24 ธ.ค. เวลา 15:36 • นิยาย เรื่องสั้น

รักย้อนอดีตภาค5 ภัยร้ายจากดาวหางฮัลเลย์

.
บทที่ 18 พ่อมดเมอร์ลิน, แม่มดเลอเฟย์ และ มังกรไฟ 3
.
การเดินทางสู่ภูเขาไฟกลางทะเล เมอร์ลินใช้วิธีหายตัวไปพร้อมกับพัน แต่ทันทีที่ถึงปากปล่องภูเขาไฟที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบไมล์ ความลึกจากปากปล่องถึงพื้นล่างราว2พันฟิต และพื้นล่างมีเส้นผ่าศูนย์กลางราว500ฟิต พื้นบางแห่งเป็นธารน้ำแข็ง
.
เมอร์ลินก็หยุดชะงักหันมาถามพันอย่างลังเล "หากภูเขาไฟเกิดปะทุจะทำอย่างไร"
.
ฝอย "ขออนุญาต ครับ การปะทุมักมีสัญญาณบอกเหตุให้รู้ล่วงหน้า เช่น แผ่นดินไหวโดยรอบบริเวณภูเขาไฟ
เกิดการสั่นสะเทือนและมีเสียงคล้ายฟ้าร้องซึ่งเกิดจากการเคลื่องไหวของแมกมา(Magma) แก๊สต่างๆ และ ไอน้ำที่ถูกอัดไว้
.
เมื่อเกิดการปะทุ ลาวา เศษหิน ฝุ่นละออง เถ้าถ่านภูเขาไฟ จะถูกพ่นออกมาทางปล่องภูเขาไฟ หรือช่องด้านข้าง ตามรอยแตกแยก แมกมาเมื่อขึ้นสู่ผิวโลกเรียกว่า ลาวา(lava) ครับ"
.
เมอร์ลิน "ต่อจากนี้เจ้าจะหายตัวหรือปีนลงไป"
.
พัน "ฉันขอปีนลงไปเองดีกว่า การหายตัวของท่านก็คือการวาร์ป ทำให้ฉันเวียนหัวมาก"
..
แล้วพันก็สั่งให้ฝอยกลายเป็นเชือกยาวเพื่อไต่เชือกลงไป ขณะที่เมอร์ลินหายตัวไปรอที่พื้นล่างก่อนแล้ว
ด้านในของภูเขาไฟ ผนังของมันเกือบจะตั้งตรงเต็มไปด้วยหินลาวาที่แห้งแข็ง ส่วนของหินลาวาที่พื้นกระแทกเท้าเวลาที่ก้าวเดิน
.
เกิดการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ดวงอาทิตย์ส่องแสงสว่างไปทั่วสาดส่องเข้ามาในปากปล่องภูเขาไฟ พวกเขาเดินไปตามอุโมงค์ที่เห็นเบื้องหน้าจนสุดปลายทางของอุโมงค์ มันมืดจนมองไม่เห็นทางที่จะไปต่อ
.
เมอร์ลินจึงเสกคาถาให้ไม้เท้าวิเศษกลายเป็นคบไฟส่องทาง มีทางลาดเอียงทอดยาวต่อไปเรื่อยๆ อุโมงค์ที่เดินเป็นทางลาด 45 องศา
แสงไฟกระทบผนังถ้ำลาวาสว่างระยิบระยับราวเชื้อเชิญให้เข้าไป เหมือนกับเดินอยู่ในหมู่ดวงดาว
.
เดินทางต่อไปตามเสันทางลาวา ทางเดินเริ่มเป็นแนวตรง บางตอนผนังทางเดินเริ่มเปลี่ยน ตอนนี้มาถึงทางแยก 2 ทาง
ทั้ง 2 ทางแคบและมืด เมอร์ลินไม่ลังเลเลยตัดสินใจไปทางตะวันออก พวกเขาเดินจนสุดทาง ที่นั่นแสนสุริยานั่งอยู่ในอาณาเขตเวทมนต์ของเลอเฟย์
เมอร์ลินจัดการทำลายมนต์ปล่อยให้แสนสุริยาเป็นอิสระ ซึ่งพันแทบโผเข้ากอดเขาด้วยความดีใจ แต่...ดีที่ยับยั้งได้ทัน
.
เมอร์ลิน "เจ้าปลอดภัยนะ เลอเฟย์ทำร้ายเจ้าหรือไม่"
.
แสนสุริยา "นางไม่ได้ทำอันตรายผม เพียงแค่พูดเกลี้ยกล่อมให้เห็นผลดีของการร่วมมือกับนาง และ ข้อตกลงของนางกับเจ้าสัตว์ประหลาด"
.
เมอร์ลิน "ข้อตกลงเรื่องอะไร นางบอกเจ้าไหม"
.
แสนสุริยา "ช่วงที่นางมาซ่อนตัวที่นี่จึงได้พบว่าเจ้าสัตว์ประหลาดซ่อนตัวอยู่ที่นี่ด้วย มันเพิ่งวางไข่เป็นจำนวนนับสิบฟอง ในระหว่างนี้มันจึงไม่สามารถที่จะป้องกันตัวได้
.
เจ้าสัตว์ประหลาดจึงเสนอตัวช่วยเลอเฟย์ปราบทหาร และ เหล่าอัศวิน เมื่อเลอเฟย์ขึ้นครองบัลลังก์ จะต้องนำเหยื่อมาบูชายัญทุกๆเดือน โดยส่งเด็กหรือสาวที่มีอายุ
ไม่เกิน 15 ปี ครั้งละ 1 คนเข้ามาในปล่องภูเขาไฟนี้"
.
พัน "แล้วเลอเฟย์ตกลงกับมันใช่ไหมโหดร้ายมาก ว่าแต่เจ้าสัตว์ประหลาดกับบรรดาลูกตั้งหลายสิบจะพอกินหรือ"
.
แสนสุริยา "เหยื่อบูชายัญไม่ใช่อาหาร แต่เป็นยาบำรุงร่างกาย ส่วนลูกของเจ้าสัตว์ประหลาดทันทีที่ฟักเป็นตัวจะต้องกินอาหารทันที หากไม่มี...พวกมันก็จะกินกันเองเหมือนหนอนเจาะสมอฝ้ายอเมริกันซึ่งเป็นศัตรูพืชที่สำคัญของการปลูกฝ้าย
.
พวกมันจะต่อสู้กันจนเหลือเพียงตัวเดียว ตัวที่แข็งแรงที่สุด และ เก่งที่สุด จากนั้นจะแยกจากแม่เพื่อไปสร้างอาณาเขตของตัวเอง แต่ความที่เจ้าสัตว์ประหลาดมี2เพศในตัวเอง จึงมีการขายพันธุ์เพียงหลายปีต่อครั้งเท่านั้น"
.
แสนสุริยาเล่าเรื่องจบก็มีเสียงคำรามแว่วมาแต่ไกล เมอร์ลินบอกว่า "พวกลูกๆของมันคงจะต่อสู้กันแล้ว ข้าจะไปจัดการกับเลอเฟย์ ส่วนเจ้า2คนจัดการกับลูกของเจ้าสัตว์ประหลาด"
.
แล้วเมอร์ลินก็ส่งแสนสุริยาและพันหายตัวไปอยู่ยังจุดที่กำลังต่อสู้ของตัวอ่อนสัตว์ประหลาด ส่วนเขาหายตัวไปตามหาเลอเฟย์ศิษย์ทรยศยังอีกแห่งหนึ่ง
.
ตัวอ่อนของสัตว์ประหลาดเหมือนลูกหมีสีน้ำตาลแต่มีขนาดใหญ่ แม้มันจะดูปุกปุยน่ารัก ยังไม่มีปีก แต่ความโหดเหี้ยมจากวิธีการสังหารทำลายและกินกันเองของมันเป็นเหตุให้เกิดความสยองมากกว่าความน่ารัก
.
แล้วก็เหลือตัวสุดท้าย ตอนนี้มันมีขนาดโตขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด เลือดสีเขียวซึ่งเป็นลักษณะของแมลงเปรอะจนเต็มไปหมด ตอนนี้มันรู้แล้วว่ามันไม่ได้อยู่ที่นั่นเพียงลำพังจึงหันมาอย่างช้าๆ
.
แสนสุริยาและพันต่างแยกย้ายไปยืนเพื่อเตรียมรับการโจมตีของมัน การได้เห็นถึงวิธีที่มันจัดการกับพี่น้องของมันทำให้ทั้ง2ประเมินวิธีการต่อสู้ของมันได้อย่างถูกต้อง
.
ฝอยกลายเป็นดาบไททาเนี่ยมให้แสนสุริยา ส่วนพันใช้ดาบเลเซอร์รับมือกับลูกของสัตว์ประหลาด หลังการต่อสู้ไปสักระยะพันก็เริ่มเข้าใจถึงสิ่งที่เมอร์ลินกังวล
.
ขนาดลูกที่ยังไม่มีเกราะ พ่นไฟไม่ได้ เขี้ยวเล็บยังไม่เท่าแม่ของมัน ความเร็วของมันยังจับภาพแทบไม่ทัน หากไม่เพราะเซ็นเซอร์ของพันคงยากที่จะจัดการ
ส่วนแสนสุริยานั้นได้ฝอยเป็นเซ็นเซอร์จึงรอดปลอดภัย แล้วหากต้องพบตัวแม่ล่ะ พันไม่ต้องการแม้แต่จะคิดเรื่องนี้
.
ดาบของแสนสุริยาและพันประสานกันทำให้ลูกของสัตว์ประหลาดบาดเจ็บจนมันล้มหงายท้อง แล้วมันก็ส่งเสียงร้องเหมือนทารก ทำให้แสนสุริยาที่เตรียมจัดการ
ขั้นสุดท้ายถึงกับชะงักอยู่กับที่
.
พันไม่ลังเลเงื้อดาบเลเซอร์ตัดคอขาดในดาบเดียว ท่ามกลางเสียงร้องไห้จ้าของทารก แสนสุริยามองพันอย่างไม่เชื่อสายตา "คุณไม่สงสารมันหรือ มันยังเป็นเด็ก
อยู่เลย"
.
พัน "หากปล่อยให้มันโตกว่านี้เราคงจัดการกับมันไม่ได้ และ คุณไม่เคยรู้ถึงความร้ายกาจของมันจากเมอร์ลินเหมือนฉัน ไว้เจอแม่ของมันก่อนเถอะ คุณจะเลิกสง
สารทารกตัวนี้ หันมาสงสารตัวเองแทน"
.
ทันใดนั้นก็ปรากฎเสียงคำรามด้วยความโกรธแค้นจนพื้นที่ยืนสะเทือน "มันอยู่ใต้
เรา รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ ที่นี่เราสู้มันไม่ได้" พันบอกอย่างใจเย็น
.
พันนำทางแสนสุริยากลับมาที่พื้นล่างของปากปล่องภูเขาไฟด้วยการวิ่งอย่างรวดเร็ว ณ ที่นั้น เมอร์ลินและเลอเฟย์กำลังต่อสู้กันด้วยเวทมนต์อย่างเอาเป็นเอวตาย ช่างเป็นภาพที่หาดูไม่ได้บ่อยนัก
.
ทันทีที่เมอร์ลินหันมาเห็นคนทั้ง2เท่านั้น เขาก็รีบเหาะลอยหนีเลอเฟย์กลับไปที่ฝั่งทันที ในขณะที่เลอเฟย์ก็เหาะตามไปติดๆ ทั้ง2ไล่ตามพลางร่ายคาถาสู้กันไปพลาง
.
ฝอยรีบกลายร่างเป็นสลิงขนาดใหญ่ แล้วแสนสุริยาก็รวบเอวพันไว้ อีกมือหนึ่งยึดสลิง แล้วฝอยก็ดึงทั้งคู่ขึ้นมาจากพื้นล่างของปากปล่องภูเขาไฟ ในขณะที่
เสียงคำรามอย่างน่ากลัวของตัวแม่เริ่มใกล้เข้ามา
.
จากนั้นฝอยก็กลายเป็นมอเตอร์ไซด์วิบากให้แสนสุริยาโดยพันนั่งหลังกอดเอวของเขาไว้ แสนสุริยาบึ่งรถซิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตจนไปถึงริมทะเล
.
ฝอยเสียอย่างจัดการกลายร่างเป็นเจ็ตสกี คราวนี้พันขอเป็นคนขับหนีสัตว์ประหลาดเอง แม้จะรีบหนีด้วยความเร็วเพียงใดก็ยังไม่เร็วเท่าความแค้นของสัตว์ประหลาดตัวแม่ ลางบอกเหตุก็คือความร้อนจากประกายไฟที่มันพ่นใส่ผิดเป้า
.
พันจึงต้องขับเจ็ตสกีฉวัดเฉวียน คอยหลบประกายไฟที่มันพ่นใส่จนแสนสุริยาทึ่ง หรือหนุ่มน้อยคนนี้มีตาอยู่ข้างหลัง จึงสามารถหลบหลีกเปลวไฟได้ทุกครั้ง
.
ทันทีที่ถึงฝั่งพันจึงวิ่งนำแสนสุริยาเข้าไปในป่าทึบเบื้องหน้า ถึงกระนั้นเจ้าสัตว์ประหลาดก็ยังตามพ่นไฟใส่จนเกิดไฟไหม้ป่า
แสนสุริยาและพันหนีเข้าไปในป่าลึก ซึ่งเซ็นเซอร์ของพันบอกให้รู้ว่ามีที่ให้ได้หลบเพื่อพักเหนื่อยสักครู่ ก่อนที่จะต้องออกไปเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดจากโลกอื่น
ที่ยังหาวิธีจัดการไม่ได้
.
จบบทที่ 18 ภาพปกจาก ทั่วโลกในอดีต ภูเขาไฟในอุทยานแห่งชาโบรโมเทงเกอร์ เซเมรู ชวาตะวันออก ในประเทศอินโดนีเซีย ภาพถ่ายโดย Dennis Schmelz
โฆษณา