24 ธ.ค. 2024 เวลา 11:28 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

รีวิว Moana2 - การตอกย้ำวิถีแห่งท้องทะเลกับก้าวต่อไปของโมอาน่าที่ท้าทายและยิ่งใหญ่มากขึ้นเป็นเท่าตัว

ถัดจาก Frozen 2 ในปี 2019 ก็เป็นคิวของ “เจ้าหญิงแห่งหมู่เกาะทะเลใต้” อย่าง “โมอาน่า” (พากย์โดย Auli’i Cravalho/มณีภัสสร มอลลอย) ที่ได้มีภาคต่อเกิดขึ้น ซึ่งหากนับในหมู่มวลเจ้าหญิงดิสนีย์แล้ว Moana เป็นเรื่องที่สองที่ได้มีภาคต่อถัดจาก Frozen 2 และเมื่อมองย้อนกลับไปยังภาคแรกในปี 2016 ที่ทิ้งช่วงกันนานถึง 8 ปีเลยทีเดียว ก็ถือว่าเป็นระยะเวลาอันพอเหมาะพอเจาะสำหรับการผจญภัยครั้งใหม่ของโมอาน่า
Moana 2 (2024)
น่าสนใจตรงที่หลังจากโมอาน่าค้นพบตัวตนและปลดปล่อยคำสาปด้วยการนำ “หัวใจแห่งเทฟิติ” (Te Fiti's heart) กลับไปคืนได้สำเร็จในภาคแรก เรื่องราวใน Moana 2 มีการขยายเรื่องราวออกไปในแบบที่ไม่ใช่การเพิ่มเข้ามาใหม่ แต่เป็นการสานต่อเรื่องราวการเดินทางของโมอาน่า ที่ได้กลาย "ทาวไท" หรือผู้นำทางแห่งท้องทะเลของเกาะ “โมทูนุย” (Motunui) เพื่อตามหาคำถามสำคัญที่ยังไม่ได้ตอบในภาคแรกว่า นอกจากพวกเขาแล้วมนุษย์คนอื่นๆ อยู่ที่ไหน?
Moana 2 (2024)
เมื่อภารกิจใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว โมอาน่าก็ย่อมต้องการเพื่อนร่วมทางที่มากขึ้น จากในภาคแรกที่มีแค่เจ้าไก่ซื่อบื้ออย่าง “เฮย์เฮย์” ติดไปแค่ตัวเดียวแบบเหงาๆ คราวนี้โมอาน่ามีเพื่อนร่วมทางให้อุ่นใจมากขึ้น? ทั้งโมนี (พากย์โดย Hualalai Chung/ปณิธาน จวงครุฑ) หนุ่มนักวาดภาพเนิร์ดตำนานชาวเกาะ เคเล (พากย์โดย David Fane/บุญชนะ โชควิชาโกศล) เกษตรกรเฒ่าไม่เอาไหน และโลโท (พากย์โดย โรส มาทาฟิโอ, Rose Matafeo/สายทิพย์ วิวัฒนปฐพี) สาวนักประดิษฐ์สุดเฟื่อง แถมด้วยเจ้าหมู “พัว” ของกินเล่นอัพเกรด...
...และแน่นอนว่าจะขาด “มาวอิ” (Dwayne Johnson/อรรคพล ทรัพยอาจิณ) ลูกครึ่งเทพผู้ทำได้เกือบทุกอย่างไปไม่ได้เด็ดขาด
Moana 2 (2024)
สังเกตได้ว่า Moana 2 มีการพัฒนาประเด็นที่คล้ายคลึงกับ Frozen 2 โดยเริ่มจากความขัดแย้งในตัวละครจากภาคแรกที่ดูเหมือนจะจบลงด้วยดีแล้ว แต่มีบางแง่มุมที่ถูกนำมาขยายเป็นความขัดแย้งระดับสังคมที่ไม่ได้มีผลเพียงแค่เหล่าตัวละครเอก แต่มันหมายถึง ผู้คน ชาวเมือง และชาติพันธุ์ ซึ่งใน Moana 2 คือการตามหาเพื่อนร่วมโลกและตั้งคำถามถึงการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์ ที่เป็นประเด็นใหญ่และกว้างกว่าเนื้อหาสำหรับ “การ์ตูนเด็ก” ไปไกลโขเลย
Moana 2 (2024)
แต่ใช่แล้ว นี่คือการ์ตูนดิสนีย์ที่เติมคำว่าเจ้าหญิงเข้าไปเป็น “การ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์” แน่นอนว่าพื้นฐานของกลุ่มผู้ชมก็ยังเป็นลูกเล็กเด็กแดงไปจนถึงวัยรุ่นตอนต้น ที่เป็นวัยใกล้เคียงตัวละครเอกอย่างโมอาน่า ดังนั้น ทุกอย่างจึงถูกเคลือบไว้ด้วยความเป็นแฟนตาซี มีเส้นเรื่องที่ชัดเจนจับต้องได้ มีการไกด์ให้อยู่ตลอดว่า ใคร ต้องทำอะไร ไปที่ไหน และอย่างไร มันจึงเป็นเหมือนลูกกวาดรสซีซอลท์คาราเมลที่กินได้ทุกเพศทุกวัย(สำหรับวัยเด็กอาจจะอร่อยกว่า แต่ก็ใช่ว่าผู้ใหญ่จะลิ้นด้านไม่รู้รสซะเมื่อไหร่)
Moana 2 (2024)
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทีมงานจากภาคแรกทั้งหมด(ยกเว้นผู้พากย์เสียง) แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ Moana 2 ไขว้เขวแต่อย่างใด ประเด็นสำคัญของเรื่องตั้งแต่ภาคแรกที่เน้นย้ำในเรื่องของการค้นหาตัวตนและวิถีของชีวิต ที่ถูกเสนอผ่านเพลง “Know Who You Are (เธอคือใคร)” และ “We Know the Way (จำทางขึ้นใจ)” ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ต้องฝ่าฝันบททดสอบเสียก่อน จึงเป็นที่มาของเพลงหลักของเรื่องอย่าง “How Far I’ll Go (ห่างเพียงใด)” ทั้งหมดล้วนเป็นสาระสำคัญที่ Moana ในภาคแรกนำเสนอเอาไว้ และมันถูกต่อยอดให้กว้างขึ้นอย่างชัดเจน
Moana 2 (2024)
โดยหากเพลง How Far I’ll Go เป็นเพลงหลักของภาคแรก ในคราวนี้ก็มี “Beyond (ไกลโพ้น)” เป็นตัวชูโรงเหมือนกัน โดยจะสังเกตได้ว่าตัวดนตรีมีความหนักแน่นและเด็ดเดี่ยวมากขึ้น อันเป็นการแสดงถึงพัฒนาการของโมอาน่าที่โตขึ้นรวมถึงภารกิจที่หนักอึ้งมากขึ้นในภาคนี้ เช่นเดียวกับมาวอิที่พัฒนาขึ้น ไม่ได้เป็นพวกขี้แพ้เอาแต่หนีเหมือนเดิมอีกแล้ว พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีกับเพลงประจำตัวของเขาอย่าง “Can I Get a Chee Hoo? (ขอได้ไหมอะชีฮู่)” ที่ถูกเล่นในช่วงที่หน้าสิ่งหน้าขวานของเรื่องเพื่อปลุกขวัญให้กำลังใจโมอาน่า
Moana 2 (2024)
เพลงติดหูอีกเพลงอย่าง “We Know the Way (จำทางขึ้นใจ)” ถูกใช้ในช่วงท้ายสุดของเรื่อง นอกจากเสียงประสานอันไพเราะที่ร้องว่า “Aue Aue” ในภาษา Tokelauan ของชาวโพลินีเซียน (Polynesia) ซึ่งเป็นที่มาของธีมเรื่องแล้ว ความพิเศษของเพลงนี้ คือ มันถูกใช้ในภาคแรกถึง 2 ครั้ง ประมาณเกือบถึงกลางเรื่องและช่วงท้ายสุด(เช่นเดียวกับภาคนี้) เพื่อตอกย้ำว่าต้นบรรพบุรุษของโมอาน่าเคยเป็นนักสัญจรก่อนจะมาตั้งรกรากที่โมทูนุย และบอกให้โมอาน่าออกเดินทาง แต่คำถามที่ทิ้งเอาไว้ คือ ออกเดินทางไปไหนกัน?
Moana 2 (2024)
ในท้ายที่สุด We Know the Way ดังขึ้นอีกครั้งเพื่อตอบคำถามนี้ หลังจากโมอาน่าได้รับการยกย่องว่าเป็นนักสัญจรที่ได้รับเลือกจากมหาสมุทรและฝ่าอุปสรรคสุดโหดหินมากมาย ความหมายของเพลงนี้จึงเป็นตัวแทนถึงพัฒนาการของโมอาน่าและของอนิเมชั่นทั้งสองภาคได้อย่างถูกต้องชัดเจนที่สุด...
...นอกจากนี้เพลงอื่นๆ ทั้ง “What Could Be Better Than This? (เรื่องใดจะยอดไปกว่านี้)” ที่มีการแทรกการแร็ปเข้ามาเพิ่มลูกเล่น หรือ “Get Lost (กล้าหลง)” เพลงของตัวละครที่น่าจะมีบทบาทในอนาคตอย่าง “มาทันกิ” (พากย์โดย Awhimai Fraser/พริมาภา กรโรจนชวิน) ต่างก็มีเสน่ห์ชวนให้หาฟังซ้ำอย่างไม่รอช้า รวมถึงเพลงอื่นๆ ที่มีกลิ่นอายดนตรีของชาวโพลินีเซียนอันสดชื่นก็ดีงามเช่นกัน
Moana 2 (2024)
การเดินทางของโมอาน่าสอดคล้องกับเรื่องเล่าของชาวโพลินีเซียน เมื่อพวกเขาจำเป็นต้องอพยพเคลื่อนย้ายไปตั้งถิ่นฐานบนเกาะใหม่ สิ่งที่จำเป็นจะถูกนำขึ้นไปบนเรือ ได้แก่ ผักผลไม้ เมล็ดพันธุ์ ต้นอ่อนเพื่อการเพาะปลูก หมูและไก่ในฐานะปศุสัตว์ โดยเมื่อตั้งถิ่นฐานแล้ว พวกเขาก็เรียนรู้การทำเกษตรกรรม การสร้างเครื่องปั้นดินเผา การสร้างเรือแคนู (Canoe) ที่มีขนาดใหญ่...
...การทำแผนที่เดินเรือ การใช้ทักษะในการสังเกตดวงดาวและกระแสน้ำเพื่อใช้ในการนำทางขณะเดินเรือ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ชาวโพลินีเซียนสามารถเดินทางอพยพไปตั้งถิ่นฐานตามเกาะต่าง ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกได้สำเร็จ สิ่งเหล่านี้ล้วนถูกสอดแทรกอยู่ใน Moana ทั้งสองภาคอย่างเด่นชัด
Moana 2 (2024)
เดิมทีโปรเจคภาคต่อนี้จะถูกสร้างเพื่อฉายใน Disney+ แต่จนแล้วจนรอดก็ได้พัฒนาจนกลายเป็นภาพยนตร์ฉบับฉายโรง ซึ่งเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าแน่ๆ เพราะความอลังการด้านภาพ แสงและเงาของทัศนียภาพท้องฟ้า ท้องทะเล และเกลียวคลื่น ความแฟนตาซีของเรื่องราว ฉากแอคชั่นของโมอาน่าที่น่าจะบู๊ในระดับเดียวกับอเวนเจอร์แล้ว พร้อมๆ กับได้ฟังเพลงประกอบทั้งหลายอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าหญิงดิสนีย์ มันควรเป็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นบนจอภาพยนตร์จึงจะสมฐานะจริงๆ
Moana 2 (2024)
Story Decoder
โฆษณา