"Galaxy S24 ซีรีส์" ผู้นำเทรนด์มือถือ AI แบบ On-Device
คืนวันที่ 17 มกราคม 2567 ตามเวลาประเทศไทย ค่ายเทคยักษ์อย่างซัมซุง ประกาศเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อย่าง "Samsung Galaxy S24 ซีรีส์" สมาร์ตโฟนระดับเรือธงรุ่นใหม่ของแบรนด์ ที่ไม่ใช่แค่สมาร์ตโฟนธรรมดา แต่ได้ชื่อว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมฟีเจอร์ AI แบบ On-Device เครื่องแรกของโลก มาพร้อมกับฟีเจอร์ AI ที่ซัมซุงพัฒนาต่อยอดจากโมเดล Gemini ของ Google กลายมาเป็น "Galaxy AI" ให้ใช้งานโดยไม่ต้องโหลดแอปฯ เสริมใด ๆ
ซึ่งฟีเจอร์ Galaxy AI ที่มีให้ใช้บน Galaxy S24 ซีรีส์นั้นมีอยู่หลากหลาย ตั้งแต่การค้นหาคน สัตว์ สิ่งของที่ต้องการผ่านการวงหรือระบายทับอย่าง Circle to Search การแปลภาษาระหว่างสนทนาแบบเรียลไทม์อย่าง AI Real Time Translate ไปจนถึง Image Edit AI ปรับแต่งภาพทั้งลบคนไปจนถึงเติมภาพต่าง ๆ ให้สมบูรณ์แบบ
หรือจะเป็น Realme กับ Realme GT 6 ตัวท็อปของแบรนด์ที่เปิดตัวช่วงเดือนมิถุนายน มาพร้อมฟีเจอร์ Next AI แบบ On-Device เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น AI Night Vision Mode AI ช่วยเพิ่มแสงในวิดีโอหรือภาพขณะที่เราถ่ายในที่แสงน้อย หรือจะเป็น AI Smart Loop สามารถค้นหารวมถึงสั่งการต่าง ๆ ได้เพียงลากไปด้านขวาและวางสิ่งที่ต้องการลงไป และ Air Gestures สามารถใช้สัญญาณมือในการออกคำสั่งต่าง ๆ
ด้าน OPPO ก็มาพร้อมกับ OPPO AI บน OPPO Reno12 ซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็น Eraser AI 2.0 สามารถลบคนแปลกหน้าและวัตถุที่ไม่ต้องการในภาพ AI Best Face แก้ไขการหลับตาหรือเผลอกระพริบตาได้ AI Clear Face ปรับแต่งทุกใบหน้าให้สวยงามในการถ่ายภาพกลุ่ม และ AI Smart Image Matting 2.0 มอบภาพสุดสร้างสรรค์ เพียงตัดภาพคนหรือสัตว์เลี้ยง แล้วเพิ่มอิโมจิ พื้นหลัง หรือสติกเกอร์อีกมากมายโดยที่ไม่พึ่งแอปฯ ภายนอก
Oppo Reno 12 ซีรีส์
และไม่พูดถึงอีกหนึ่งค่ายยักษ์คงไม่ได้ สำหรับ Apple ที่เปิดตัวฟีเจอร์ Apple Intelligence พร้อมนำมาใช้บน iPhone 16 ซีรีส์ และ iPhone 15 Pro - iPhone 15 Pro Max ไม่ว่าจะเป็น Siri พลัง AI Writing Tools ตัวช่วยปรับสำนวนการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปข้อความได้แทบทุกที่ที่เขียน Clean Up ลบวัตถุออกจากฉากหลังในวิดีโอและพื้นหลังของภาพถ่ายเราได้ หรือ Note ที่ผู้ใช้สามารถบันทึกเสียง ถอดเสียง และสรุปเนื้อหาในเสียงได้แล้วทั้งในแอปฯ โน้ตและโทรศัพท์ และอื่น ๆ อีกเพียบ
เรียกได้ว่าการบุกเบิกเทรนด์ AI แบบ On-Device ของซัมซุงในปีนี้ ทำให้เหล่าแบรนด์สมาร์ตโฟนต่าง ๆ พัฒนาขยับตามกันมามากมาย ซึ่งในอนาคตเชื่อได้ว่าอาจมีฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ เข้ามาอยู่เรื่อย ๆ พร้อมช่วยอำนายความสะดวกในการทำงานหรือไลฟ์สไตล์ของเราได้เป็นอย่างดี
หรือจะเป็น AI Image Expansion ที่สามารถสร้างรายละเอียดอื่น ๆ ของภาพออกมาให้มีความสมบูรณ์และมีรายละเอียดครบกว่าเดิม AI ลบวัตถุ ที่สามารถลบวัตถุที่เราไม่ต้องการออกจากภาพได้ และ AI ลบคนพื้นหลัง ที่ สามารถลบคนบนพื้นหลังที่เราไม่ต้องการได้แบบเนียนตา
ต่อมาวันที่ 18 มิถุนายน Luma Labs ก็ได้เปิดตัว "Dream Machine" AI สร้างวิดีโอสั้นอีกหนึ่งตัวนอกจาก Sora โดย Dream Machine เป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอความยาว 5 วินาที จากการป้อนคำสั่งที่ได้ทั้งข้อความ หรือ Text to Video และภาพ หรือ Image to Video ซึ่งจะใช้เวลาสร้างวิดีโอประมาณ 120 วินาที หรือ 2 นาที ออกมาเป็นวิดีโอสั้นตามที่เราต้องการ
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่แม้จะไม่ใช่เทคโนโลยีช่วยป้องกันเหตุ แต่เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยปกป้องผู้เสียหายจากอาชญากรรมออนไลน์ อย่าง "Take It Down" บริการที่จะช่วยลบ-หยุดการส่งต่อภาพโป๊เปลือย วิดีโอเนื้อหาทางเพศที่ไม่เหมาะสม และเนื้อหาทางเพศอื่น ๆ ของเยาวชนที่อยู่ในภาพ หรือคลิปวิดีโออายุไม่เกิน 18 ปี โดยที่ผู้เสียหายไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตน ไม่จำเป็นต้องส่งรูปภาพหรือวิดีโอให้กับเว็บไซต์ Take It Down แต่อย่างใด
Take it Down
Take It Down พัฒนาโดย Meta ร่วมมือกับ National Center for Missing & Exploited Children (NCMEC) การใช้งานสามารถทำได้ 4 ขั้นตอนง่าย ๆ เริ่มจากเข้าไปที่เว็บไซต์ https://takeitdown.ncmec.org คลิก เริ่ม ซึ่งผู้ใช้ในไทยสามารถเลือกเปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้ จากนั้นตอบคำถามบนเว็บไซต์ ต่อมาเลือกรูปภาพ หรือวิดีโอจากอุปกรณ์ของคุณ ที่กังวลว่าภาพนั้นอาจปรากฏอยู่บนโลกออนไลน์ จากนั้นเว็บไซต์ Take It Down จะกำหนดลายนิ้วมือดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกันซึ่งเรียกว่า ค่าแฮช ให้กับรูปภาพหรือวิดีโอภาพเปลือยนั้น ๆ