25 ธ.ค. 2024 เวลา 06:31 • ข่าว

4 จังหวัดค่าแรง 400 – ห่วงเอสเอ็มอี แนะรัฐคุมเข้มปรับราคาสินค้า

ผู้ประกอบการโอดขึ้นค่าแรงรอบล่าสุด มีผล 1 ม.ค. 2568 โดยเฉพาะ 4 จว.-1 อำเภอที่ขึ้น 400 บาท ส่วนใหญ่หวั่นแรงงานเถื่อนทะลัก ภาคตะวันออกมองผู้ประกอบการท่องเที่ยวรับได้ เพราะปกติจ่ายแพงกว่าอยู่แล้ว ห่วงธุรกิจรายย่อยมากกว่า เช่นเดียวกับภูเก็ต อยากให้จ่ายตามความสามารถของแรงงาน หาดใหญ่กังวลขึ้นค่าแรงอยู่อำเภอเดียว คาดแรงงานทะลักเข้าพื้นที่ ขณะที่กลุ่มสมาคมภัตตาคารไม่มีปัญหา
จากกรณีคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) มีมติเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรับขึ้นค่าแรงทั่วประเทศ อัตราสูงสุดวันละ 400 บาท และอัตราต่ำสุดวันละ 337 บาท ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไปนั้น
4 จว.-1 อำเภอรับ 400/วัน
ค่าแรงที่กำลังจะปรับขึ้นแบ่งออกเป็น 4 อัตรา ประกอบด้วย 1.กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ใน 4 จังหวัด และ 1 อำเภอ ได้แก่ ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี 2.กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 380 บาท ใน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
3.กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นอัตราวันละ 372 บาท ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวม 6 จังหวัด (เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5) 4.กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 67 จังหวัด ที่เหลือให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0
“การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นในครั้งนี้ เป็นการปรับเพื่อให้แรงงานทั่วไป แรกเข้าทำงาน สามารถดำรงชีพอยู่ได้ตามสมควรแก่มาตรฐานการครองชีพ สภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งเหมาะสมตามความสามารถของธุรกิจในท้องถิ่นนั้น ซึ่งการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำครั้งนี้จะทำให้ลูกจ้างได้รับประโยชน์ จำนวน 3,760,697 คน” นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ดค่าจ้างกล่าว
สมาคมภัตตาคารชี้รับได้
ส่วนความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะภาคเอกชนที่ต้องรับภาระจ่ายค่าจ้าง เริ่มจากนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า จากที่มีประกาศจะขึ้นค่าแรงเป็น 400 บาทใน 4 จังหวัด และ 1 อำเภอ ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหาร เนื่องจาก 4 จังหวัดนี้เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ธุรกิจร้านอาหารมีการแข่งขันสูง รวมไปถึงการชิงตัวพนักงานด้วย ทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่จ่ายค่าแรงสูงกว่าอัตราที่ภาครัฐกำหนดอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการจ้างงานใหม่ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาแบบถูกกฎหมายและอยู่ในระบบ เบื้องต้นมองว่าจังหวัดระยองอาจได้รับผลกระทบ เนื่องจากปกติผู้ประกอบการจะจ้างแรงงานจากฝั่งกัมพูชา ซึ่งอาจจ้างในอัตราค่าแรงที่ไม่ได้สูงหนัก หากขึ้นค่าแรงก็อาจจะมีผลกระทบบ้าง
ร้านพรีเมี่ยมย้ำไม่กระทบ
นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ กรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านอาหาร อาทิ มากุโระ, ซัมติงทูเก็ตเตอร์, ฮิโตะริชาบู ฯลฯ กล่าวว่า ธุรกิจร้านอาหารในเครือของบริษัทเป็นกลุ่มพรีเมี่ยมแมส ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องระดับคุณภาพการบริการอยู่แล้ว ที่ผ่านมาจึงจ่ายค่าแรงขั้นต่ำสูงกว่าที่ภาครัฐกำหนด มองว่าหากมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในเครือ
หวั่นแรงงานเถื่อนทะลัก EEC
นายปรัชญา สมะลาภา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทครั้งนี้ น่าจะดึงดูดให้แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมายในประเทศไทยมากขึ้น เพราะปัจจุบันค่าแรงคนไทยที่ทำงานใน 3 จังหวัดเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จ่ายเกิน 400 บาทอยู่แล้ว
พื้นที่ภาคตะวันออกมีแรงงานต่างด้าว 2 สัญชาติ คือ เมียนมาและกัมพูชา แต่ตอนนี้พบแรงงานสัญชาติจีนเข้ามาจำนวนมาก โดยทำงานเป็นพนักงานขายตามร้านค้า พนักงานเสิร์ฟ ซึ่งแรงงานจีนเหล่านี้น่าจะเข้ามาอย่างไม่ถูกกฎหมาย เพราะแรงงานจีนที่เข้ามาถูกกฎหมายเป็นแรงงานที่มีฝีมือเฉพาะทาง ยิ่งเมื่อปรับค่าแรงงานขั้นต่ำเป็น 400 บาท จะยิ่งทำให้แรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายทะลักเข้ามา โดยแรงงานเหล่านี้คาดว่าน่าจะเข้ามาตั้งแต่การเปิดฟรีวีซ่า
ชลบุรีชี้ SMEs กระทบหนัก
นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี นายกสมาพันธ์ท่องเที่ยวชลบุรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาแรงงานภาคการท่องเที่ยวได้รับค่าแรงขั้นต่ำเกินกว่า 400 บาทอยู่แล้ว โดยเฉพาะโรงแรมขนาดใหญ่ โรงแรมเชน ยังจ่ายเงินพิเศษและค่าเซอร์วิสชาร์จให้อีกจำนวนมาก ทำให้แรงงานได้รับเงินเกินกว่าค่าแรงขั้นต่ำไปมาก ๆ อยู่แล้ว
การปรับค่าแรงขั้นต่ำครั้งนี้ โดยพิจารณาจังหวัดเป็นหลัก ไม่มีการพิจารณาประเภทธุรกิจ ไม่ดูทักษะของแรงงาน ทำให้สถานประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) อาจได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก และจะทำให้แรงงานที่ไม่มีทักษะได้รับค่าแรงเพิ่มโดยไม่พัฒนาตัวเอง
ธุรกิจท่องเที่ยวไม่สะเทือน อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/economy/news-1722580
โฆษณา