วันนี้ เวลา 04:44 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ไพ่สงครามการค้าของจีน - Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร

สงครามการค้าของทรัมป์ต่อจีนรอบใหม่ จีนมีไพ่อะไรอยู่ในมือบ้าง และจีนจะเจ็บหนักแค่ไหน
2
ประเด็นว่าจีนจะเจ็บหนักไหม ตั้งแต่สงครามการค้ารอบแรกที่ผ่านมา จีนได้ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปมากแล้ว โดยลดสัดส่วนการส่งออกต่อ GDP ของจีนลงจากเดิมที่เคยสูงเกือบ 26% ลงมาที่ 19.7% (เปรียบเทียบกับไทยที่สัดส่วนการส่งออกต่อ GDP สูงถึง 65.44%)
1
ส่วนการพึ่งพิงตลาดสหรัฐฯ นั้น ก็ลดลงจากเดิมมาก จากที่การส่งออกไปสหรัฐฯ เคยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงกว่า 20% ของการส่งออกทั้งหมดของจีน ปัจจุบันลดลงมาที่ 14.8% เท่านั้น
ปัจจุบัน อาเซียนได้ขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของจีนแทนที่สหรัฐฯ และจีนส่งออกไปประเทศกลุ่มขั้วใต้ (Global South) กล่าวคือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก สูงกว่าที่จีนส่งออกไปสหรัฐฯ และยุโรปรวมกันแล้ว
2
ตอนนี้โครงสร้างเศรษฐกิจจีนพึ่งพาตลาดภายในประเทศและตลาดประเทศกำลังพัฒนา สูงกว่าที่พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ดังนั้น สงครามการค้ารอบใหม่หากทรัมป์ซัดจีน แม้ว่าจีนจะเจ็บ แต่จะไม่เจ็บสาหัสและผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนจะน้อยลงกว่ายุคสงครามการค้ารอบแรกที่จีนยังพึ่งพาสหรัฐฯ สูงอยู่มาก
4
แต่จีนก็ยังคงเจ็บแน่นอน เพียงแต่จีนจะมองว่าเป็นการเจ็บแบบสามารถทนได้ ซึ่งอาจทำให้จีนไม่รีบเร่งที่จะต้องเจรจาหาข้อตกลงกับสหรัฐฯ จีนมีแนวโน้มในรอบนี้ที่จะเล่นบทสายแข็งสายทนมากกว่า
2
เมื่อสงครามการค้ารอบที่แล้ว การเจรจากับสหรัฐฯ เป็นเรื่องสำคัญมากต่อจีน เพราะตอนนั้นผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนสูง จีนจึงต้องการยุติสงครามเพื่อซื้อเวลา โดยมีเป้าหมายสองข้อ คือหนึ่งซื้อเวลาเพื่อปรับตัว และสองด้วยหวังว่าเดี๋ยวอีกไม่นานตอนนั้นทรัมป์ก็จะไป และเมื่อพรรคเดโมแครตกลับมาเป็นรัฐบาล คงจะเลิกสงครามการค้ากับจีน
3
ที่ไหนได้ เมื่อไบเดนชนะการเลือกตั้งในปี ค.ศ. 2020 ไบเดนไม่ได้ยกเลิกกำแพงภาษีใดๆ ที่ทรัมป์ตั้งไว้ต่อสินค้าจีนเลย สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ลากยาวมาจนปัจจุบัน จนตอนนี้จีนทำใจมองเป็นเรื่องระยะยาวแล้ว ใครมาเป็นรัฐบาลสหรัฐฯ ก็คงไม่เปลี่ยนแนวทางซัดจีน
4
ช่วงปลายรัฐบาลทรัมป์ 1 จีนทำข้อตกลงการค้า Phase 1 กับสหรัฐฯ สัญญาจะซื้อสินค้าสหรัฐฯ มากมาย และจะปรับปรุงตัวเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและบังคับถ่ายทอดเทคโนโลยี แต่สุดท้ายจีนไม่ได้ทำตามที่ตกลงเท่าไหร่ ซึ่งจีนอ้างว่าเพราะเกิดวิกฤตโควิดตามมา แต่สหรัฐฯ มองว่าจีนไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างที่ให้คำมั่นแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแต่เป็นกลยุทธ์ซื้อเวลาของจีนเท่านั้น ทำให้ความน่าเชื่อถือในการเจรจากับจีนลดต่ำลง
สงครามการค้ารอบใหม่นี้ดูทรงแล้วจึงยากมากที่ทั้งสองฝ่ายจะมีข้อตกลงกันได้ ในมุมสหรัฐฯ ก็ไม่ไว้จีนว่าจะทำตามสัญญาอีกต่อไป ในมุมจีน ก็มองว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะซื้อเวลาอีกแล้ว เพราะทรัมป์อยู่ยาว 4 ปี และรัฐบาลใหม่ต่อไปของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็คงเดินเกมสงครามการค้าต่อแน่ ขณะเดียวกัน รอบนี้จีนเองก็จะไม่เจ็บตัวเท่ารอบแรก เพราะโครงสร้างการค้าจีนเปลี่ยนจากเดิมคือลดการพึ่งพาสหรัฐฯ ลงมามากแล้ว
3
นอกจากนั้น สิ่งที่สหรัฐฯ ต้องการจากจีน คือการจำกัดการพัฒนาเทคโนโลยี จีนคงให้สหรัฐฯ ไม่ได้ ส่วนสิ่งที่จีนต้องการจากสหรัฐฯ คือการเปิดตลาด สหรัฐฯ ก็ให้กับจีนไม่ได้เช่นกัน จึงดูยากที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงการค้าได้เหมือนกับรอบแรก
ส่วนการปรับลดค่าเงินหยวน ซึ่งเป็นแนวทางที่จีนเคยทำในสงครามการค้ารอบแรก แต่ตอนนี้เศรษฐกิจจีนมีความเปราะบาง หากมีการลดค่าเงินหยวน แม้จะช่วยภาคการส่งออกของจีน แต่ก็จะทำให้เงินทุนไหลออกจากประเทศจีนได้
1
ขณะเดียวกัน การลดค่าเงินหยวนของจีนจะช่วยลดเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ซึ่งสิ่งที่จีนควรทำคือกดดันเงินเฟ้อสหรัฐฯ มากกว่า ทำให้รอบนี้ถึงแม้จีนอาจลดค่าเงินหยวนลงเพื่อรับมือการขึ้นภาษีของทรัมป์ แต่อาจไม่ได้ทำมากเหมือนตอนสงครามการค้ารอบก่อน
มีหลายคนเห็นว่าจีนน่าจะตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยการจำกัดการส่งออกเครื่องจักรและแร่สำคัญไปสหรัฐฯ ซึ่งข้อนี้แม้จะทำให้สหรัฐฯ เจ็บ แต่จีนก็จะเจ็บตัวด้วยเหมือนกัน เพราะตลาดสำคัญของจีนในเรื่องเหล่านี้คือสหรัฐฯ ถ้าจีนไม่ขายสหรัฐฯ แล้วจะขายใคร ทำให้นี่ก็คงเป็นไพ่ที่จีนใช้ไม่ได้มากเท่าไหร่นัก
1
จีนอาจขึ้นกำแพงภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ในอุตสาหกรรมถั่วเหลือง และลดการนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ โดยหวังว่าจะทำให้เกษตรกรสหรัฐฯ เจ็บตัว โดยที่เกษตรกรสหรัฐฯ เป็นฐานเสียงของทรัมป์ แต่จากประสบการณ์สงครามการค้ารอบแรก ทรัมป์จะเอาเงินที่ได้จากการเก็บภาษีจีนมาอุดหนุนเกษตรกรถั่วเหลือง ไพ่ใบนี้ของจีนก็ดูจะใช้ไม่ค่อยได้ผล
1
เมื่อพิจารณาแล้วจึงเห็นว่า ไพ่ใบต่างๆ ของจีนในการรับมือสงครามการค้าระยะสั้นนั้นไม่น่าจะใช้ได้มาก ในขณะเดียวกันก็มีความคิดแพร่หลายในวงวิชาการและนโยบายจีนว่ารอบนี้จีนสามารถทนเจ็บได้มากกว่ารอบแรก ทำให้จีนน่าจะเลือกแนวทางสายแข็งแนวทางอดทน มากกว่าจะพยายามไปเจรจากับสหรัฐฯ หรือลดค่าเงิน หรือใช้มาตรการการค้าตอบโต้อย่างที่หลายฝ่ายคาด
3
ไพ่ใบสำคัญที่สุดของจีนจริงๆ แล้วคือ ตลาดภายในขนาดใหญ่ของจีนเองที่ทำให้จีนสามารถลดการพึ่งพาการส่งออกและการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ ลงได้ ดังนั้น โจทย์ของจีนคือทำอย่างไรที่จะปลดล็อคพลังการบริโภคภายในให้ฟื้นคืนมาให้ได้หลังจากที่เศรษฐกิจจีนอ่อนแรงลงในช่วงโควิดที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งเครื่องการเปิดตลาดการค้าใหม่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเป็นแนวทางที่จีนได้ทำมาตลอด โดยต้องยิ่งเร่งเครื่องและให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
3
นั่นก็คือ ในมุมจีน ต้องไม่เล่นตามเกมสหรัฐฯ และไม่เล่นเกมคลายเจ็บระยะสั้น แต่ต้องเน้นเล่นเกมของตัวเอง เน้นยอมทนยอมเจ็บ และเน้นเล่นเกมยาว โดยการเน้นตลาดภายในและตลาดใหม่ รวมทั้งเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีซึ่งจะเป็นกุญแจของการเติบโตรอบใหม่ในระยะยาวของจีน
3
โฆษณา