9 ปีแห่งรัก เทนนิส-จูเนียร์ สู้สุดชีวิต ฝ่าทุกปัญหาจนถึงเส้นชัยในตอนจบ
ความรักของ เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ กับ จูเนียร์-รามณรงค์ เสวกวิหารี เป็นความสัมพันธ์ที่น่าประทับใจมาก เพราะพวกเขา เก็บซ่อนความรักครั้งนี้ไม่ให้ใครรู้ มายาวนานเกือบทศวรรษ
แม้ต้องเจออุปสรรคมากมาย แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือกัน จนในวันนี้ กำลังจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว
เทนนิส กับ จูเนียร์ เคยเล่าเรื่องความสัมพันธ์เอาไว้ในสื่อหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ รายการ Club Friday Show เราจึงได้รู้ว่า กว่าทั้งคู่จะมีวันนี้ได้ ก็ผ่านอะไรมาเยอะทีเดียว
ในสมัยมัธยมต้น เทนนิสเรียนอยู่ที่บ้านเกิด - จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่หลังจากคว้าเหรียญทองเทควันโด้ ในกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ปี 2011 รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 42 กิโลกรัมหญิง สมาคมเทควันโด้แห่งประเทศไทย นำโดยโค้ช เช ยอง-ซ็อก จึงเรียกเธอเข้ามาเป็นเยาวชนทีมชาติ โดยให้มาร่วมซ้อมที่สมาคมฯ ซึ่งมีโรงฝึกอยู่ใกล้ๆ กับสนามราชมังฯ ที่หัวหมาก
วันนั้น เทนนิสจึงย้ายโรงเรียน จาก ม.ต้น ที่สุราษฎร์ธานี มาเรียนต่อ ม.ปลาย ที่โรงเรียนเทพลีลา บริเวณถนนรามคำแหง เพราะจะได้เดินทางไปซ้อมเทควันโด้ได้สะดวก
ในช่วงที่อยู่ ม.ปลาย เทนนิสมีความรักครั้งแรกกับรุ่นพี่คนหนึ่ง แต่พอคบกันได้ 2 ปี ความสัมพันธ์ก็ค่อยๆ จืดจางลงไป
พอรุ่นพี่ เข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เขาก็เริ่มห่างหาย เปลี่ยนไปกลายเป็นอีกคน
จุดที่ทำให้เทนนิสรู้ตัวว่า โดนเท คือวันครบรอบ 2 ปี รุ่นพี่คนนั้นไม่ติดต่อมาเลย ไม่สนใจใยดีอีกต่อไป เธอจึงยอมรับความจริงว่า โดนทิ้งแล้ว
เทนนิสเล่าว่า "ตอนนั้นหนูอกหักครั้งแรก ร้องไห้หนักมากค่ะ หนูไม่เคยโดนทิ้งมาก่อน มันเลยเป็นความรักที่เจ็บปวดมาก เพราะเราปฏิบัติตัวดีแบบนี้ แต่ทำไมต้องมาเจอความรักที่ไม่ดีกับเราเลย มันเฟลมากๆ ค่ะ"
"ช่วงนั้นเฟลมาก ดาวน์มาก ร้องไห้ แล้วเราเป็นทีมชาติอยู่ด้วย ก็ต้องไปซ้อม ทั้งๆ ที่ยังเศร้า เวลาไปวิ่งลดน้ำหนักอะไร หนูก็วิ่งไปร้องไห้ไป"
เทนนิสใช้เวลาเยียวยาแผลใจประมาณ 1 เดือน จิตใจถึงเริ่มดีขึ้น โดยเธอใช้วิธี "อยู่กับเพื่อน" ที่เป็นนักกีฬาเยาวชนทีมชาติด้วยกัน พอมีคนคุยด้วย บวกกับการซ้อมหนักในแต่ละวัน ความเฮิร์ทจากการถูกทิ้ง ก็ค่อยๆ เจือจางลง
หนึ่งในเพื่อนที่ให้กำลังใจเทนนิสมาตลอด ตั้งแต่ตอนนั้น มีชื่อว่า จูเนียร์- รามณรงค์
เทนนิสได้แชมป์เยาวชนแห่งชาติ ในปี 2011 ถัดจากนั้นปีเดียว จูเนียร์ได้แชมป์เยาวชนแห่งชาติ รุ่นน้ำหนัก 45 กิโลกรัมชาย ในปี 2012 และถูกโค้ชเช เรียกตัวมาติดทีมชาติเช่นกัน
สองคนนี้จึงรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะเข้ามาฝึกเทควันโด้ที่สมาคมฯ ในช่วงเวลาไล่ๆ กัน ตั้งแต่ตอนเทนนิสอายุ 14 และจูเนียร์อายุ 15
คือเห็นกันมาตั้งแต่แรก ฝึกด้วยกัน กินด้วยกัน ใช้เวลาร่วมกันมาตลอด
ในช่วงแรก ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้ คือ เพื่อนแบบเพื่อนจริงๆ เทนนิสเล่าว่า "จูเนียร์อายุมากกว่าหนู 1 ปี แต่เราก็ไม่ได้เรียกเขาว่าพี่ คือเขาตัวเล็กๆ น่าแกล้ง เราก็เลยแกล้งเขามาตั้งแต่เด็กๆ เลย"
"จูเนียร์มันกวนประสาทค่ะ เหมือนเรากัดกันตลอดเวลา เจอหน้ากันก็แซวกันตลอด แต่เราไม่ได้เกลียดกันนะคะ"
สองคนแหย่กันไปแหย่กันมา ไม่มี Vibe ของคนจีบกัน จูเนียร์เคยถามเล่นๆ ว่า 'ถ้าเหลือจูเนียร์เป็นผู้ชายคนเดียวในโลก เทนนิสจะเอาไหม?' เทนนิสตอบว่า 'ขอโสดตายดีกว่า'
นั่นคือโมเมนต์ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มเปลี่ยนไป ในจังหวะที่เทนนิสเปราะบาง เพราะถูกรุ่นพี่ทิ้ง
บังเอิญที่ตอนนั้น จูเนียร์ก็อกหักเหมือนกัน ทั้งสองคนก็เลยนั่งปรึกษากัน และช่วยกันเลียแผลใจให้อีกฝ่าย
เทนนิสเล่าว่า "จูเนียร์ยังช่วยดึงสติให้หนูด้วย ตอนที่หนูเลิกกับรุ่นพี่ที่คบกัน 2 ปี หนูร่างข้อความไว้ 1 หน้ากระดาษว่าแบบ ทำไมทำกับเราแบบนี้ เตรียมโพสต์ในโซเชียลมีเดียแล้ว แต่จูเนียร์ก็บอกว่า 'ทำอะไรอะ' สุดท้ายเราก็เลยไม่ได้โพสต์มันลงไป"
เมื่อเทนนิส กับ จูเนียร์ ได้มาคุยกันจริงๆ ไม่ได้มีแต่แหย่กันเล่นแล้ว ความสนิทจึงเพิ่มมากขึ้นทีละนิด จากเส้นของคำว่าเพื่อน พวกเขาก็ค่อยๆ ก้าวข้ามเส้นนั้นไป
"ความรู้สึกแปลกๆ ของเราสองคน เกิดขึ้นตอนเขามารับหนูที่โรงเรียนค่ะ ร้อยวันพันปีไม่เคยมา แต่วันนั้นเขาโทรมา ถามว่า 'อยู่ไหน เลิกหรือยัง ไปกินข้าวกัน อยู่หน้าโรงเรียนแล้ว' หนูก็บอกว่ามารับหรอ มารับทำไมอะ เดี๋ยวตอนไปซ้อมก็เจอกันแล้ว"
ณ เวลานั้น เทนนิสอยู่ที่โรงเรียนเทพลีลา ส่วนจูเนียร์ เรียนที่ รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา อยู่ห่างกันประมาณ 6.5 กิโลเมตร แต่จูเนียร์ ก็รีบเลิกเรียนเพื่อไปรับเทนนิสก่อน
"สุดท้ายเขาก็มารับเราไปกินข้าวกันสองคน จากนั้นค่อยไปซ้อม ตอนนั้นเราก็เอ๊ะแรกค่ะ จากนั้นเอ๊ะที่สองคือ จะมีวันเสาร์ที่เป็นวันเกิดหนู เขาพาหนูไปทำบุญที่วัดหลวงพ่อโสธร"
ปกติคนเราถ้าไม่ชอบกัน จะชวนไปต่างจังหวัดสองคนกันแบบนี้หรือ?
ในวันที่ไปทำบุญที่วัดหลวงพ่อโสธร ไม่รู้ทำไม แต่เทนนิส ตัดสินใจ 'แต่งหน้า' เธอรู้สึกว่าสมควรจะสวย ทั้งๆ ที่ปกติถ้าไปกับเพื่อนเฉยๆ ก็ไม่น่าจะคิดอะไรแบบนี้
เมื่อเห็นปั๊บ จูเนียร์ถามว่า 'แต่งหน้าทำไมอะ' เทนนิสก็ปากแข็งตอบไปว่า 'แล้วทำไมอะ ผู้หญิงเขาก็แต่งหน้ากันทั้งนั้น'
โมเมนต์ของความรัก เริ่มมีให้เห็น และมันค่อยๆ ผลิบานขึ้นช้า ตามเวลาที่ทั้งคู่มีร่วมกัน
การติดทีมชาติไทย แปลว่าทั้งสองคนจะได้ไปแข่งต่างแดนด้วยกันอยู่เสมอ เมื่อได้ทำนี่ ทำนั่นด้วยกัน จึงมีโมเมนต์กุ๊กกิ๊กกันเรื่อยมา เป็นช่วงเดาใจอีกฝ่ายว่าชอบเราไหม ถ้าหากพูดความในใจไป แล้วจะเสียเพื่อนหรือเปล่า
จนมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุด ในปี 2015 เมื่อเทนนิส (17 ปี) กับ จูเนียร์ (18 ปี) ที่ตอนนี้ติดทีมชาติชุดใหญ่ทั้งคู่แล้ว ไปลงแข่งขันรายการเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ ที่เมืองเชลยาบินส์ ประเทศรัสเซีย
เทนนิสเล่าว่า "ในช่วงระหว่างแข่ง จูเนียร์เอากระดาษ Post-It มาแปะหลังหนู แล้วบอกว่า 'กลับห้องไป ไปดูในกระจกนะ เดี๋ยวจะเห็นอะไรบางอย่าง' พอหนูกลับไป เห็นกระดาษ Post-It เขียนคำว่า 'สู้ๆ นะ' อยู่"
จุดนั้นเทนนิสก็รู้ว่าจูเนียร์ชอบแล้ว แต่จูเนียร์ก็ยังไม่ได้สารภาพรักอะไร เพราะทั้งคู่มีโปรแกรมลงแข่งในรายการเวิลด์แชมเปี้ยนชิพก่อน
ในการแข่งที่รัสเซียครั้งนั้น เทนนิสได้เหรียญทองรุ่น 46 กก. หญิง ส่วนจูเนียร์ได้เหรียญทองแดง รุ่น 54 กก. ชาย ถือว่าทำผลงานได้โอเคมากๆ ทั้งสองคน
เมื่อกลับมาไทย จูเนียร์ตัดสินใจว่า ได้เวลาที่ต้องบอกความในใจแล้ว
เขาจึงพิมพ์ไลน์ไปหาเทนนิสแล้วถามว่า "เราคุยกันได้สักพักหนึ่งแล้ว รู้สึกว่าเราเข้าใจกันดี เทนนิสอยากลองเป็นแฟนกันดูไหม"
เทนนิสเล่าว่า "ตอนเห็นไลน์ก็ตกใจเหมือนกัน หนูนั่งอยู่ในรถกับพ่อด้วย จะโทรกลับก็ไม่ได้ สุดท้ายพอลงจากรถ ก็เลยโทรหา ให้จูเนียร์พูดให้ฟังอีกที แล้วหนูก็ตอบว่า 'โอเคค่ะ'"
ในที่สุด 2 นักกีฬาทีมชาติก็ได้เป็นแฟนกัน ความรักในโลกเทควันโด้สามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ
อย่างไรก็ตาม เส้นทางความรัก ที่น่าจะสวยงาม กลับเจอทางตันอย่างรวดเร็ว เพราะกฎของสมาคมเทควันโด้แห่งประเทศไทย ระบุว่า นักกีฬาทีมชาติ "ห้ามเป็นแฟนกันเอง"
เหมือนกับหลายๆ องค์กร ที่มีกฎไม่ให้พนักงานในบริษัทคบหากันเอง โดยสาเหตุที่สมาคมออกกฎนี้ ก็เพราะถ้าหากนักกีฬาสองคนที่คบกัน เกิดมีเรื่อง หรือทะเลาะอะไรกันขึ้นมา ก็จะนำบรรยากาศมาคุ เข้ามาสู่แคมป์ทีมชาติด้วย เพื่อตัดปัญหา จึงมีกฎนี้วางไว้ อยากมีแฟนก็ไปมีข้างนอกเอา
และสมมุติ ว่ามีคนฝ่าฝืน ถ้าหากโดนจับได้ว่าคบกันเมื่อไหร่ ต้องมีนักกีฬาหนึ่งคน ลาออกจากทีมชาติทันที
หลังจากคบกันได้ระยะหนึ่ง ด้วยความไม่ระวังตัว ทั้งคู่จึงโดนจับได้ว่าเป็นแฟนกัน และตามกฎของสมาคมต้องมีหนึ่งคนลาออกไป
ข้อเสียของการลาออกจากทีมชาติ คือ คุณจะไม่ถูกส่งไปแข่งในรายการต่างๆ ในระดับนานาชาติ
อีเวนต์สำคัญ ทั้งโอลิมปิก ชิงแชมป์โลก เอเชียนเกมส์ ซีเกมส์ คุณต้องมี Label ของการเป็น "นักกีฬาทีมชาติ" เท่านั้น
ถ้าลาออกไปแล้ว วิธีการที่จะกลับมาสู่ทีมชาติได้ คือต้องลงแข่งขันในรายการชิงแชมป์ประเทศไทย แล้วคว้าแชมป์ให้ได้เท่านั้น ก็จะได้สิทธิ์มาคัดตัวทีมชาติอีกรอบ
และคนที่ยอมเสียสละ ลาออกจากทีมชาติ คือ จูเนียร์
ณ เวลานั้น ในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง มีคนเก่งๆ เยอะมาก หนึ่งในนั้นคือ ชนาธิป ซ้อนขำ (เหรียญทองแดง โอลิมปิก 2012, เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2014) ถ้าหากเทนนิสลาออกจากทีมชาติ ก็ไม่มีอะไรการันตีว่าเธอได้แชมป์ประเทศไทย และคัมแบ็กกลับมาติดทีมได้ทันที
จูเนียร์อยากให้เทนนิสอยู่กับทีมชาติต่อ เธอคือนักกีฬาพรสวรรค์ระดับโลก ที่เตรียมจะผลิบานในอนาคต ดังนั้น ควรได้รับการฝึกฝนจากโค้ชอันดับหนึ่งอย่างโค้ชเช แบบใกล้ชิดในทุกๆ วัน เพื่อพัฒนาต่อไปให้ถึงขีดสุด
ดังนั้นจูเนียร์จึงขอลาออกไปเอง เพื่อให้เทนนิสได้อยู่ต่อ และสัญญากับเทนนิสว่า เขาจะรีบกลับมาให้ได้
เทนนิสอธิบายว่า "ระหว่างที่จูเนียร์ออกไป เราก็เคว้งเหมือนกัน เราบอกเขาว่า 'รีบๆ กลับมานะ สู้ตรงนี้คนเดียวมันเหนื่อยมาก ทั้งวิ่งเช้า กลางวัน เย็น แต่ละวันที่อยู่คนเดียวมันผ่านไปได้ยากมากๆ เลย' จูเนียร์บอกว่าจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะได้กลับมาอยู่ทีมชาติอีกครั้ง ซึ่งเราก็เชื่อมั่นในตัวเขา"
ช่วงที่ลาออกไป จูเนียร์จึงไม่ได้ฝึกกับโค้ชเช และไม่มีทีมงานสมาคมช่วยดูแล เขาต้องไปซ้อมด้วยตัวเอง สู้ด้วยตัวเองคนเดียว
แม้จะยากลำบาก แต่สุดท้ายจูเนียร์ก็ทำได้จริงๆ เขาคว้าแชมป์ประเทศไทย จนได้สิทธิ์กลับมาติดทีมชาติอีกรอบ และกลับมาอยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมอีกครั้ง
จูเนียร์เล่าว่า "ตอนนั้นผมบอกเทนนิสว่า 'จะไม่ไปไหนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะอยู่ข้างๆ ตลอด' และผมให้คำสัญญาว่าจะมีเขาเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นด้วย"
คู่รักนักเทควันโด้ จึงได้กลับมาอยู่ด้วยกัอนอีกครั้ง ได้ซ้อมด้วย ได้ไปแข่งด้วยกันตามเดิม
ดูเผินๆ ก็น่าจะราบรื่นดี แต่ทว่า ปัญหายังไม่จบแค่นั้น
การกลับมาคราวนี้ ถ้าโดนจับได้อีกว่ายังคบกันอยู่ จูเนียร์ (หรือเทนนิส) ก็ต้องโดนขับไล่ ออกจากทีมชาติไปอีกรอบ ดังนั้น พวกเขาจึงมีสองทางเลือก คือ 1 เลิกกัน หรือ 2 แอบคบกันแบบไม่ให้ใครรู้
สุดท้ายทั้งคู่เลือกทางที่ 2 โดยเทนนิสอธิบายว่า "เราก็มาคุยกันเลยค่ะว่า จะคบกันต่อไหม หรือจะเลิกกัน แต่สุดท้ายเราก็ได้ข้อมติ คือ มันรักกันไปแล้ว"
ดังนั้นทั้งสองคน จึงตัดสินใจ "เล่นละคร" แกล้งว่าไม่ได้เป็นแฟนกันอีกแล้ว ที่สนิทกัน แค่เป็นเพื่อนร่วมทีมชาติกันเท่านั้น
ตอนอยู่ด้วยกันอาจจะรักกัน พูดกันหวานๆ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น ทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน พูดหยาบใส่กัน ใช้สรรพนามว่ามึง-กู ไม่แสดงท่าทีว่าเป็นคนรักกันเลย เพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย ทั้งผู้ใหญ่ของสมาคม รวมถึงโค้ชเชด้วย
"มีครั้งหนึ่งเราไปกินข้าวกันสองคน แล้วบังเอิญมีเพื่อนๆ ในทีมชาติไปกินร้านนั้นพอดี หนูต้องวิ่งไปหลบในห้องน้ำ 10-15 นาที ไม่ให้เขาเห็นเราอยู่ด้วยกัน เพราะเดี๋ยวเรื่องไปถึงหูผู้ใหญ่อีก"
ที่สำคัญ เวลาไปเที่ยวไหนกันมาสองคน รูปถ่ายคู่กันก็ต้องเก็บเอาไว้ในโทรศัพท์ โพสต์บอกใครไม่ได้ เป็นความลับที่ต้องซ่อนไว้อยู่อย่างนั้น ตราบใดที่ยังเป็นนักกีฬาทีมชาติอยู่
เทนนิส กับ จูเนียร์ สร้างความทรงจำร่วมกัน ในโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียว เมื่อทั้งคู่ เป็นนักเทควันโด้เพียงแค่ 2 คน ที่ได้โควต้าในรอบนั้น ทั้งคู่จึงเดินทางไปแข่งด้วยกัน คิดดูว่า คู่รักได้ไปอยู่หมู่บ้านนักกีฬาด้วยกัน ได้เชียร์กันให้ไปถึงความฝัน มันเป็นอะไรที่สุดยอดขนาดไหน
และครั้งนั้นเอง ที่เทนนิสสร้างประวัติศาสตร์ ได้เหรียญทองโอลิมปิกในที่สุด ขณะที่จูเนียร์ก็เกือบได้เหรียญเหมือนกัน แต่ตกรอบควอเตอร์ไฟนอล อย่างน่าเสียดายมากๆ สาเหตุเพราะมีอาการบาดเจ็บกระดูกร้าว ตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม
จริงๆ จูเนียร์ ถือเป็นนักกีฬาพรสวรรค์คนหนึ่ง เขาเป็นนักเทควันโด้ชายเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ ที่ได้เหรียญทองซีเกมส์ 3 สมัย (2013 เนปิดอว์, 2017 กัวลาลัมเปอร์, 2019 มะนิลา)
อย่างไรก็ตาม ด้วยอาการบาดเจ็บที่รุมเร้า และไม่ได้รับการรักษาอย่างดีพอ ทำให้เขาไปไม่สุดทาง ก็ต้องบอกว่าน่าเสียดายมากจริงๆ
แต่ถ้าถามเรื่องความสามารถ จูเนียร์ไม่เป็นรองใคร ถ้าไม่บาดเจ็บไปก่อน เหรียญโอลิมปิกก็ไม่ใช่แค่ความฝัน
หลังจบซีเกมส์ที่กัมพูชาในปี 2023 ที่เขาคว้าเหรียญเงิน จูเนียร์ก็ตัดสินใจว่าจะพักจากการแข่งไว้ก่อน
และตลอดหนึ่งปีนี้ จะทำหน้าที่เป็น "คู่ซ้อม" ให้เทนนิส เพื่อเตรียมตัวให้เธอพร้อมที่สุด ก่อนแข่งขันโอลิมปิกที่ปารีส ปี 2024
เทนนิส ณ เวลานั้น คือนักเทควันโด้ที่เก่งที่สุดในโลก ดังนั้นเธอจึงมีโปรแกรมการซ้อมที่หนักมาก ยิ่งไปกว่านั้นยิ่งการแข่งใกล้เข้ามาเท่าไหร่ ยิ่งมีปัญหาเรื่องอารมณ์ ที่ขึ้นๆ ลงๆ
ดังนั้นจูเนียร์ จึงเข้าไปซัพพอร์ทตรงนี้ เทนนิสอยากซ้อมหนักแค่ไหน อยากเตะใส่เท่าไหร่ ก็อัดมาได้เลย เขารับได้หมด เช่นเดียวกับเรื่องจิตใจ ที่จูเนียร์อยู่เป็นกำลังใจให้กันเสมอ เขาเองก็เป็นโอลิมเปี้ยน เป็นนักกีฬาระดับแถวหน้าของประเทศมาก่อน จึงเข้าใจดีว่าความเหนื่อย ความเครียด โดยเฉพาะช่วงที่ต้องลดน้ำหนัก มันสาหัสขนาดไหน
จูเนียร์ เป็นคู่ซ้อมอยู่กับเทนนิสมาตลอดปี เขาร่วมเดินทางไปกับเธอทุกที่ เพื่อช่วยเทรนนิ่งอย่างใกล้ชิด
และก่อนจะถึงการแข่งขันโอลิมปิกที่ปารีส ในวันสุดท้ายหลังจากซ้อมให้เทนนิสเสร็จทุกอย่างแล้ว จูเนียร์ได้เดินไปบอกโค้ชเช ว่า "ขอลาออกจากทีมชาติ"
เขาไม่อยากปิดบังแล้วถึงความสัมพันธ์ในครั้งนี้
จากนี้ไปจะไม่มีการละคร ไม่มีแกล้งเป็นเพื่อน เพราะเขาอยากไปเชียร์เทนนิสในโอลิมปิกที่ปารีส ในฐานะคนรัก
การแข่งขันที่ปารีส เทนนิสระเบิดผลงานมาสเตอร์พีซออกมา ด้วยการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้สำเร็จ เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศ
สิ่งแรกที่เทนนิสทำหลังจากได้เหรียญทองคือ ประกาศว่า "พอแล้ว" เธอจะรีไทร์จากอาชีพนักเทควันโด้ และไปทำในหลายๆ สิ่งที่อยากทำ แต่ทำไม่ได้ในอดีต
เช่น เรื่องการกิน เธอต้องคุมน้ำหนักตลอดเวลาไม่ให้เกิน 49 กิโลกรัม ต้องร้องไห้ มาไม่รู้กี่หน คราวนี้เธอก็กินอย่างที่ใจต้องการได้เสียที
รวมถึงอีกเรื่องคือ ความรักกับจูเนียร์ ที่เธอไม่อยากปิดบังอีกต่อไปแล้ว
ทั้งคู่คบกันมา 9 ปีเต็มแล้ว หมดเวลาของการเล่นละคร เธออยากบอกให้โลกรู้ ว่าความรักของทั้งสองคนมันสวยงามขนาดไหน
หลังจากคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้สำเร็จ เทนนิสลงรูปในอินสตาแกรม เป็นมือของเธอ กับ มือของผู้ชายคนหนึ่ง กำลังกุมเหรียญโอลิมปิกด้วยกันอยู่ บริเวณริมแม่น้ำแซน
แน่นอนว่า ผู้ชายคนนั้นคือจูเนียร์ ที่บินจากไทยเพื่อไปเชียร์เทนนิสนั่นเอง สุดท้ายพวกเขาก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าคบกัน
ในข้อเท็จจริงคือคนในสมาคม รวมถึงโค้ชเช ก็รู้อยู่แล้ว แต่แกล้งปิดตาข้างหนึ่ง ทำเป็นมองไม่เห็น เพราะเด็กๆ ทั้งสองคนตั้งใจจริง ต่างยอมอดทนเพื่อความฝัน และยอมปิดบังนานหลายปี ว่าไม่ได้คบกัน ไม่โพสต์ ไม่พูดถึง รักษากฎให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่มาในคราวนี้ เมื่อจูเนียร์ลาออก และ เทนนิสรีไทร์ ก็ไม่มีอะไรจะปิดบังความรู้สึกของทั้งคู่ได้อีกต่อไป
ที่ปารีสในวันนั้น ทั้งประเทศไทยก็ได้รู้ว่า ทั้งสองคน รักกันมายาวนาน ตลอด 9 ปีเต็ม และไม่เคยหยุดรักกันเลย
15 สิงหาคม 2024 หนึ่งสัปดาห์หลังคว้าเหรียญทองที่ปารีส เทนนิสลงรูปคู่กับจูเนียร์ ในอินสตาแกรม รัว 20 รูปพร้อมกัน เป็นรูปที่่เก็บสะสมมาตลอดตั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมเขียนแคปชั่นว่า "อดทนเก็บความในใจ แล้วรอแค่วันเวลา..."
นั่นคือประโยคจากเพลง พรุ่งนี้...ไม่สาย ของทาทา ยัง ความหมายคือ ทั้งสองคน รอคอยเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อที่จะได้มีความสุขทุกอย่าง ทั้งอาชีพการงาน และความสัมพันธ์
ตอนนี้ เทนนิส กับ จูเนียร์ มีชีวิตที่สวยงาม ทั้งสองคนเปิดโรงเรียน "พาณิภัค เทควันโด้" ด้วยกัน ช่วยกันสร้างธุรกิจเล็กๆ ไปด้วยกันทีละก้าว
และในวันคริสต์มาส 25 ธันวาคม 2024 จูเนียร์คุกเข่าขอเทนนิส แต่งงาน ที่ริมทะเลจังหวัดกระบี่
และแน่นอน She said yes!
หลายคนอาจคิดว่า เฮ้ย เปิดตัวแป้บเดียว แต่งงานกันเลยหรอ? แต่ในความจริงพวกเขาคบกันมานานมากๆ แล้ว มากพอที่จะรู้ใจอีกฝ่าย
บทสรุปของความสัมพันธ์ครั้งนี้ เราจะเห็นว่า แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ยาก ต้องปิดบังซ่อนเร้น และมีอุปสรรคมากมาย แต่พวกเขาก็ผ่านมันมาได้
9 ปีแห่งความรัก ที่อาจจะไม่ง่าย แต่สองนักเทควันโด้ทีมชาติไทย ก็ก้าวมาถึงจุดนี้ได้จริงๆ
เรื่องของเทนนิส กับ จูเนียร์ มันทำให้เราได้เห็นว่า ถ้าคนสองคนรักกันมากพอล่ะก็ พวกเขาจะพร้อมสู้ปัญหาทุกอย่างไปด้วยกัน ไม่ยอมทิ้งใครไว้กลางทาง
ถ้ามือสองข้าง ของเราสองคน จับกันไว้อย่างมั่นคงล่ะก็ ความฝันมากมายที่วาดไว้ ก็สามารถเดินไปถึงได้อย่างแน่นอน
#TAEKWONDOINLOVE
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
