เมื่อวาน เวลา 09:19 • ความคิดเห็น

คำถามแห่งชีวิตของจิมมี่ คาร์เตอร์

ปีที่ผ่านมางานหลักงานเดียวที่ผมมีก็คือ ผมเริ่มทำ academic club ที่ชื่อ HOW Club กับคุณกระทิง พูนผล เดิมตอนเริ่มก็ตั้งใจเป็นคลับเนิร์ดๆ ที่ชวนคนเก่งๆ ที่มีความรู้ด้านต่างๆ และหลากหลายมาให้สมาชิกของคลับฟัง แต่พอทำจริงๆ ก็ยากกว่าที่คิดมาก เพราะไม่ใช่แค่เรื่องความรู้ แต่เป็นเรื่องของการสร้างชุมชนที่ช่วยเหลือกันและกัน การสร้างความสนิทสนม และมีไอเดียเพิ่มเติมขึ้นมากจากผู้คนที่มาร่วมในคลับที่ควรทำอีกมากมายๆ ต้นแบบที่ไหนก็ไม่มีในโลก ต้องด้นสดและปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ผ่านมาหนึ่งปี เราจัด session ไปร้อยเจ็ดสิบกว่างาน มีสมาชิกเข้ามาร่วมเรื่อยๆ จนตอนนี้สามร้อยกว่าคนแล้ว ผมไม่แน่ใจว่า HOW Club นั้นดีแค่ไหน อยู่ในระดับที่ทำให้ผู้คนที่มานั้นพึงพอใจที่สุดแล้วหรือยัง แต่ผมแน่ใจมากๆว่าผมได้ตอบคำถามหนึ่งที่ไม่รู้สึกเสียใจภายหลังได้แน่ๆ เป็นคำถามเดียวกับที่จิมมี่ คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐถูกถามสมัยหนุ่มๆ และเปลี่ยนชีวิตเขาตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
ผมฟังและอ่านเรื่องนี้จากเพจ daily stoic และคิดว่าน่าจะเป็นคำถามที่เราทุกคนควรจะถามตัวเองเมื่อเริ่มปี เพื่อที่พอจบปีก็จะไม่ได้เสียใจกับปีที่กำลังจะถึงได้ดีขึ้น…
ในปี 1952 หนุ่มน้อยจิมมี่ คาร์เตอร์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์งานที่อยากทำมากๆ ในชีวิต เป็นงานในโครงการ nuclear submarine ซึ่งผู้สัมภาษณ์ก็เป็นนายทหารที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นผู้นำในประวัติศาสตร์ที่เก่งกาจมากๆ คือนายพล rickover ซึ่งท่านนายพลให้ความสำคัญกับผู้ใต้บังคับบัญชาและสัมภาษณ์ผู้สมัครเองทุกคนในตอนนั้น
ระหว่างการสัมภาษณ์ที่ยาวนานสองสามชั่วโมง ท่านนายพลถามจิมมี่ คาร์เตอร์ตั้งแต่ กลยุทธ์ ยุทธวิธี ความรู้ด้านฟิสิกส์ วรรณกรรม และประวัติศาสตร์ ซึ่งหนุ่มน้อยจิมมี่เตรียมตัวมาอย่างดีมาก ตอบได้แทบทุกคำถาม การสัมภาษณ์ดูจะผ่านไปด้วยดีจนท่านนายพลถามคำถามคำถามหนึ่งว่าตอนที่เรียนอยู่ที่ naval academy นี่ได้ที่เท่าไหร่ หนุ่มน้อยจิมมี่กระหยิ่มใจเพราะเข้าทางมาก ตอบว่าได้ที่ 59 จาก 840 คน คิดว่าท่านนายพลน่าจะประทับใจ แต่หนุ่มน้อยจิมมี่ถึงกับงงเมื่อถูกถามต่อว่า
“แล้วทุกครั้งได้ทำดีที่สุดแล้วหรือไม่” (did you always do your best?)
เดิมหนุ่มน้อยจิมมี่ก็จะตอบเพื่อให้ดูดีว่าใช่ ผมทำดีที่สุดทุกครั้ง… แต่ฉุกคิดถึงความเป็นจริงว่าก็มีหลายครั้งอยู่ที่ขี้เกียจ ถ้าทำเต็มที่ ตั้งใจเต็มที่ก็น่าจะได้เรียนรู้เรื่องศัตรู อาวุธ กลยุทธ์ต่างๆ ได้มากกว่านั้นอีก ก็เลยตอบไปตามความจริงว่า ไม่ได้ทำดีที่สุดทุกครั้ง (no sir, I didn’t always do my best) ซึ่งท่านนายพลก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่มองหน้าหนุ่มน้อยคาร์เตอร์อยู่ซักพักแล้วถามคำถามสุดท้ายว่า
“แล้วทำไมถึงไม่ทำล่ะ”… และก็เดินออกจากห้องไป
อดีตประธานาธิบดี จิมมี่ คาร์เตอร์เล่าว่า ไม่เคยลืมคำถามแห่งชีวิตคำถามนั้นเลย ถึงขนาดว่าตอนเขียนหนังสือก็ยังตั้งชื่อหนังสือว่า Why not the best? เพราะเป็นคำถามที่เป็นเหมือนเข็มทิศแห่งชีวิตของคาร์เตอร์นับจากนั้นเมื่อเวลาทำอะไรแล้ว ทำดีที่สุดแล้วหรือยัง และทำให้เขาพยายามสร้างมาตรฐานที่สูงสุดของงานในชีวิตเสมอนับจากนั้น
1
ในมุมของปรัชญา stoic ที่เพจ daily stoic สรุปไว้ก็คือ เราควบคุมอะไรไม่ได้หลายอย่างในชีวิต แต่ที่เราคุมได้ก็คือตัวเองว่าเราทำเต็มที่ ทำดีที่สุดแล้วหรือยัง
เพราะ Marcus Aurelius ผู้นำทางความคิด stoic และอดีตกษัตริย์แห่งโรมบอกว่า ถ้าเราทำดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้ว… that’s all even the gods can ask of you
ระหว่างการทำ HOW Club ผมก็จะมีความคิดที่จะทำให้วอกแวกและไม่ทำสุดพลังอยู่ระหว่างทาง ไม่ว่าจะมีคนชวนไปทำอะไรที่ได้สตางค์ดีและทำคู่กันไปได้ แค่กินเวลาไปบ้าง แต่ก็ตัดสินใจไม่รับงาน หรือแค่คิด วางแผนแล้วจ้างผู้บริหารมาทำก็ได้นี่นา จะได้ไปทำงานได้ด้วย หรือความที่หลายอย่างไม่เป็นตามตั้งใจ
มีหลายครั้งก็ไม่แน่ใจว่าจะประสบความสำเร็จหรือตัวคลับมันจะอยู่รอดได้หรือไม่ หรือตอนที่พอใช้ได้ประมาณนึงก็คิดว่าได้ถึงตรงนี้ก็น่าจะพอใช้ได้ละมั้ง แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากจะเสียใจภายหลังว่าเราไม่ใส่มันเต็มที่ ก็เลยใส่จนหมดแม็กเท่าที่ปัญญาและพลังจะมี ไม่ได้ออมมือ ไม่ได้ออมแรงใดๆ
พอมาถึงตอนนี้ ถึงสิ้นปี ก็เลยเข้าใจคำถามที่เปลี่ยนชีวิตอดีตประธานาธิบดีว่าถ้าเราทำมันเต็มที่แล้ว เราจะไม่เสียใจภายหลังอย่างแน่นอน แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
ในการเริ่มงานในปีใหม่ที่จะถึงสำหรับใครหลายคน ระหว่างปีก็จะมีความคิดที่จะทำให้เราออมมือไม่ทำเต็มที่อยู่เป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นความลำเอียงของหัวหน้า ความรู้สึกไม่ยุติธรรม เงินเดือนที่ดูน้อยกว่าความหนักของงาน ทำแค่นี้ก็พอผ่านก็น่าจะพอ
หรือทำดีแทบตายก็ไม่เห็นมีใครเห็น ทำไมเราโชคร้ายแบบนี้ แต่ความรู้สึกเหล่านี้คือความรู้สึกของเหยื่อ (victim) ว่าเราควบคุมอะไรไม่ได้เลย เป็นผู้ถูกกระทำอยู่ตลอด แต่ถ้าเราเข้าใจคำถามของท่านนายพลว่า did you always do your best? ก็จะเข้าใจว่าสิ่งที่เราควบคุมได้อย่างเดียวคือตัวเราเองจริงๆ ที่เราจะไม่เสียใจภายหลังเมื่อเวลาผ่านไป
ลองถามตัวเองว่าปีที่ผ่านมา เราทำเต็มที่ ใส่สุดเท่าที่สติปัญญาจะมีในงานที่ทำอยู่แล้วหรือยัง เรารักษามาตรฐานที่สูงแบบไม่มีตกได้หรือไม่ เราพยายามสุดตัวแล้วหรือไม่ ถ้ายังแล้วมีเหตุผลอะไร ทำไมถึงไม่ทำ
บางทีเราก็อาจจะพบเข็มทิศแห่งชีวิตเหมือนที่อดีตประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ได้พบในปีที่จะถึงนี้ก็ได้นะครับ
โฆษณา