26 ธ.ค. 2024 เวลา 02:09 • หนังสือ

3 บทเรียนสำคัญจาก Winning : เคล็ดลับที่ทำให้ Jordan และ Kobe กลายเป็นตำนาน

ในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน การก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์ของการทุ่มเทและความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละ
Tim Grover ผู้เขียนหนังสือ Winning ได้ใช้เวลากว่าสองทศวรรษในการศึกษาและทำงานร่วมกับนักกีฬาระดับตำนานอย่าง Michael Jordan และ Kobe Bryant ในฐานะเทรนเนอร์ส่วนตัว ประสบการณ์อันล้ำค่านี้ทำให้เขาได้เรียนรู้และเข้าใจถึงแก่นแท้ของการเป็นผู้ชนะอย่างลึกซึ้ง
จากสนามบาสสู่สนามชีวิต
การเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวให้กับ Michael Jordan ยาวนานถึง 15 ปี และ Kobe Bryant อีก 9 ปี ทำให้ Grover ได้เห็นการพัฒนาและการเติบโตของพวกเขาในทุกแง่มุม ไม่เพียงแค่การเตรียมความพร้อมทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการฝึกฝนทางจิตใจและการสร้างทัศนคติของผู้ชนะ
หลักการและแนวคิดที่พวกเขาใช้ในการก้าวขึ้นสู่ความเป็นเลิศนั้นสามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกแง่มุมของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การแข่งขันในธุรกิจ หรือการบรรลุเป้าหมายส่วนตัวที่ท้าทาย
บทเรียนสำคัญที่ Grover ได้เรียนรู้คือ ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์หรือโชคชะตา แต่เป็นผลมาจากการตัดสินใจและการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกๆ วัน
การเลือกที่จะลุกขึ้นมาซ้อมในขณะที่คนอื่นยังนอนหลับ การยอมอดทนกับความเจ็บปวดในขณะที่คนอื่นเลือกความสบาย และการมุ่งมั่นฝึกฝนต่อไปแม้จะเหนื่อยล้าในขณะที่คนอื่นยอมแพ้
รหัสลับสู่ชัยชนะ
Grover อธิบายถึงการชนะด้วยอุปมาอุปไมยที่น่าสนใจ โดยเปรียบเสมือนว่าชัยชนะครั้งต่อไปของเราถูกเก็บไว้ในตู้เซฟ และมีสิ่งที่เรียกว่า “การชนะ” เป็นผู้ถือรหัสลับ “การชนะ” นี้จะคอยสังเกตและประเมินการกระทำของเราตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ เพื่อพิจารณาว่าเราคู่ควรกับชัยชนะหรือไม่ โดยมีคำถามสำคัญสามข้อที่เราต้องตอบให้ได้
1. ความกล้าที่จะเดิมพันกับตนเอง
ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ผู้ที่ประสบความสำเร็จล้วนต้องผ่านช่วงเวลาแห่งความไม่เชื่อมั่นจากผู้อื่น เหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความกล้าที่จะเดิมพันกับตนเองเกิดขึ้นในปี 1990
หลังจากที่ทีม Chicago Bulls พ่ายแพ้ต่อ Detroit Pistons ในรอบเพลย์ออฟ นักวิจารณ์มากมายต่างลงความเห็นว่า Jordan ไม่มีทางรับมือกับสไตล์การเล่นที่หนักหน่วงของ Pistons ได้
1
แทนที่จะย่อท้อ Jordan กลับทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนักจนสามารถเพิ่มกล้ามเนื้อได้ถึง 15 ปอนด์ในช่วงซัมเมอร์เดียว แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลเสียต่อการยิง แต่เขาก็ยังมุ่งมั่นพัฒนาตนเองต่อไป จนในที่สุดสามารถปรับปรุงเปอร์เซ็นต์การยิงให้ดีขึ้น และนำทีมเอาชนะ Pistons จนคว้าแชมป์แรกได้สำเร็จ
1
เช่นเดียวกับ Kobe Bryant ที่ตัดสินใจก้าวกระโดดเข้าสู่ NBA ทันทีหลังจบมัธยมปลาย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง เพียงสี่ปีต่อมา เขาก็สั่งสมประสบการณ์มากพอที่จะนำทีม Lakers คว้าแชมป์สามสมัยติดต่อกัน
เมื่อถูกท้าทายว่าไม่สามารถคว้าแชมป์ได้โดยปราศจาก Shaquille O’Neal เขาก็พิสูจน์ให้เห็นด้วยการปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นจนสามารถคว้าแชมป์เพิ่มได้อีกสองสมัย
1
และแม้กระทั่งหลังเกษียณจากวงการบาสเกตบอล Kobe ก็ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและความกล้าที่จะท้าทายตัวเองในวงการใหม่ ด้วยการคว้ารางวัล Oscar จากภาพยนตร์สั้นเรื่อง “Dear Basketball” ที่เขาเป็นทั้งผู้บรรยายและผู้ผลิต
1
2. การยอมรับและใช้ประโยชน์จากด้านมืด
หนึ่งในแนวคิดที่น่าสนใจที่สุดในหนังสือ Winning คือการมองด้านมืดในตัวเองในแง่บวก Grover เชื่อว่าทุกคนมีด้านมืดในตัวเอง แต่สิ่งที่แยกผู้ชนะออกจากคนทั่วไปคือความกล้าที่จะยอมรับและใช้ประโยชน์จากมัน
1
Kobe เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้ประโยชน์จากด้านมืด เขาสร้างบุคลิกภาพที่แยกต่างหากในชื่อ “Black Mamba” ซึ่งเป็นเสมือนหน้ากากที่เขาสวมใส่เมื่อต้องการตัดขาดจากสิ่งรบกวนและยกระดับผลงานของตนเอง
1
Black Mamba ไม่ใช่แค่ฉายา แต่เป็นการแปลงร่างทางจิตวิทยาที่ช่วยให้ Kobe สามารถแยกตัวตนส่วนตัวออกจากนักกีฬามืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์
2
Jordan เองก็ใช้ด้านมืดเป็นแรงผลักดัน โดยเฉพาะความผิดหวังจากการถูกตัดตัวจากทีมบาสเกตบอลมัธยมปลาย ความเจ็บปวดนั้นฝังลึกจนกระทั่งเขายังกล่าวถึงในสุนทรพจน์ตอนเข้าหอเกียรติยศหลังผ่านไป 31 ปี แสดงให้เห็นว่าประสบการณ์ด้านลบสามารถกลายเป็นเชื้อเพลิงอันทรงพลังได้หากรู้จักใช้มันอย่างถูกต้อง
5
Grover เปรียบเทียบด้านมืดกับพลังพิเศษของซูเปอร์ฮีโร่ เช่น ชุดเกราะของ Iron Man กำไลข้อมือของ Wonder Woman โล่ของ Captain America ค้อนของ Thor และหน้ากากของ Batman ด้านมืดเป็นเสมือนพลังลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายใน รอเวลาที่จะถูกปลดปล่อยออกมาในยามที่ต้องการ
1
3. การใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล
หนึ่งในบทเรียนที่ยากที่สุดของการเป็นผู้ชนะคือการยอมรับว่าความสำเร็จมักมาพร้อมกับการเสียสละ Grover เล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่สะเทือนใจ เมื่อลูกสาววัย 5 ขวบถามว่า “คุณพ่อคะ ทำไมพ่อต้องเดินทางบ่อยจัง?” เขาอธิบายว่าเขาเดินทางเพื่อทำงานและหาเลี้ยงครอบครัว แต่คำตอบของลูกสาวที่ว่า “ถ้าหนูกินน้อยลง พ่อจะอยู่บ้านมากขึ้นไหมคะ?” ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกรถชน จนต้องหันหน้าหนีเพื่อซ่อนน้ำตาของลูกผู้ชาย
1
Grover ยอมรับว่าถ้าเป็นในภาพยนตร์ พ่อคนหนึ่งอาจจะตัดสินใจเลือกครอบครัวและยุติการเดินทาง แต่ในความเป็นจริง การชนะเรียกร้องความทุ่มเทอย่างไม่มีขีดจำกัด บางครั้งอาจถูกมองว่าคลั่งไคล้ เห็นแก่ตัว หรือละเลยด้านอื่นๆ ของชีวิต แต่นี่คือความจริงที่ผู้ต้องการความสำเร็จต้องเผชิญ
ความไม่สมดุลนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงการกีฬา แต่ปรากฏในทุกสาขาอาชีพที่ต้องการความเป็นเลิศ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นนวัตกรรม ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานระดับโลก ล้วนต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากระหว่างการไล่ตามความฝันกับการใช้เวลากับครอบครัวและชีวิตส่วนตัว
การยอมรับความไม่สมดุลไม่ได้หมายความว่าเราต้องละทิ้งทุกสิ่ง แต่หมายถึงการเข้าใจว่าในช่วงเวลาสำคัญของการไล่ตามเป้าหมาย เราอาจต้องให้ความสำคัญกับบางด้านของชีวิตมากกว่าด้านอื่นๆ เป็นการชั่วคราว ความท้าทายอยู่ที่การหาจุดที่เหมาะสมระหว่างการทุ่มเทเพื่อความสำเร็จกับการรักษาความสัมพันธ์ที่สำคัญในชีวิต
1
ราคาของชัยชนะ
Grover เน้นย้ำว่าการชนะไม่ใช่สิ่งที่จะครอบครองได้ถาวร แต่เปรียบเสมือนการเช่าที่ต้องจ่ายค่าเช่าใหม่ทุกวัน แม้จะประสบความสำเร็จแล้ว ก็ต้องพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่และฝ่าฟันอุปสรรคอีกครั้งเพื่อรักษาความสำเร็จนั้นไว้
1
เขาอธิบายว่า “การชนะไม่สามารถเป็นเจ้าของได้ เราแค่เช่ามันได้เท่านั้น และไม่ว่าเราจะจ่ายเท่าไหร่ เราก็ต้องจ่ายทั้งหมดอีกครั้งเมื่อตื่นขึ้นหลังจากชัยชนะ”
1
ความสำเร็จเปรียบเสมือนการปีนเขา เมื่อถึงยอดเขาลูกหนึ่ง เรามักจะเห็นยอดเขาที่สูงกว่ารออยู่เบื้องหน้า การรักษาตำแหน่งผู้นำหรือแชมป์มักจะยากกว่าการก้าวขึ้นไปถึงจุดนั้นเสียอีก เพราะทุกคนต่างจับจ้องและพยายามที่จะแซงขึ้นมา
1
บทเรียนสุดท้าย: เวลาคือทรัพยากรที่มีจำกัด
1
ท้ายที่สุด Grover เตือนว่าเวลาและโอกาสนั้นมีจำกัด เขามักพูดคุยกับ Kobe เสมอว่าไม่ควรคิดว่าเรามีเวลาเหลือเฟือ ซึ่งการจากไปอย่างกะทันหันของ Kobe ในปี 2020 ยิ่งตอกย้ำความสำคัญของการลงมือทำในวันนี้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร
การรอคอยเวลาที่เหมาะสมอาจเป็นข้ออ้างที่อันตรายที่สุดในการไม่ลงมือทำ เพราะความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตคือการคิดว่าเรามีเวลาเหลือเฟือ ทักษะและโอกาสของเรามีวันหมดอายุ และบางครั้งเราอาจไม่ได้รับโอกาสที่สองให้แก้ตัวอีกต่อไป
1
บทสรุป
หนังสือ Winning ไม่เพียงแต่เป็นคู่มือสู่ความสำเร็จ แต่ยังเป็นการเปิดเผยความจริงอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับราคาที่ต้องจ่ายเพื่อก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด Grover ได้ถ่ายทอดบทเรียนอันล้ำค่าที่ได้เรียนรู้จากการทำงานร่วมกับนักกีฬาระดับตำนาน ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกแง่มุมของชีวิต
หนังสือเล่มนี้อาจไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน แต่สำหรับผู้ที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจและแนวทางในการยกระดับตัวเองสู่ความเป็นเลิศ Winning จะเป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนให้เห็นว่าเราพร้อมที่จะจ่ายเพื่อความสำเร็จมากแค่ไหน และช่วยให้เราเข้าใจว่าทำไมบางคนถึงประสบความสำเร็จในขณะที่คนส่วนใหญ่ยังคงติดอยู่กับความฝัน
References :
หนังสือ Winning: The Unforgiving Race to Greatness โดย Tim Grover
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา