แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทีมงานจากภาคแรกทั้งหมด(ยกเว้นผู้พากย์เสียง) แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ Moana 2 ไขว้เขวแต่อย่างใด ประเด็นสำคัญของเรื่องตั้งแต่ภาคแรกที่เน้นย้ำในเรื่องของการค้นหาตัวตนและวิถีของชีวิต ที่ถูกเสนอผ่านเพลง “Know Who You Are (เธอคือใคร)” และ “We Know the Way (จำทางขึ้นใจ)” ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ต้องฝ่าฝันบททดสอบเสียก่อน จึงเป็นที่มาของเพลงหลักของเรื่องอย่าง “How Far I’ll Go (ห่างเพียงใด)” ทั้งหมดล้วนเป็นสาระสำคัญที่ Moana ในภาคแรกนำเสนอเอาไว้ และมันถูกต่อยอดให้กว้างขึ้นอย่างชัดเจน
Moana 2 (2024)
โดยหากเพลง How Far I’ll Go เป็นเพลงหลักของภาคแรก ในคราวนี้ก็มี “Beyond (ไกลโพ้น)” เป็นตัวชูโรงเหมือนกัน โดยจะสังเกตได้ว่าตัวดนตรีมีความหนักแน่นและเด็ดเดี่ยวมากขึ้น อันเป็นการแสดงถึงพัฒนาการของโมอาน่าที่โตขึ้นรวมถึงภารกิจที่หนักอึ้งมากขึ้นในภาคนี้ เช่นเดียวกับมาวอิที่พัฒนาขึ้น ไม่ได้เป็นพวกขี้แพ้เอาแต่หนีเหมือนเดิมอีกแล้ว พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีกับเพลงประจำตัวของเขาอย่าง “Can I Get a Chee Hoo? (ขอได้ไหมอะชีฮู่)” ที่ถูกเล่นในช่วงที่หน้าสิ่งหน้าขวานของเรื่องเพื่อปลุกขวัญให้กำลังใจโมอาน่า
ในท้ายที่สุด We Know the Way ดังขึ้นอีกครั้งเพื่อตอบคำถามนี้ หลังจากโมอาน่าได้รับการยกย่องว่าเป็นนักสัญจรที่ได้รับเลือกจากมหาสมุทรและฝ่าอุปสรรคสุดโหดหินมากมาย ความหมายของเพลงนี้จึงเป็นตัวแทนถึงพัฒนาการของโมอาน่าและของอนิเมชั่นทั้งสองภาคได้อย่างถูกต้องชัดเจนที่สุด...
...นอกจากนี้เพลงอื่นๆ ทั้ง “What Could Be Better Than This? (เรื่องใดจะยอดไปกว่านี้)” ที่มีการแทรกการแร็ปเข้ามาเพิ่มลูกเล่น หรือ “Get Lost (กล้าหลง)” เพลงของตัวละครที่น่าจะมีบทบาทในอนาคตอย่าง “มาทันกิ” (พากย์โดย Awhimai Fraser/พริมาภา กรโรจนชวิน) ต่างก็มีเสน่ห์ชวนให้หาฟังซ้ำอย่างไม่รอช้า รวมถึงเพลงอื่นๆ ที่มีกลิ่นอายดนตรีของชาวโพลินีเซียนอันสดชื่นก็ดีงามเช่นกัน