มีคนไปถามหลวงตารูปหนึ่ง “หลวงตายังมีอารมณ์อยู่ไหม” หลวงตาตอบ “ มี แต่ ไม่เป็น” ความหมายของหลวงตาคือ?
เมื่อเราเป็นผู้ที่ที่ถามท่าน หากเราเป็นผู้ที่ที่อยู่ใกล้ชิด เราก็ควรซักถามท่าน ..เพื่อที่เราจะได้ทำตวามเข้าใจ เพราะผู้ที่ตอบได้ดี ..ก็คือหลวงตา
เราก็เคยถามหลวงตา ที่ท่านสอนว่า คนเราอยู่กับอารมณ์ ก็ไม่รู้จักอารมณ์ อยู่กับกรรม ก็ไม่รู้จักกรรม แล้วเรื่องราวของจิต กับอารมณ์กรรมตัวกระทำ ท่านก็บอกว่า ต้องสร้างบุญกุศลบารมี จนไปเห็นตัวอารมณ์กรรม ตัวกระทำต่างๆทีจิตเราตกเป็นทาสของอารมณ์ ต้องทำจิตปฏิบัติธรรมจนไปเห็นเรื่ิงราวเหล่านี้ ที่สะสมอยู่กับเรื่องราวกรรม ที่สะสมมาเป็นอเนกชาติ ..
สิ่งที่จะช่วยในการสำรวจตรวจสอบ ..กรรมที่อยู่กับธาตุทั้งสี่นั้น จิตต้องมีแสง แสงของรัตนะ ที่เค้าเรียกว่า จิตนั้นจุดเทียนธรรมขึ้นมา เพื่อสำรวจตรวจสอบ สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในกาย ที่จิตมีสติสัมปชัญญะ ทำให้กายนิ่ง ..จิตนิ่ง .. แล้วอาศัยจิตที่นิ่งได้ จิตมีแสงสว่าง ..อาศัยจิตที่นิ่ง ส่องดู สีของกรรม เม็ดทรายอนูต่างๆ ที่บันทึกเก็บไว้กับธาตุทั้งสี่ ให้ค่อยละลาย หลุดออกไปไหล ออกไปจากธาตุทั้งสี่ที่ประกอบกายให้จิตอาศัย เมื่อจิตนั่น เป็นธรรม สะอาดหมดจด ..สะสางด้วยคำว่าขันติเป็นบารมี
เมื่อเราเจอะเจอพระปฏิบัติ ..เราก็ควรนอบน้อม สอบถามในเรื่องราวของการประพฤติปฏิบัติ เมื่อท่านบอกให้ เราก็นำมาฝึกหัดปฏิบัติ เมื่อปฏิบัติขึ้นมา มีอะไรที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติ เราก็ไปขอคำแนะจากพระที่ท่านชี้ทางให้ คราวนี้ ..เมื่อเรามาสอบถาม ..คำถามอย่างนี้ ในBD ที่มีทั้งคนที่ปฏิบัติ หรือไม่ปฏิบัติเลย บ้างก็เพียงอ่านจดจำตำรา .เพราะฉะนั้น เมื่อเราเป็นสอบถาม เราก็ต้องถามตัวเองว่า เราเป็นผู้ปฏิบัติด้วยหรือไม่ หรือ ถามมาเพื่อ..เอาแค่รู้จำ ว่าท่านว่าอย่างนั้นอย่างนี
มีพระที่สอนเรา ..ท่านบอกว่า เอ้า..เอาตัวนี้ไปทำ ..อย่าให้ตัวติเตียนมัน เกิดที่ตัวเรา เมื่อมันเกิดตัวเตียน เกิดขึ้นที่ตัวเรา ก็ละ..หยุด มันซะ..ตัวติเตียน ท่านบอกว่า จิตเราเป็นจิตน้อยๆ มันละทีเดียวไม่ได้ ต้องค่อยๆละ ทำความรู้จักไปทีละตัว ..ตัวพอใจไม่พอใจ ตัวไม่ได้ดังใจ ..เอ่้า..อีกตัวหนึ่ง ..ไม่ให้เห็นใครผิดเลย ไม่เห็นตัวเองดีแล้ว..เรานั้นเป็นจิตน้อยๆ ไม่รู้อารมณ์ ..ตอบคำถามนี้ไม่ได้ ต้องไปถามหลวงตาท่านเอง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
