25 ธ.ค. 2024 เวลา 07:02 • ข่าว

ดึงลงทุนต่างชาติ 5 กลุ่มยักษ์ ปั้นไทยสวิตเซอร์แลนด์เอเชีย

รัฐบาลเพื่อไทย เปิดฉากดึงเม็ดเงินลงทุนรับอุตสาหกรรมอนาคต Future Industries 5 กลุ่มใหญ่ บิ๊กเทครายเก่ารายใหม่ขยายลงทุนเพิ่ม จับตา TikTok กำเงินลงทุนใหม่เกือบ 2 แสนล้าน กลุ่มธุรกิจ AI จ้างงาน-อบรมล้านคน แก้กฎปลดล็อกทุกระดับรับนักลงทุนต่างชาติ สั่งบีโอไอขีดเส้นส่งเสริมลงทุนต้องตัดสินได้ภายใน 6 เดือน ตัดขั้นตอน อย. เหลือแค่ 90 วัน ปั้นไทยเป็นศูนย์กลางลงทุนเทียบชั้นสวิตเซอร์แลนด์เอเชีย คู่ขนานเม็ดเงินลงทุน 3 กระทรวงหลัก 8 แสนล้าน
ปี 2568 การลงทุนจะเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รัฐบาลเตรียมแผนดึงการลงทุนทางตรงในกลุ่ม Future Industries จากต่างประเทศ คาดการณ์การขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น ประมาณ 3-5 แสนล้าน และแผนการใช้จ่ายเม็ดเงินลงทุนภาครัฐ ใน 3 กระทรวงหลักกว่า 7 แสนล้าน แก้ระเบียบให้เอกชนลงทุนง่าย จัดการทรัพย์สินของรัฐ-การลงทุนตามแผนของรัฐวิสาหกิจ
เปิดฉากดึงลงทุน Future Industries
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงความคืบหน้าในการเตรียมแผนดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ในปี 2568 ซึ่งจะเป็นการทำงานที่เป็นสไตล์เฉพาะทางของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
“การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตัวที่สำคัญคือการลงทุน เราต้องลงทุน Future Industry ทั้งหมด เราดึงกลุ่ม Data Center ซึ่งมีทั้ง AWS, Google, Microsoft, HUAWEI ที่ลงทุนในไทยอยู่แล้ว แต่เราไม่ได้พูดถึงแค่ Data Center ที่เป็นพื้นฐานและเป็นอีโคซิสเต็มของการทำ AI แต่กำลังตั้งเป้าให้การลงทุน AI ทั้งหมด ไปถึงฐานการผลิต AI และเป็นอนาคตของโลก
เราคุยกับ เจนเซ่น หวง ซีอีโอ NVIDIA พูดชัดเจนว่า AI เป็นภาษาที่ทำให้มนุษย์คุยกับเทคโนโลยีได้ และ AI เป็นของใหม่ของโลก ดังนั้นทุกประเทศเริ่มต้นใหม่เท่ากัน โอกาสทางการลงทุน และทำกำไรเท่ากัน”
เลขาธิการนายกรัฐมนตรีย้ำว่า การดึงนักลงทุนในอุตสาหกรรมอนาคต ในประเทศไทยไม่ได้หยุดเท่านี้ แต่จะเร่งกระตุ้นการลงทุนของบริษัทที่ทำ Semiconductor ที่สำคัญตั้งใจจะให้กลุ่มธุรกิจ R&D เข้ามาเพิ่ม ตัวอย่างชัดคือ Delta เป็นบริษัทที่ทำ Semiconductor และสร้าง R&D เขาติดต่อกับมหาวิทยาลัย เขาไม่ได้ไปโดด ๆ แต่ผูกกับการพัฒนาคนทั้งสิ้น รวมถึง Apple, AWS, Microsoft ล้วนแต่แจ้งวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าจะพัฒนาคน
AI อบรม-จ้างงานล้านคน
นพ.พรหมินทร์กล่าวเพิ่มเรื่องการลงทุนของบริษัทโทคโนโลยีรายใหญ่ในประเทศไทยด้วยว่า กรณีบริษัทหัวเว่ยได้มีการทำ MOU ด้านการพัฒนาคนเรียบร้อยแล้ว ผลิตคนสาย AI ปีละ 1 หมื่นคน รวม 5 ปี ล่าสุด Microsoft คาดว่าจะมีการอบรมและจ้างงานเป็นล้านคน ซึ่งเป็นไปได้ เพราะเมื่อทุกคนคุ้นเคยกับ AI จากนั้นจะใช้ AI ให้มีประสิทธิภาพ ใช้ AI เพื่อทำมาหากินได้ สิ่งนี้คือหัวใจในการลงทุนในปี 2568
“สิ่งที่ได้ลงทุนไว้ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน กำลังออกดอกออกผล ปัจจุบัน AWS ตั้งศูนย์ Data Center แห่งที่ 3 แล้ว ดังนั้น เป้าหมายของเราคือการยกระดับไม่ใช่แค่การลงทุน Data Center เท่านั้น”
ระดมลงทุนเพิ่ม 5 กลุ่มใหญ่
สำหรับแผนการลงทุนจากต่างประเทศ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญในลำดับต้น ๆ นอกจากการลงทุนในกลุ่ม Data Denter และ AI แล้ว ยังมีการลงทุนเพื่อสร้างอนาคตประเทศอีก 3 กลุ่ม รวมเป็น 5 อุตสาหกรรมที่ประเทศไทยต้องการลงทุนเพิ่ม
“การลงทุนอีกชุดหนึ่งที่เราเตรียมแผนการไว้รองรับ คือ การลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV, ลงทุนระบบเกษตรแม่นยำ รองรับเกษตรสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน หรือ Agri Tech, การลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อบริหารการเพาะปลูกสินค้าเกษตรอย่างแม่นยำ ทั้งการปรับปรุง พัฒนาคุณภาพวัตถุดิบอาหาร จนถึงการแปรรูป หรือ Food Tech นี่คือชุดการลงทุนที่เราคิดว่าเป็นกลุ่มอนาคตประเทศ”
แก้ทุกกฎเปิดประตูรับเงินลงทุน
นอกจากนี้ เพื่อรองรับการลงทุนภาคเอกชนทั้งจากในและต่างประเทศ มีความสะดวกรวดเร็ว ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม สร้างแรงขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ GDP โตต่ำ โตช้ามานาน จำเป็นต้องแก้ปัญหาอุปสรรคในการลงทุน เลขาธิการนายกรัฐมนตรีระบุว่า “รัฐบาลได้พิจารณาเรื่อง Ease of Doing Business (ความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ) เราจะขจัดปัญหา ด้วยการแก้ไขกฎระเบียบต่าง ๆ ให้ชัดเจน เช่น เรื่องการออกใบอนุญาตต่าง ๆ เน้นความสะดวกรวดเร็ว”
สำหรับกฎ-กติกา การลงทุน จะมีการแก้ไข ที่ได้สั่งการไปแล้วผ่านเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) คือ การขอรับการส่งเสริมการลงทุนเดิมใช้เวลานาน จะแก้ไขใหม่รู้ผลภายใน 6 เดือน ว่าจะได้หรือไม่ได้รับการส่งเสริมสิทธิการลงทุน และการลดขั้นตอนขอใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จากเดิมใช้เวลา 180 วัน ให้เหลือแค่ 90 วันเท่านั้น
“รวมถึงแก้ระเบียบการกงสุล ที่ปัจจุบันรุ่มร่าม และทำให้เสียเวลา ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์การเกษตรที่จะส่งออกของเราจึงเน่าเสียก่อน เพราะมัวแต่เสียเวลาเรื่องพวกนี้ ดังนั้นถ้าแก้ตรงนี้ก็สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้า”
เลขาธิการนายกรัฐมนตรียืนยันว่า “จะมีกฎหมายอีกหลายชุดที่จะออกมา เช่น กฎหมาย Financial Hub จะทำให้พร้อมกัน เพราะการทำธุรกิจต้องทำพร้อมทุกเรื่อง ทำทีละเรื่องไม่ได้ ห่านต้องบินพร้อมกันทั้งฝูง แต่ผู้นำฝูงต้องฉลาดพอ และต้องนำทิศให้ถูก”
“ขณะนี้ที่บีโอไอหัวบันไดไม่แห้ง มีนักลงทุนทั้งมาจากจีนและยุโรป เพราะไทยเป็นแดนสวรรค์ เป็นประตูทางเข้าลงทุนที่เปิดกว้าง เงินลงทุนที่ทยอยเข้ามา เป็นเพราะการเดินนโยบายการต่างประเทศที่ถูกต้อง มีบทบาทเชิงรุก เพื่อให้เกิดการส่งเสริมเศรษฐกิจและความมั่งคั่ง โดยเฉพาะบิ๊กเทคมาลงทุนกับเราเป็นจำนวนมาก มีทั้งที่ดีลแล้ว รวมถึงรายเก่าที่จะขยายฐานการลงทุน” นพ.พรหมินทร์ย้ำ
ขยายลงทุนเพิ่ม 5 แสนล้าน อ่านข่าว : https://www.prachachat.net/finance/news-1722556
โฆษณา