Tech Trends 2025 ส่อง 3 บทบาท AI ผู้ช่วยอัจฉริยะของภาคธุรกิจ
หากคุณคิดว่าความสามารถในการทำตามคำสั่งของ ‘Generative AI’ น่าทึ่งแล้ว ปี 2025 ที่ใกล้จะถึงนี้ เตรียมลบภาพ AI แบบเดิมๆ ไปได้เลย เพราะ “Agentic AI” จะกลายเป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่เข้ามาปฏิวัติวงการธุรกิจและอุตสาหกรรมในหลายมิติ
🧠 “Agentic AI” คือระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ประกอบไปด้วยหลายเทคโนโลยีทำงานร่วมกัน เช่น Machine Learning (ML) และ Natural Language Processing (NLP) เพื่อให้ AI ทำงานได้อย่างอิสระ มีความสามารถในการตัดสินใจ และวางแผนได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ จึงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากกับการทำงานในระบบอัตโนมัติ โดยในอนาคตเทคโนโลยีนี้กำลังจะเข้ามามีบทบาท มีส่วนในการยกระดับธุรกิจให้เปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบไหนได้บ้าง ไปดูกัน!
🤳 บทบาทในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
ปัจจุบัน ‘Generative AI’ เป็นเครื่องมือยอดนิยมที่ใช้ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ นำเสนอข้อมูลสินค้าและบริการ แต่ในอนาคตจะมีการพัฒนาเครื่องมือเหล่านี้ ให้สามารถผลิตเนื้อหาที่ปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของผู้บริโภคแบบเรียลไทม์ เนื่องจากผู้บริโภคต่างคนต่างมีประสบการณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน
กลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้ได้ผลจึงต้องมีการนำเสนอในรูปแบบของ Dynamic Content หรือคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และยังต้องให้ความสำคัญกับความสบายใจของผู้บริโภค ที่จะต้องไม่เกิดความรู้สึกว่ากำลังถูก AI ละเมิดความเป็นส่วนตัว
♻️ เมื่อพูดถึงความต้องการ หนึ่งเทรนด์ที่ถูกหยิบยกมาพูดกันหลายต่อหลายครั้ง แต่สถานการณ์ก็ยังคงมีความน่าเป็นห่วงอยู่ คือเทรนด์ความยั่งยืน ภาพรวมของตลาดจึงต้องเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ธุรกิจจึงควรมองหาเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยพัฒนาสินค้าหรือบริการให้สอดรับกับเทรนด์นี้ เพื่อเป็นตัวเลือกในใจผู้บริโภค ขณะเดียวกันนั้นก็ช่วยในการลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจด้วย
🤖 บทบาทในการเป็นที่ปรึกษา
การพัฒนาอย่างรวดเร็วของ AI ทำให้สิ่งนี้กำลังจะเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจในมิติที่สำคัญ ในอนาคตมีความเป็นไปได้ว่า AI จะกลายเป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ เพราะความสามารถในการประมวลผล การคาดการณ์แนวโน้มต่างๆ และการจำลองผลลัพธ์ที่วางแผนออกมาได้ล่วงหน้า โดย Gartner คาดการณ์ไว้ว่าภายในปี 2028 การตัดสินใจอย่างน้อย 15% ของงานประจำวันจะถูกดำเนินการโดย AI ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 0% ในปี 2024
👨🏼💻 แม้ความฉลาดของ AI จะช่วยให้การทำงานมีความรวดเร็ว แม่นยำ แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ธุรกิจต้องคำนึงก็คือกรอบความคิดเพื่อใช้งาน AI อย่างมีจริยธรรม จึงต้องมีการพัฒนา AI Governance Platforms เพื่อใช้ในการกำกับดูแล ให้องค์กรจัดการความเสี่ยง สร้างและบังคับใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งความท้าทายที่ต้องเจอคือ แนวทางปฏิบัติด้าน AI ที่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม
📑 บทบาทในการเสริมศักยภาพองค์กร
การทำธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องอย่าลืมพัฒนาการทำงานของทีมในองค์กรให้มีความพร้อม แล้ว...เทคโนโลยีสามารถเข้ามาช่วย Support เพิ่มความ Productive ในการทำงานแบบใดได้บ้าง ?
🦾 แนวคิดการทำงานแบบ Hyperautomation กำลังเข้าสู่ความเป็นไปได้ที่มากขึ้น ด้วยการบูรณาการเทคโนโลยีอัตโนมัติ เช่น การใช้ Robotic Process Automation (RPA) และ Intelligent Business Process Management Systems (iBPMS) ในการวิเคราะห์กระบวนการทางธุรกิจ เพื่อดูว่าในกระบวนการทำงานมีอะไรที่ควรเป็นระบบอัตโนมัติ
ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถลดการทำงานซ้ำๆ บางอย่าง นอกจากนั้นเทคโนโลยียังสนับสนุนแนวคิดองค์กรอัจฉริยะ ที่สามารถสร้างความร่วมมือระหว่างแผนกได้อย่างไร้รอยต่อ สามารถสื่อสาร ระบุปัญหา หรือใช้ AI คาดการณ์สถานการณ์เลวร้าย เพื่อเตรียมแผนงานในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
🔎 ในความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ นอกเหนือจากการศึกษาแนวโน้มแห่งอนาคต การทำความเข้าใจ Customer Insight และการประยุกต์ใช้ AI ในเชิงกลยุทธ์ อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือความยืดหยุ่น และความคล่องตัวในการรับมือกับทุกสถานการณ์ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจให้พร้อมตอบสนองต่อความท้าทายต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
🗃 และเพื่อร่วมสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของภาคธุรกิจ NIA พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพไทยผ่านกลไกการสนับสนุนที่หลากหลายภายใต้แนวคิด Groom-Grant-Growth-Global
โดยเริ่มจากการ ‘Groom’ ปูพื้นฐานองค์ความรู้ในการพัฒนานวัตกรรมให้แน่น ต่อด้วย ‘Grant’ การสนับสนุนทางด้านการเงิน ผ่านการให้ทุนในโครงการต่างๆ ทั้งในมิติของเศรษฐกิจและสังคม ‘Growth’ โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งการเติบโตของธุรกิจนวัตกรรมในสาขาที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ และสุดท้ายกลไกที่เพิ่มเข้ามาใหม่อย่าง ‘Global’ ที่จะผลักดันให้ธุรกิจนวัตกรรมไทยโตไกลสู่ตลาดสากล
อ้างอิงข้อมูลจาก:
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
