การประยุกต์ใช้ Agentic AI และ Generative AI ในปฏิบัติการทางทหาร
โดย Chaiyot@J6
ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทสำคัญในหลากหลายด้าน การนำ AI มาใช้ในภาคการทหารได้กลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เนื่องจาก AI มีศักยภาพในการเสริมสร้างความแม่นยำ ประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นในปฏิบัติการ การใช้ Agentic AI และ Generative AI ถือเป็นการผสมผสานความสามารถที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางทหารอย่างมีนัยสำคัญ บทความนี้จะกล่าวถึงบทบาท คุณลักษณะ และการประยุกต์ใช้ AI ทั้งสองประเภท พร้อมทั้งยกตัวอย่างจริง รวมถึงการวิเคราะห์ข้อดี ข้อจำกัด และประเด็นทางจริยธรรม
บทบาทและคุณลักษณะของ AI ทั้งสองประเภท
Agentic AI คือระบบที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงานอย่างอัตโนมัติเพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนด โดยสามารถตัดสินใจและดำเนินการได้ด้วยตนเองภายใต้กรอบการทำงานที่ตั้งไว้ล่วงหน้า บทบาทสำคัญของ Agentic AI ในการทหาร ได้แก่:
- การใช้ Agentic AI ในอาวุธอัตโนมัติสร้างคำถามด้านความรับผิดชอบในกรณีที่เกิดความผิดพลาด
2. **อคติในข้อมูล**
- Generative AI อาจสร้างเนื้อหาที่มีอคติหากข้อมูลที่ใช้ฝึกมีปัญหา
3. **ความเป็นส่วนตัว**
- AI ทั้งสองประเภทต้องพึ่งพาข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งอาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้เกี่ยวข้อง
4. **ความปลอดภัยจากการโจมตีทางไซเบอร์**
- ระบบ AI อาจถูกเจาะข้อมูลหรือควบคุมโดยฝ่ายตรงข้าม ส่งผลกระทบต่อปฏิบัติการทั้งหมด
บทสรุป
การนำ Agentic AI และ Generative AI มาใช้ในปฏิบัติการทางทหารสามารถยกระดับศักยภาพด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Agentic AI ช่วยในด้านการทำงานอัตโนมัติและการตัดสินใจ ในขณะที่ Generative AI สนับสนุนด้านข่าวกรอง การวางแผนกลยุทธ์ และการฝึกอบรม อย่างไรก็ตาม การใช้ AI เหล่านี้จำเป็นต้องมีกรอบจริยธรรมที่เข้มงวดเพื่อป้องกันความเสี่ยงและส่งเสริมความรับผิดชอบในปฏิบัติการทางทหาร การรวมพลังของทั้งสองระบบจึงอาจเป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาความมั่นคงในอนาคตอย่างยั่งยืน