25 ธ.ค. 2024 เวลา 13:19 • ธุรกิจ

ทำไมการควบรวมกิจการของผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Honda และ Nissan มักล้มเหลว

การควบรวมกิจการระหว่าง Honda และ Nissan กำลังเป็นประเด็นร้อนในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ของการควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมนี้เต็มไปด้วยความล้มเหลวและความผิดหวัง
การรวมตัวของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ระดับโลกเป็นงานที่ซับซ้อนอย่างมาก ต้องเผชิญกับความท้าทายในการรวมเทคโนโลยี โมเดล และแนวทางการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกัน ความสำเร็จของการควบรวมขึ้นอยู่กับความร่วมมือของผู้บริหารและวิศวกรที่เคยแข่งขันกันมาตลอดหลายปี ต้องมีการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงโครงการ และผู้บริหารต้องยอมสละอำนาจ
Thomas Stallkamp ที่ปรึกษาด้านยานยนต์และอดีตผู้บริหาร DaimlerChrysler กล่าวว่า “บริษัทผู้ผลิตรถยนต์มีโครงสร้างซับซ้อน มีโรงงานหลายแห่งทั่วโลก และพนักงานจำนวนมาก การรวมสองบริษัทเข้าด้วยกันมักเกิดความขัดแย้งและการต่อสู้ภายใน”
ความพยายามควบรวมระหว่าง Honda และ Nissan เกิดจากความยากลำบากในตลาดโลก โดยเฉพาะใน จีน ซึ่งยอดขายลดลงอย่างมาก ขณะที่ผู้บริโภคจีนเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และไฮบริดเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่ง Honda และ Nissan ยังมีรุ่นรถ EV ให้เลือกน้อยมากเมื่อเทียบกับ BYD และ Tesla
ในขณะที่ Honda เผชิญกับปัญหายอดขายลดลง 14% Nissan กลับมีปัญหาที่หนักกว่า กำไรจากการดำเนินงานลดลงถึง 90% และต้องปลดพนักงานกว่า 9,000 คน
แม้ว่าการควบรวมอาจช่วยลดต้นทุนและพัฒนา EV ได้เร็วขึ้น แต่ตัวอย่างจากอดีต เช่น ความร่วมมือระหว่าง Ford และ Volkswagen ในเทคโนโลยี EV และรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ กลับไม่ได้ผลตามเป้าและต้องยุติลง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่าการควบรวมระหว่าง Honda และ Nissan อาจช่วยเสริมกันได้ เช่น Nissan มีเทคโนโลยีในการผลิตรถกระบะขนาดใหญ่ ซึ่ง Honda ยังขาดตลาดนี้
ถึงแม้ว่าจะมีศักยภาพในการสร้างประโยชน์ แต่การควบรวมจะต้องมีการปิดโรงงาน ลดพนักงาน และเลิกโครงการ ซึ่งมักเผชิญแรงต่อต้านจากรัฐบาลและสหภาพแรงงาน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Stellantis ที่เกิดจากการควบรวมระหว่าง Peugeot และ Fiat Chrysler ซึ่งต้องเผชิญแรงกดดันจากรัฐบาลฝรั่งเศสและอิตาลีในการรักษาโรงงาน
การควบรวมกิจการอาจดูเหมือนทางออกที่ดี แต่ความซับซ้อนของอุตสาหกรรมยานยนต์ทำให้ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย
โฆษณา