความคิดอ่านดีกว่าสุบารุ ดูตัวอย่างความคิดอ่านที่เป็นผู้ใหญ่ของเรมได้ใน SS 1 ตอนที่ 10
สุบารุสิ้นหวัง ภาพจาก Pinterest
จนปัจจุบันผมก็ยังไม่ชอบนิสัยสุบารุอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นการดื้อด้านดันทุรังบุกเข้าสู้ทั้งที่ตัวเองไม่มีความสามารถ และไม่มีการใช้สมองวางแผน เพราะคิดว่าถึงยังไงตายแล้วก็มาเกิดใหม่ได้อยู่ดี จะมีแค่บางฉากที่อยู่ๆ ผู้แต่งก็ให้มีหัวคิดขึ้นมาซะงั้น
การไม่ฝึกฝนให้ตัวเองเก่งขึ้นทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าในต่างโลกที่ตัวเองมามีแต่คนเก่ง และถ้าอยากปกป้องคนที่ตัวเองรักจะต้องแกร่งขึ้น มี ss 3 ตอนที่ 1 นี่แหละที่เผยให้เห็นว่าสุบารุเริ่มฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรงขึ้นมาบ้าง แต่ก็เหมือนฝึกปีนป่ายผ่านด่านเข้าค่ายลูกเสือมากกว่า
การกระทำของสุบารุมันทำให้หลายฉากดูแล้วน่าสมเพชอย่างที่ตัวละครหลายตัวพูดถึงสุบารุและสุบารุก็พูดถึงตัวเองเช่นนั้นด้วย พอเจอเรื่องที่เกินกำลังตัวเองไม่สามารถแก้ไขได้ ใช้อารมณ์โวยวาย อาศัยแต่ว่าจะใช้ความจริงใจเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่น มันไม่ได้อารมณ์ของพระเอกที่ไม่ยอมแพ้พยายามฝึกฝนให้ตัวเองเก่งเหมือนเรื่องอื่นๆ
สุบารุสติแตก ภาพจาก Pinterest
และการกระทำหลายครั้งที่ทำไปโดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมาเอาความมันส์ในอารมณ์ของตัวเองอย่างเดียวว่าอยากทำนู่นทำนี่ในต่างโลก อยากพูดอะไรก็พูด อยากทำอะไรก็ทำ ทำให้เกิดผลเสียกับคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าทำเพื่อคนอื่น อย่างที่สุบารุพูดกับเอมิเลียว่า “ชั้นก็แค่อยากทำอะไรสักอย่างเพื่อเธอ เลยทำแบบนั้น“ และเอมิเลียตอบว่า “เพื่อชั้นงั้นเหรอ เพื่อตัวเองไม่ใช่เหรอ”
ไรน์ฮาร์ด
และยังมีตอนที่ฟิวส์ขาดพูดจาแย่ๆ ใส่เอมิเลีย ทวงบุญคุณ ทำให้รู้ซึ้งถึงนิสัยลึกๆ ที่แท้จริงของสุบารุ จะมาอ้างว่าอายุ 17 ทนกับแรงกดดันมหาศาลของการตายซ้ำตายซากในต่างโลกได้มาขนาดนี้ก็ถือว่าดีแล้ว มันไม่ใช่อะ คนอายุ 17 ที่มีวุฒิภาวะมากกว่านี้ มีหัวคิดพร้อมรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายก็มี สมควรจะถูกนำมาถ่ายทอดในมุมมองความเป็นพระเอกมากกว่า (ส่วนตัวอยากให้ไรน์ฮาร์ดเป็นพระเอกมากกว่า 555)
การคิดว่าตัวเองสำคัญ หากอยู่ด้วยในสถานการณ์ที่เลวร้ายของคนอื่นก็จะสามารถช่วยเหลือคนเหล่านั้นได้ ทั้งที่ตัวเองไม่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้น โดนหลายคนดูถูกแต่ก็ไม่คิดจะแก้ไขปรับปรุงนิสัยหรือความสามารถตัวเอง มีแต่จะคิดด่าเหน็บแนมเขากลับไป
ฉากเหล่านี้ไม่ได้มีครั้งเดียวที่จะทำให้พอคิดได้ว่ามันเป็นธรรมดาที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นบ้างให้เป็นสีสัน แต่มันมีมากซะจนอยากจะเปลี่ยนเรื่องดูจึงทำให้หลายต่อหลายคนไม่ชอบพระเอกเรื่องนี้สุดๆ (ตามหาอ่านในพันทิปได้)
ด่าพระเอกมาเยอะ สรุปคือ ถ้าเปลี่ยนตัวพระเอกได้จะทำให้เรื่องนี้สนุกขึ้นเยอะ และมีคนไม่ชอบน้อยลง เพราะเนื้อเรื่องดี ตัวละครอื่นก็มีบุคลิกเป็นเอกลักษณ์น่าติดตาม ความคิดของตัวละคร คำพูดการกระทำของคนอื่นที่ไม่ใช่พระเอกดูลงตัวหมด
ดังนั้นความสนุกและน่าติดตามของเรื่องมันไม่ได้อยู่ที่พระเอกครับ ให้เราคิดซะว่าสุบารุมันเป็นตัวประกอบที่ช่วยดำเนินเรื่องราวไปแล้วกัน เนื้อเรื่องมีความแฟนตาซีมีมังกร เวทมนต์ แม่มด อัศวิน คำสาป ซึ่งดูเหมือนจะเหมาะกับการให้เด็กดูได้ แต่ก็มีฉากการตายที่สยดสยอง และด้วยความงี่เง่าของพระเอกเยอะเกินไป แถมไม่เก่งอะไรเลยเด็กก็อาจจะเลิกดูไปตั้งแต่ตอนแรกๆ แล้ว
รอสวาล ภาพจาก Pinterest
บทการสนทนาบางครั้งมีการจิกกัดที่มีสไตล์ อาจเป็นเพราะเรื่องนี้มีต้นฉบับเป็นนิยายที่มีการพิถีพิถันในบทพูดอยู่แล้ว ชอบวิธีการพูดของรอสวาล การพูดลากเสียงที่เป็นเสียงพากย์ญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์มาก อยากให้มีฉากรอสวาลพูดบ่อยๆ
มีเหตุการณ์มาสอดแทรกในการเล่าเรื่องได้อย่างดี เนื้อเรื่องน่าสนใจมาก ทิ้งปมปริศนาให้น่าติดตามสุดๆ ฉากต่อสู้แม้จะมีไม่มากแต่ดูมีการวางแผน ไม่ได้ปล่อยพลังกันอย่างเดียว แถมการเคลื่อนไหวและใช้พลังทำได้ดีมาก รู้สึกฉากสู้มันส์ดี ภาพสวยสะใจ ฉากสู้กับศัตรู ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ที่มีความเก่งกาจเหนือมนุษย์ สัตว์ประหลาด หรือลัทธิแม่มดทำได้หดหู่ดีมาก ดูไม่มีความหวังในการเอาชนะดี ดนตรีประกอบตอนพระเอกหวนคืนจากความตายก็ทำได้ดี ให้อารมณ์ความรู้สึกลี้ลับจากพลังอำนาจของแม่มด
มีอีเวนท์แปลกใหม่มาให้เห็นสำหรับการตายแต่ละครั้ง เหมือนเล่นเกมแล้วได้เห็นเผตุการณ์หลายแบบขึ้นอยู่กับการเลือกของเรา
สุบารุ และเรม ภาพจาก Pinterest
ส่วนนางเอกของเรื่องนั้น แรมเคยเตือนพระเอกเกี่ยวกับคำถามเชิงจิตวิทยาที่ให้เลือกระหว่างการเป็นเพื่อนกับยักษ์แดงและยักษ์ฟ้าว่า การที่สุบารุเลือกทั้งสองแสดงว่าเป็นคนหลายใจไม่เด็ดขาด สักวันจะเสียใจ ซึ่งก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าสุดท้ายสุบารุจะคู่กับเอมิเลียหรือเรม หรือจะไม่ได้คู่กับใครเลย (มีหลายคนเชียร์ให้คู่กับเรมมากกว่า เพราะคิดว่าสุบารุไม่คู่ควรกับเอมิเลีย และนิสัยดูเข้ากับเรมมากกว่า)
เอมิเลีย ภาพจาก Pinterest
เรื่องนี้หลังๆ สุบารุเริ่มนิสัยดีมากขึ้น เห็นใจคนอื่น ไม่คิดถึงแต่ตัวเองอย่างเดียว รู้จักใช้หัวคิดแก้ไขสถานการณ์มากขึ้น เหมือนนำพระเอกมาสอนการใช้ชีวิตที่ต่างโลกแบบ zero to hero ถ้าเป็นโลกจริงทำนิสัยแบบนี้ พูดจาแย่ๆ ใส่คนอื่น จัดการอารมณ์ตัวเองไม่ได้แบบนี้ รักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างไม่ได้ คงมีแต่คนเกลียด และไม่มีโอกาสย้อนกลับมาแก้ไขหรอก
เนื้อเรื่องใน ss 2 ทำให้เข้าใจพระเอกมากขึ้น ว่าเขาต้องการได้รับการยอมรับจากสังคม เปรียบเทียบตัวเองกับพ่อ และรู้สึกตัวเองด้อยกว่า
แม่มด และสุบารุ ภาพจาก Pinterest
บททดสอบของแม่มดใน ss 2 สอนให้รู้ว่าคนเรามักยึดติดกับอดีต ควรรู้จักปล่อยวาง ยอมรับอดีตของตนเอง
การเล่าเกี่ยวกับปูมหลังของตัวละครแต่ละคนว่าทำไมมีนิสัยและบุคลิกแบบที่เห็นปัจจุบันนั้นทำได้ดี โดยเฉพาะที่มาของเพเทลกิอุสสุดมาก ดูแล้วจุกเลย
โดยรวมแล้ว เนื้องเรื่องสนุกมาก เซอร์ไพรส์แทบทุกตอน ผมคิดว่าคำคมที่น่าจะนำมาใช้กับพระเอกเรื่องนี้ได้ คือ F.E.A.R = Forget everything and run or Face everything and rise. เพราะแต่ละเหตุการณ์เหมือนเป็นบดทดสอบว่าจะสู้ต่อหรือยอมแพ้
เอมิอลีย และพัค ภาพจาก Pinterest
ผู้แต่งนำบาป 7 ประการ (seven deadly sins) ซึ่งเป็นหลักคำสอนของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค มาเป็นตัวแทนของแม่มดทั้งเจ็ด ทำให้เชื่อมโยงถึงความคิดและการกระทำของมนุษย์ คอยย้ำเตือนไม่ให้มนุษย์ทำตามสัญชาตญาณตนเองมากเกินไป
ปัจจุบันอนิเมะมีถึง ss 3 สังเกตเห็นว่าวาดหูของตัวละครมีมิติมากขึ้น มีเสียงพากย์ไทยที่ฟังแล้วไม่คุ้นหูเลย บางตัวก็ดูเข้ากันดี แต่บางตัวอย่างรอสวาล รู้สึกเสียงญี่ปุ่นเป็นเอกลักษณ์มากกว่ามีเสน่ห์กว่าฉากที่มีเพลงพอร้องพากย์ไทยดูไม่เข้าสุดๆ ไม่ควรพากย์ไทยนะฉากร้องเพลงเนี่ย
ไรน์ฮาร์ด ภาพจาก Pinterest
ปล.ถ้าเปลี่ยนพระเอกเป็นไรน์ฮาร์ดจะให้เต็ม แต่นี่เป็นสุบารุเลยให้คะแนนเรื่องนี้ 4 ดาว ⭐️⭐️⭐️⭐️
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย