27 ธ.ค. 2024 เวลา 10:03 • หนังสือ

The Virgin Suicides เยาว์วายชนม์

แล้วเราก็เดินทางมาถึงเล่มที่ (คาดว่าจะเป็น) เล่มส่งท้ายปี 2024 กันแล้วนะคะ ขออภัยสำหรับความล่าช้าของเล่มนี้ ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วเป็นต้นมาเป็นช่วงที่หนักหน่วงที่สุดในชีวิตของเราเลยค่ะ แต่ในที่สุดเราก็อ่านจบจนได้!! 🎉
The Virgin Suicides #เยาว์วายชนม์ จาก Salmon Books ถ่ายทอดเรื่องราวอัตวินิบาตกรรมของลูกสาวทั้ง 5 คนของครอบครัวลิสบอน "เธอรีส", "แมรี", "บอนนี", "ลักซ์" และ "ซีซิเลีย" จากโลกนี้ไปในช่วงเวลาที่ความสาวของพวกเธอเพิ่งแย้มบานสะพรั่ง น่าฉงนสงสัยจนเหล่าเด็กหนุ่มที่แอบเฝ้ามองพวกเธอด้วยความหลงใหลตลอดมาต้องช่วยกันรวบรวมชิ้นส่วนหลักฐาน สัมภาษณ์พยาน และขุดคุ้ยความทรงจำในครั้งอดีต เพื่อทำความเข้าใจว่าทำไมสาวๆทุกคนในบ้านจึงลงเอยด้วยจุดจบเดียวกันเช่นนี้
เป็นหนังสือที่เราอ่านได้ไม่ค่อยปะติดปะต่อเท่าไหร่นัก ด้วยเนื้อหาที่หนักชวนเครียดจนบางทีก็สงสัยตัวเองว่าจะหยิบเล่มนี้มาอ่านช่วงที่ตัวเองดิ่งเพื่ออะไร ทำไมไม่หยิบเล่มที่สดใสกว่านี้!! 😅
วิธีดำเนินเรื่องจะเป็นรูปแบบการเล่าเรื่องที่เคยเกิดขึ้นโดยชายสักคนที่ ณ ตอนนั้นคงมีวัยไล่เลี่ยกันกับเด็กสาวทั้งห้า พาเราไปสำรวจข้อมูลต่างๆที่พวกเขาเสาะหามาได้ ประกอบจิ๊กซอว์เหล่านั้นเข้าด้วยกันเพื่อมองหาแรงจูงใจของสิ่งที่พวกเขาได้ร่วมเป็นประจักษ์พยาน ออกนอกทางแวะไปเล่าอะไรเรื่อยเปื่อยบ้าง เพ้อเจ้อไร้สาระบ้าง คล้ายกับการฟังคนแก่รำพันเรื่องเก่าๆ ให้อารมณ์น่าเบื่อแต่ก็หดหู่กับเนื้อหาที่ได้ฟัง
แก่นแท้ของการฆ่าตัวตายไม่ได้บรรจุความโศกเศร้าหรือความลี้ลับเอาไว้ แต่เป็นเพียงความเห็นแก่ตัวแสนเรียบง่าย
หลังจากอ่านมาจนจบ เราไม่เห็นด้วยกับข้อความนี้เลยสักนิด สำหรับเด็กสาวตระกูลลิสบอนแล้ว พวกเธอไม่ได้เลือกจากไปเพราะความเห็นแก่ตัวที่จะรีบหนีให้พ้นไปจากภาระหน้าที่ที่เฝ้ารอ หน้าที่ที่จะต้องรับช่วงต่อโลกที่เต็มไปด้วยมลทินมัวหมอง เพราะโลกด้านนอกที่เด็กหนุ่มต่างลงความเห็นกันว่าเสื่อมโทรมไม่น่าพิศมัยนั้น ในสายตาของเด็กสาวแล้วมันกลับเป็นโลกแสนสวยงามที่พวกเธอเฝ้าฝันจะได้ออกไปสัมผัสอยู่ทุกเวลา
ทว่าพวกเธอถูกกีดกันจากความสวยงงามเหล่านั้นด้วยความรักของครอบครัว รักที่เกินพอดีจนมองไม่เห็นว่าสิ่งที่ตนทำเลวร้ายเพียงใด "คุณนายลิสบอน" แม่ของสาวๆนั้นเป็นคนที่เคร่งในศาสนาและยึดติดกับการใช้ชีวิตที่เพียบพร้อมด้วยความดีงามมากเกินไป ความเป็นห่วงเป็นใยลูกอย่างลึกซึ้งของเธอกดดันตัวตนของเด็กๆทั้งห้าจนน่าอึดอัด
ในช่วงวัยแห่งการพยายามค้นหาจุดยืนของตนบนโลกนี้ เด็กสาวแต่ละคนต่างก็เริ่มพัฒนาบุคลิกภาพของตัวเองแตกต่างกันออกไป แต่ผู้เป็นแม่กลับปฏิเสธตัวตนเหล่านั้นของพวกเธอ บังคับให้ลูกทั้งห้าคนต้องเป็นเหมือนกัน เหมือนกับเธอผู้เป็นศาสนิกชนตัวอย่าง คอยขีดเส้นพฤติกรรมของพวกเธอให้อยู่ในกรอบที่ตนคิดเอาว่าดี ลำพังแค่การที่ต้องสับสนกับความเปลี่ยนแปลงในขณะข้ามผ่านจากวัยเด็กไปสู่วัยสาวก็แย่พออยู่แล้ว การถูกลิดรอนตัวตนจนเหลือเพียง "บรรดาลูกสาวตระกูลลิสบอนที่ไม่มีใครแยกออก" มันยิ่งทำให้พวกเธอปวดร้าวยิ่งขึ้น
พวกเธอฆ่าตัวตายจากความล้มเหลวในการตามหารักแท้ที่ไม่มีเราคนใดเติมเต็มให้ได้
แม้เด็กหนุ่มซึ่งตอนนี้เติบโตเป็นชายวัยกลางคนแล้วจะยืนยันว่าพวกเขาหลงรักเด็กสาวลิสบอนมาตลอด และพยายามอย่างยิ่งที่จะฉุดดึงพวกเธอออกมาจากใจกลางความโศกเศร้าที่พวกเธอกลบฝังตัวเองเอาไว้ แต่ก็รู้สึกว่าพวกเธอมองไม่เห็นความรักที่พวกเขามอบให้เลย
ซึ่งแท้จริงแล้วเราคิดว่าเด็กสาวอาจจะมองเห็นความรักเหล่านั้น แต่มันหาใช่ความรักที่พวกเธอปรารถนาไม่ ความรักเดียวที่พวกเธอต้องการ ความรักที่สามารถโอบกอดพวกเธอเอาไว้และมอบแรงใจในการมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ก็คือ "ความรักจากพ่อและแม่ของตัวเอง" ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเธอไม่อาจรับรู้ถึงมันได้เลย
ลองคิดดูว่าแม่ประเภทไหนกันที่โกรธลูกมากจนกักขังเอาไว้ในบ้าน ไม่ให้ออกไปไหน เพื่อจะได้ไม่ต้องพบเจอกับสิ่งเร้าภายนอกที่จะมาดึงลูกๆให้ไขว้เขวออกจากเส้นทางที่เธอกำหนดไว้ แล้วพ่อประเภทไหนกันที่ขี้ขลาดจนเฝ้ามองภรรยาทำร้ายจิตใจลูกๆโดยไม่ห้ามปรามเลยสักนิด บางทีเหตุการณ์นี้อาจจะเป็นบทลงโทษจากสวรรค์ที่สาสมแล้วกับสิ่งที่คุณและคุณนายลิสบอนทำกับลูกๆของพวกเขา รักแบบใดขยี้หัวใจลูกจนแหลกลาญ หักหาญความหมายในการมีชีวิตอยู่ของลูกจนหมดสิ้น
ดังนั้นเมื่อความอดทนดำเนินมาถึงขีดสุด เด็กสาวทุกคน (แม้กระทั่งบอนนีที่ดูจะอยู่ในร่องรอยศาสนาที่สุดในมุมมองของเรา) จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน หนีไปให้ไกลจนพ่อกับแม่ไม่มีวันจะเอื้อมมือไปฉุดรั้งพวกเธอกลับเข้าไปในนรกขุมนั้นได้อีก โบยบินกลับไปสู่อ้อมกอดของพระเจ้าที่ซึ่งพวกเธอจะได้พบกับความสงบชั่วนิรันดร์เสียที
ใครชอบนวนิยายกึ่งๆเหมือนจะเป็นสารคดี/บันทึกเหตุการณ์แบบนี้ ไปจัดมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเองได้ที่ https://s.shopee.co.th/LX7B2uf4a
โฆษณา