เมื่อวาน เวลา 16:21 • ความคิดเห็น
คุณเชื่อเรื่องเจ้ากรรมนายเวรไหม ?
คำถามนี้ถูกลบ
เรื่องเจ้ากรรมนายเวร มันเป็นพัวพันกันอยู่ในคำว่าคล้องเวรกรรม เวรกรรมที่คล้องนั้นก็เกิดจากอารมณ์ ที่เราใช้ มีอารมณ์พอใจไม่พอใจ โมโห ทิฐิไม่ยอม ติเตียน อิจฉาตาร้อน มันเป็นอารมณ์ที่พาไปคล้องเวรกรรม ตกเป็นจำเลย ยึดสิ่งนั้นสิ่งนี้ ไม่ชอบ เกลียดชัง อารมณ์โกรธโมโหมันเกิดขึ้น
แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ใช้อารมณ์ไปคล้องเวรกรรม มีกิริยาของการวาจาใจ บันทึกจดจำลงไปที่ธาตุทั้งสี่ เกิดเป็นสัญญาจำ จดจำ ..ฉันเกลียดคนนั้น ชอบใจคนนี้ ชิงชัง อะไรต่างๆ ทั้งวัตถสิ่งชองที่มีชีวิตไม่มีชีวิต เกิดเป็นลักษณะของเจ้ากรรมนายเวร ที่บันทึกลงไปที่ธาตุทั้งสี่ ที่ประกอบกาย มองลึกลงไป ธาตุทั้งสี่ก็เป็นดืนฟ้าอากาศ กรรมที่เราก็ทำดินฟ้าอากาศก็บันทึกไว้ให้ทั้งดีทั่งชั่วที่ใช้กายนี้ ตั้งแต่มีกาย จนกายนั้นหมดสิ้น ไม่มีกายให้อาศัย
สมมุติว่า เราเคยทำคนเค้าตาย ไม่เจตนา ..ก็บังเอิญเรามีเหตุ ไปที่สถานที่ ที่เค้าตีกัน ยิงกันขึ้น .เราก็ไปถูกลูกหลง ที่เค้ายิ่งกัน มาถูกเรา ให้เจ็บตาย นั้นก็เกิดจากกรรม ที่เราเคยทำไว้ไม่เจตนา ถึงเวลากรรมเร้าทวงกัน ก็เหมือนกรรมบันดาลให้ต้องไปสถานที่นั้นเวลานั้น ไปถูกลูกหลง
เหมือนวันนี้ ก็มีน้องเค้าไปตีกอล์ฟ ตีเข้าป่า ก็เดินเข้าไป .กยังมีคนตีลูกกอล์ฟ หปถูกที่แขน มันชั่งบังเอิญจริง ก็ยังคุยกันเรื่องกรรมที่ไม่เจตนา
ส่วนเรื่องที่เจ็บปวดหัวเวียนหัว ในชีวิตประจำ ส่วนหนึ่ง ก็มาจากอารมณ์ที่เกิดที่ตัวเรา หรือ อารมณ์ของเรา นำพาวิญญาณทั้งหก ไปยึดอารมณ์คนนั้นคนนี้เข้า มีอารมณ์หงุดหงิดไม่ชอบใจ โมโหเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็เกิดเป็นไมแกรนด์ได้ เหมือนกัน
เรื่องราวของเจ้ากรรมการ เราสร้างบุญกุศลขึ้นมา ปฏิบัติธรรมขึ้นมา แม้ในยามเจ็บป่วย เราก็ปฏิบัติธรรมขึ้นมา เดืนจงกรมปฏิบัติธรรมขึ้น เมื่อเรานำกายมาเดืนในเส้นทางของผู้ที่พ้นเวรกรรม ..เราก็อาจจะได้พบเห็นเรื่องเจ้ากรรมนายเวร ที่เราเคยไปทำร้ายเค้ามาในอดีต คนเราไม่ได้เกิดขาตินี้ชาติเดียว ..ดินฟ้าอากาศท่านก็ คลี่คลายแสดงภาพที่เราเคยไปทำเค้ามา ที่ว่าตาบันทึกภาพ หูบันทึกเสียง ส่งไปให้จิตบัลงไปที่ธาตุทั้งสี่ ..นั้นก็เป็นเรื่องของธรรม แสดงให้ดู ในเรื่องเจ้ากรรมนาย ..
ในเรื่องเจ้ากรรมนายเวร เมื่อเราสร้างบุญกุศล ขึ้นมา เพื่อหนีเวรกรรม สละปัจจัยที่เราใช้อารมณ์โลภโกรธหลงไปหามา หามายึด .เราก็แบ่งปันสละ แปรสภาพเป็นทานเป็นบุญ..ลดละอารมณ์กรรมไปเรื่อยๆ จิตเราเบาบางจากอารมณ์มากขึ้น ปฏิบัติธรรมไปเรื่อยๆ ในยามเจ็บป่วย เราก็ปฏิบัติธรรมขึ้นมา ชดใช้เวรกรรม
เมื่อเรานำกายนี้ มาสร้างให้เป็นบุญเกิดขึ้น เราก็แบ่งปันบุญกุศล กระจายบุญกุศลเผื่อแผ่ออกไป ให้กับจิต ทั้งผู้ที่อุปการะอุปถัมภ์ ทั้งดีไม่ดี ที่ล่วงลับไปแล้ว เราก็กระจายบุญไป ..หากเรารู้จักว่า จิตที่ไม่มีกายมนุษย์นี้น เค้าทุกข์ทรมาน อดอยากหิวโหย เค้าต้องการบุญกุศล
.หากเราเรียนรู้จักเรื่องราวเหล่านี้ จิตของเค้าทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตอนมีกายเป็นมนุษย์ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยการสร้างบุญกุศลบารมีขึ้นมา ให้แก่จิตของตนเอง จึงมีโอกาสได้ไปเรียนรู้สัมผัสในเรื่องรางเหล่านี้ได้ แล้วมันก็เป็นปัจจัตตังเกิดชึ้นกับผู้ที่ศึกษาปฏิบัติธรรมขึ้นมา
เรื่องราวเจ้ากรรมนายเวร คนที่เค้าไม่สนใจ ไม่สร้างบุญกุศล ไม่ประพฤติปฏิบัติธรรม อยู่ๆจะให้เค้ามารู้จักเรื่องราวเจ้ากรรมนายเวร มันเป็นไปไม่ได้เลย มันก็เหมือนคนเราเกิดมา ก็เรียนรู้ไม่ไม่เหมือนกัน บางคนไม่เคยสนใจ ไม่เคยศึกษา ไม่เคยประพฤติ แม้การสวดมนต์ ทำบุญใส่บาตร เค้าก็รู้ได้ เคยเห็นเค้าทำ แต่ตนเองก็ไม่ทำ แล้วเค้าจะรู้จัดคำว่าบุญกรรมได้หรือ ยิ่งไปพูดคำว่าเจ้ากรรมนายเวร เค้าก็ว่าเพ้อเจ้อ ..เรารู้ว่า เค้าไม่ได้มีนิสัยในการรู้จักเรื่องราวศาสนา เราก็เงียบเสียดีกว่า ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาเลย
โฆษณา