Blockdit Logo (Mobile)
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
28 ธ.ค. 2024 เวลา 03:54 • ประวัติศาสตร์

สามพี่น้องผู้โค่นล้มทรราชย์ ผู้เป็นตัวอย่างของพลังมวลชน

25 พฤศจิกายน ค.ศ.1960 (พ.ศ.2503) รถจี๊ปคันหนึ่งพุ่งตกจากภูเขาสูงในสาธารณรัฐโดมินิกัน ร่วงหล่นลงมาด้วยความเร็วจากความสูง 150 ฟุต (ประมาณ 45 เมตร)
นี่ดูเหมือนอุบัติเหตุธรรมดาทั่วไป
แต่ที่จริงนี่ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา และบุคคลที่โดยสารในรถก็ไม่ใช่บุคคลธรรมดา
บุคคลทั้งสามคนบนรถคือ “พี่น้องมิราเบิล (Mirabal Sisters)“ นั่นคือ ”แพทเทรีย เดอ กอนซาเรซ (Patria Mirabal de Gonzáles)“ ”มิเนอร์วา มิราเบิล เดอ ทวาเรซ (Minerva Mirabal de Tavárez)“ และ “มาเรีย เทเรซา มิราเบิล เดอ กุซมาน (Maria Teresa Mirabal de Guzman)”
1
พี่น้องมิราเบิล (Mirabal Sisters)
ทั้งสามพี่น้องคือกลุ่มคนที่กล้าจะลุกขึ้นต่อต้านและเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลเผด็จการของ “ราฟาเอล ตรูฮิโย (Rafael Trujillo)” ผู้นำโดมินิกัน และถูกลิ่วล้อของตรูฮิโยจัดการสังหาร
เรื่องราวของสามพี่น้องได้กลายเป็นตำนานที่โด่งดังและเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการต่อต้านความรุนแรงที่กระทำต่อสตรี
เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังครับ
ราฟาเอล ตรูฮิโย (Rafael Trujillo)
“สามพี่น้องมิราเบิล (Mirabal Sisters)” คือสามพี่น้องชาวโดมินิกันที่เติบโตมาในครอบครัวฐานะดี และเติบโตมาอย่างเด็กทั่วไป
แต่ก็เช่นเดียวกับประชาชนคนอื่นๆ ในโดมินิกันในเวลานั้น ซึ่งต้องอยู่ใต้การปกครองของลัทธิอาณานิคมและความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
ความวุ่นวายได้เริ่มขึ้นในปีค.ศ.1916 (พ.ศ.2459) เมื่อสหรัฐอเมริกาเข้าปกครองโดมินิกัน เนื่องจากว่าสหรัฐอเมริกาเกรงว่าโดมินิกันจะไปเข้ากับเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 (WWI)
1
สหรัฐอเมริกาถอนกำลังออกไปในปีค.ศ.1924 (พ.ศ.2467) และ “โฮราซิโอ วาสเกซ (Horacio Vásquez)“ ก็ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี
โฮราซิโอ วาสเกซ (Horacio Vásquez)
หากแต่ความวุ่นวายยังไม่สิ้นสุด และจบลงด้วยการที่วาสเกซถูกโค่นล้มออกจากตำแหน่งในปีค.ศ.1930 (พ.ศ.2473)
ต่อมา “ราฟาเอล ตรูฮิโย (Rafael Trujillo)” ผู้นำทางการทหารได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี และตรูฮิโยก็รวบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ควบคุมรัฐบาลทั้งหมดและกำจัดศัตรูไม่เหลือ
ในเวลานั้น แพทเทรียซึ่งเป็นพี่สาวคนโตของพี่น้องมิราเบิล เพิ่งจะมีอายุเพียง 13 ปี หากแต่ก็ต้องรับทราบข่าวที่ตรูฮิโยสั่งฆ่าชาวเฮติและชาวโดมินิกันที่มีเชื้อสายเฮติกว่า 30,000 คน และสามพี่น้องก็โตมาในสังคมที่การตั้งคำถามต่อผู้นำหรือความชอบธรรมของรัฐบาลเป็นสิ่งต้องห้าม
1
แต่ยิ่งเวลาผ่านไป รัฐบาลเผด็จการของตรูฮิโยก็มีแต่จะโหดเหี้ยมขึ้นเรื่อยๆ สตรีหลายคนเริ่มออกมาวิพากษ์วิจารณ์และต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ทำให้มีผู้ต้องลี้ภัยทางการเมืองไปต่างประเทศหลายคน
ราฟาเอล ตรูฮิโย (Rafael Trujillo)
ค.ศ.1949 (พ.ศ.2492) จุดเปลี่ยนของพี่น้องมิราเบิลก็มาถึง
ในงานเลี้ยงงานหนึ่ง มีผู้แนะนำมิเนอร์วาให้รู้จักกับตรูฮิโย ซึ่งตรูฮิโยนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังว่าชอบใช้อำนาจกดดันให้หญิงสาวยอมมีความสัมพันธ์กับตน
แน่นอนว่ามิเนอร์วาปฏิเสธ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ตรูฮิโยเป็นอย่างมาก
นับแต่นั้นชีวิตของครอบครัวมิราเบิลก็เปลี่ยนไป ทั้งสามพี่น้องถูกกลั่นแกล้งสารพัด ทั้งต้องออกจากงานและไม่สามารถศึกษาต่อได้ อีกทั้งยังยัดข้อหาแก่พ่อของสามพี่น้อง ทำให้ผู้เป็นพ่อถูกคุมขังในเรือนจำ และทำให้สภาพการเงินของครอบครัวอยู่ในภาวะย่ำแย่
แต่สามพี่น้องอย่างมิเนอร์วา มาเรีย และแพทเทรียก็ไม่ยอมแพ้ หันไปเข้ากับกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามตรูฮิโย และร่วมสนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวต่างๆ
สามพี่น้องช่วยจัดหาและรวบรวมอาวุธกับเสบียงแก่กองกำลังต่อต้านรัฐบาล อีกทั้งยังแจกจ่ายใบปลิวต่อต้านรัฐบาลตรูฮิโยไปทั่วประเทศ
แน่นอนว่าเมื่อความเคลื่อนไหวของสามพี่น้องล่วงรู้ไปถึงหูตรูฮิโย ทั้งสามพี่น้องจึงต้องถูกจับกุม ทรมาน และข่มเหงสารพัด
หากแต่สามพี่น้องก็ไม่ยอมแพ้ ยอมสละได้แม้ชีวิต
แต่การกระทำของตรูฮิโยกลับยิ่งทำให้ความเคลื่อนไหวทางสังคมยิ่งร้อนแรงขึ้นกว่าเดิม แม้แต่คริสตจักรคาทอลิกซึ่งเคยสนับสนุนตรูฮิโย ก็ยังออกมาประณามตรูฮิโย
เหตุการณ์เหล่านี้สร้างความโกรธแค้นแก่ตรูฮิโย และประกาศว่าสามพี่น้องมิราเบิลคือศัตรูอันดับหนึ่งของตน
และแล้ววันสุดท้ายของสามพี่น้องผู้กล้าหาญก็มาถึง
25 พฤศจิกายน ค.ศ.1960 (พ.ศ.2503) ทั้งสามพี่น้องกำลังเดินทางไปยังเรือนจำที่สามีของพวกตนถูกคุมขัง ก่อนที่รถที่โชเฟอร์ขับให้พวกตนจะถูกโจมตีจากเหล่าลูกสมุนของตรูฮิโย
เหล่าลิ่วล้อของตรูฮิโยรุมทำร้ายสามพี่น้องและคนขับรถจนเสียชีวิต ก่อนจะจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุรถตกเขา
รัฐบาลตรูฮิโยออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุ แต่ชาวโดมินิกันก็ทราบดีว่าทั้งสามพี่น้องถูกฆ่า
ผลที่ได้ ก็คือสามพี่น้องมิราเบิลกลายเป็นวีรสตรีระดับชาติ และเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบตรูฮิโย
หลังจากสามพี่น้องมิราเบิลเสียชีวิตเพียงหกเดือน กรรมก็ตามสนองตรูฮิโย โดยตรูฮิโยถูกกลุ่มต่อต้านรัฐบาลจำนวนเจ็ดคนรุมสังหาร โดยขณะถูกสังหารนั้น ตรูฮิโยกำลังเดินทางไปหาเมียน้อยของตน
สำหรับกลุ่มนักฆ่าที่สังหารสามพี่น้องนั้น ถึงแม้จะถูกจับและติดคุก แต่สุดท้ายก็สามารถแหกคุกหนีออกมาได้ และก็ไม่เคยต้องรับกรรมอีกเลย
สภาพรถที่ถูกโจมตีของตรูฮิโย
พี่น้องมิราเบิลกลายเป็นไอคอนระดับชาติ บุตรหลานของสามพี่น้องหลายคนก็โตมาทำงานในรัฐบาลโดมินิกัน และ “ผีเสื้อ” ซึ่งเป็นฉายาของสามพี่น้อง ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและการต่อต้าน
นอกจากนั้น ใบหน้าของสามพี่น้องยังปรากฎบนธนบัตรของประเทศ และเป็นแรงบันดาลใจต่องานเขียนต่างๆ มากมาย
ในปัจจุบัน พี่น้องมิราเบิลได้ถูกจดจำในฐานะของผู้กล้าหาญที่กล้าลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลอัปรีย์ อีกทั้งยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเหยื่อความรุนแรงทางเพศ
ในปัจจุบัน วันที่ 25 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันที่สามพี่น้องถูกฆ่า ได้ถูกกำหนดให้เป็นวันขจัดความรุนแรงต่อสตรีทั่วโลก ซึ่งเป็นวันที่ให้ตระหนักและรำลึกถึงเหยื่อที่ถูกสังหารจากความรุนแรงทางเพศ
1
ในปีค.ศ.2006 (พ.ศ.2549) “มิโน ทาบาเรซ มิราบัล (Minou Tavárez Mirabal)“ นักการเมืองและเป็นบุตรสาวของมาเรีย ได้กล่าวสปีช ความว่า
“ยังเหลืออีกหลายอย่างที่ต้องทำ แต่เราก็ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้สำเร็จแล้ว โดยตลอดการเดินทาง มิเนอร์วา แพทเทรีย และมาเรีย เทเรซาก็อยู่กับพวกเรามาโดยตลอด และให้ความชอบธรรมแก่การต่อสู้ของพวกเรา“
มิโน ทาบาเรซ มิราบัล (Minou Tavárez Mirabal)
และนี่ก็คือเรื่องราวของสามพี่น้องผู้เป็นความหวังและเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการต่อสู้ของคนธรรมดา
โฆษณา