วันนี้ เวลา 04:09 • หนังสือ

เปลี่ยนคนขี้ลืมเป็นสุดยอดโฟกัส : Hyperfocus สุดยอดเทคนิคจัดการสมาธิ ทำงานได้เท่า 3 เท่าใน 1 วัน

ในยุคที่ความวุ่นวายและสิ่งเร้ารอบตัวมีมากมาย Chris Bailey นักเขียนและนักวิจัยด้านประสิทธิภาพการทำงาน ได้นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจผ่านหนังสือ Hyperfocus ซึ่งรวบรวมผลการศึกษาและงานวิจัยเกี่ยวกับการบริหารจัดการความใส่ใจของมนุษย์
ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า มนุษย์ใช้เวลาเกือบครึ่งหนึ่งของชีวิต หรือประมาณ 47 เปอร์เซ็นต์ไปกับภาวะจิตใจที่วอกแวก ไม่จดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ตรงหน้า
ความไม่มีสมาธินี้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม Bailey เชื่อว่าทุกคนสามารถพัฒนาความสามารถในการโฟกัสได้ หากเข้าใจกลไกการทำงานของจิตใจและฝึกฝนอย่างถูกวิธี
การพัฒนาเรื่องโฟกัสเริ่มต้นได้จากการสังเกตตนเอง เมื่อใดที่เราสามารถรับรู้ได้ว่าจิตใจกำลังวอกแวก และสามารถดึงความสนใจกลับมาสู่สิ่งที่กำลังทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชีวิตของเราจะเริ่มเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการสนทนา เมื่อผู้ฟังให้ความสนใจกับคู่สนทนาอย่างเต็มที่ ไม่ปล่อยให้ความคิดวอกแวกไปคิดว่าจะพูดอะไรต่อ หรือคิดเรื่องอื่นๆ คู่สนทนาจะรู้สึกถึงการรับฟังอย่างตั้งใจและความเอาใจใส่ที่แท้จริง ซึ่งจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในยามจำเป็น
ในด้านการทำงาน การจดจ่อกับงานอย่างเต็มที่โดยไม่ปล่อยให้สิ่งรบกวนมาทำลายสมาธิ จะช่วยให้เราสามารถทำงานได้มากกว่าที่เพื่อนร่วมงานทำได้ในหนึ่งวัน Bailey กล่าวว่า การตัดสินใจที่สำคัญที่สุดในแต่ละวันคือการเลือกว่าจะให้ความสนใจกับอะไร และรักษาความสนใจนั้นไว้ให้ได้
สภาวะ Hyperfocus เป็นจุดสูงสุดของการจดจ่อ เกิดขึ้นเมื่อเราทุ่มเทความสนใจทั้งหมดให้กับเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่งเป็นเวลาต่อเนื่องนานกว่าสองถึงสามนาที ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การสนทนา การออกกำลังกาย การอ่านหนังสือ หรือการเรียนรู้ผ่านสื่อต่างๆ
ในการฝึกฝนเพื่อเข้าสู่สภาวะ Hyperfocus จำเป็นต้องเข้าใจว่าการรักษาสมาธิเปรียบเสมือนการเล่นเกมที่ต้องอาศัยการฝึกฝนและความอดทน เมื่อเริ่มต้นฝึก ผู้ฝึกอาจรู้สึกท้อแท้เมื่อจิตใจวอกแวกบ่อยครั้ง แต่นี่เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน สิ่งสำคัญคือการไม่ตำหนิตัวเอง และค่อยๆ ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
การฝึกฝน Hyperfocus เริ่มต้นจากการเลือกเป้าหมายที่ชัดเจน โดย Bailey แนะนำให้พิจารณาเป้าหมายที่มีผลลัพธ์ต่อเนื่องในสามระดับ ยกตัวอย่างเช่น การเขียนหนังสือ ระดับแรกคือการเขียนร่างแรกของบทให้สำเร็จ ระดับที่สองคือการสร้างผลกระทบต่อชีวิตของผู้อ่าน และระดับที่สามคือการสร้างการบอกต่อแบบปากต่อปากจากผู้อ่านที่ได้รับประโยชน์
การฝึกจดจ่อความสนใจสามารถทำได้ด้วยการจินตนาการถึงวงกลมสองวง วงแรกเป็นวงกลมสีเขียวทึบที่แทนเป้าหมาย อีกวงเป็นเส้นประที่แทนพื้นที่ความสนใจของเรา เป้าหมายคือการเคลื่อนวงกลมความสนใจให้ทับซ้อนกับวงกลมเป้าหมายอย่างสมบูรณ์ การฝึกฝนเช่นนี้จะช่วยให้จิตใจมีความแข็งแกร่งและจดจ่อได้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การรักษาสมาธิให้จดจ่อนั้นมีความท้าทายจากปัจจัยหลายประการ ประการแรกคือสิ่งรบกวนจากภายนอก เช่น เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือ ไอคอนแอปพลิเคชันต่างๆ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่ความไม่เป็นระเบียบของสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้เราอยากจัดการ
1
ประการที่สองคือสิ่งรบกวนจากภายใน เช่น ความคิดเกี่ยวกับงานค้าง บุคคลที่ต้องติดต่อ หรือปัญหาที่รอการแก้ไข และประการสุดท้ายคือระดับการกระตุ้นของจิตใจที่อาจมาจากการเพิ่งใช้สื่อสังคมออนไลน์หรือการอ่านข่าวสารมาก่อนหน้า
ก่อนเข้าสู่สภาวะ Hyperfocus Bailey แนะนำให้ฝึกสมาธิอย่างง่ายอย่างน้อยหนึ่งนาที โดยเลือกจุดเล็กๆ บนผนัง หน้าจอ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย จากนั้นให้จดจ่อความสนใจทั้งหมดไปที่จุดนั้น หากจิตใจวอกแวกไปคิดเรื่องอื่น ให้ค่อยๆ ดึงกลับมาที่จุดเดิม
1
การฝึกฝนที่มีประสิทธิภาพไม่ได้หมายถึงการบังคับจิตใจให้จดจ่อตลอดเวลา แต่ต้องรู้จักสลับระหว่างช่วงเวลาของการจดจ่ออย่างเข้มข้น (Hyperfocus) กับช่วงเวลาของการปล่อยให้จิตใจพักผ่อน (Scatter Focus) อย่างเหมาะสม
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรอยู่ในสภาวะ Hyperfocus นานเกิน 90 นาที และควรสลับด้วยช่วง Scatter Focus ประมาณ 15-30 นาที เพื่อฟื้นฟูความสามารถในการจดจ่อ
ในช่วง Scatter Focus เราสามารถทำกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้ความคิดมาก เช่น การพับผ้า การเดินเล่น ฯลฯ การปล่อยให้จิตใจล่องลอยอย่างมีสติในช่วงนี้จะช่วยให้สมองได้ประมวลผลข้อมูลและเชื่อมโยงความคิดต่างๆ อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นฝึกฝน Bailey แนะนำให้ตั้งนาฬิกาเตือนทุกชั่วโมง เมื่อได้ยินเสียงเตือน ให้ตรวจสอบว่าจิตใจกำลังล่องลอยโดยไม่ตั้งใจหรือไม่ หากพบว่าเป็นเช่นนั้น ให้ค่อยๆ ดึงความสนใจกลับมาสู่งานที่กำลังทำอยู่
ผลลัพธ์ของการฝึกฝนการควบคุมความใส่ใจอย่างต่อเนื่องจะปรากฏในหลายด้าน ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน และการพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้อื่น
หากเราสามารถควบคุมความใส่ใจได้ดีมักจะประสบความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ และมีความสุขในการใช้ชีวิตมากกว่าผู้ที่ปล่อยให้จิตใจวอกแวกไปตามสิ่งเร้ารอบตัว
หนังสือ Hyperfocus ของ Chris Bailey นับเป็นคู่มือที่เจ๋งมาก ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานและคุณภาพชีวิต ด้วยการรวบรวมงานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับการโฟกัสและความใส่ใจ มานำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้วิธีการควบคุมจิตใจและใช้เวลาในแต่ละวันอย่างมีคุณค่า ทั้งในสภาวะ Hyperfocus และ Scatter Focus เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาวได้นั่นเองครับผม
References :
หนังสือ Hyperfocus: How to Be More Productive in a World of Distraction โดย Chris Bailey
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
The original article appeared here https://www.tharadhol.com/hyperfocus-book/
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา