เมาแล้วขับ ระวัง! AI จับได้
วนกลับมาถึงเทศกาลปีใหม่กันอีกแล้ว หลายคนคงมีแผนออกไปเที่ยวพักผ่อน สังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือกลับบ้านไปใช้เวลากับครอบครัว แต่นอกจากความสนุกแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่เราต้องให้ความใส่ใจเสมอคือเรื่องความปลอดภัยในการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการเมาแล้วขับ 🚘
จากสถิติของกรมขนส่งทางบก ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่ผ่านมา มีคดีเมาแล้วขับสูงถึง 7,864 คดี ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงมาก แสดงให้เห็นว่าการเมาแล้วขับยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่สังคมไทยต้องเร่งแก้ไข ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เพื่อเข้ามาช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหานี้
ตัวอย่างที่น่าสนใจคือในสหราชอาณาจักร ที่มีการทดลองใช้กล้องตรวจจับผู้เมาแล้วขับด้วย AI ที่มีชื่อว่า "Heads-Up" 📹 ระบบนี้ใช้กล้องวงจรปิดเพื่อสังเกตพฤติกรรมการขับขี่ที่ผิดปกติ เช่น การขับรถส่ายไปมา เปลี่ยนเลนกระทันหัน หรือเปลี่ยนความเร็วอย่างผิดปกติ เมื่อตรวจพบความผิดปกติ ก็จะส่งสัญญาณไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการกับผู้ที่เมาสุราได้อย่างทันท่วงที ซึ่งช่วยจับกุมผู้ขับขี่ที่เมาแล้วขับได้เป็นจำนวนมาก
การนำ AI มาใช้ในลักษณะนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย ทำให้จับกุมผู้กระทำผิดได้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังเป็นการป้องปรามไม่ให้ผู้ที่ดื่มแล้วกล้าขับรถ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกจับได้ ซึ่งจะนำไปสู่ความปลอดภัยที่มากขึ้นบนท้องถนน และช่วยลดอุบัติเหตุจากเมาแล้วขับในระยะยาว
🤖 แม้ว่าการใช้เทคโนโลยี AI ในการตรวจจับเมาแล้วขับจะยังไม่แพร่หลายในประเทศไทย แต่ก็เป็นเทรนด์อนาคตของความปลอดภัยบนท้องถนนที่น่าจับตามอง อย่างไรก็ตาม การนำระบบเหล่านี้มาใช้งานจริงจำเป็นต้องคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของประชาชนและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจากกล้องวงจรปิด รวมถึงความโปร่งใสและความเป็นธรรมของการทำงานของ AI เพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องกำกับดูแลอย่างรอบคอบ
ในอนาคต เชื่อว่าเทคโนโลยี AI จะถูกพัฒนาและนำมาใช้เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนมากขึ้นทั่วโลก ไม่เพียงแค่การจับผู้เมาแล้วขับเท่านั้น แต่อาจจะขยายไปสู่การตรวจจับการกระทำผิดกฎจราจรอื่นๆ เช่น การขับรถเร็วเกินกำหนด หรือการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ และอาจจะมีการบูรณาการเข้ากับแผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะเพื่อยกระดับความปลอดภัยในวงกว้าง
สุดท้ายนี้ อยากจะย้ำว่าไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปแค่ไหน ปัจจัยที่สำคัญที่สุดของความปลอดภัยบนถนนก็ยังคงอยู่ที่ตัวเราทุกคน หากเรามีจิตสำนึกในการขับขี่ที่ดี มีวินัยจราจร และไม่ขับรถเมื่อดื่มแอลกอฮอล์ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้มากทีเดียว
ในเทศกาลปีใหม่นี้ นอกจากจะตื่นเต้นกับเทคโนโลยีที่กำลังจะเข้ามาช่วยสร้างความปลอดภัยแล้ว อย่าลืมที่จะเริ่มต้นสร้างความปลอดภัยให้ตัวเราและคนรอบข้างด้วยการขับขี่อย่างมีสติ ไม่เมาแล้วขับ เพื่อทุกคนจะได้เฉลิมฉลองปีใหม่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข สนุกสนาน และปลอดภัยครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีปีใหม่ทุกท่านค่า
อ้างอิง : สถิติคดีเมาแล้วขับในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
